ว่าด้วยเรื่องค่า xG จากเกม ลิเวอร์พูล พบ เชลซี เกมชิงคาราบาวคัพ

หมายความว่าทีมสิงโตน้ำเงินครามควรจะจบเกม 90 นาทีด้วยการมีประตูอย่างน้อย 2 ลูก และอาจจะไปได้ถึง 3 ประตู

ค่า xG คือศัพท์ใหม่ในโลกฟุตบอลทุกวันนี้ที่มีเรื่องข้อมูลสถิติต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น การดูบอลในยุคนี้มีอะไรที่ตอบสนองความต้องการของผู้ชมได้หลากหลาย

เพราะเราไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด บางคนดูบอลเพื่อความสนุก ผ่อนคลาย บางคนดูบอลเพื่อศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับศาสตร์ลูกหนัง บางคนก็ดูบอลไปโดยที่วิเคราะห์การเล่นของแต่ละทีมไปด้วย

เมื่อมีการทำประตูเกิดขึ้น บางคนอาจจะแค่ดีใจ เสียใจ แต่บางคนมองลึกไปถึงเหุผลของการได้ประตู-เสียประตูนั้นๆ ความผิดพลาดของแท็กติกต่างๆ

ในยุคก่อนก็คงมีแฟนบอลหลากหลายอย่างนี้เหมือนกัน เพียงแต่การตอบสนองต่อความต้องการในยุคนั้นไม่ได้มีเครื่องไม้เครื่องมือทันสมัยเหมือนปัจจุบัน

เวลานี้ถ้าเราอยากรู้ข้อมูลลึกๆ จากเกมฟุตบอลสักเกมหนึ่ง ทีมฟุตบอลสักทีมหนึ่ง หรือนักฟุตบอลสักคนหนึ่งเราสามารถหาข้อมูลที่เป็นรายละเอียดได้ไม่ยาก สถิติการวิ่ง ค่าประสิทธิภาพเกมรุก ตัวเลขการเข้าปะทะของผู้เล่นเกมรับ

ความเร็วสปีดต้น การเปลี่ยนโอกาสเป็นประตู หรือกระทั่งแนวทางการบริหารสโมสรผ่านการทำงานของผู้อำนวยการกีฬาทั้งหลาย สไตล์ใครเป็นแบบไหนมีข้อมูลให้เราได้ศึกษาทั้งนั้น

ทุกวันนี้ข้อมูลก็ยังคงเป็นอำนาจ สำหรับคนที่ขลุกอยู่กับวงการนี้อย่างจริงจังหรือต้องทำงานเกี่ยวกับมัน นักวิเคราะห์ฟุตบอลหลายคนกินนอนแต่งงานกับมัน และก็เป็นอาชีพที่แทบจะทุกสโมสรต้องจ้างไว้เป็นบุคลากร

สำหรับผม ค่าต่างๆ ที่ประมวลออกมาให้เห็นเป็นตัวเลขหรือสถิติมันก็ทำให้การดูฟุตบอลสนุกขึ้นนะครับ ถือเป็นสีสันที่เพิ่มเติมเข้ามาให้เรามองเห็นเกมลูกหนังที่เราเพิ่งจะชมไปในภาพที่ละเอียดกว่าเดิม

กระทั่งเราไม่ได้ใส่ใจที่จะเฟ้นหามัน แต่หลายๆ ครั้งตัวเลขสถิติเหล่านั้นก็ผ่านมาเข้าหูเข้าตาเราเองจากที่มาทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นสื่อโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ หรือที่เยอะหน่อยก็สื่อออนไลน์ที่ครอบคลุมการรับสื่อของเราไปร่วม 90 เปอร์เซนต์

ไม่ได้ตั้งใจจมลึกลงไปกับกองข้อมูลเพื่อหาค่านู้นค่านี้ค่านั้น แต่อ่านข่าวดูความเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊กไปเรื่อยๆ บางทีก็เห็นมันเองโดยบังเอิญ หรือบางครั้งเตรียมข้อมูลเขียนงานหรือเข้ารายการก็จะได้เจอกับข้อมูลเชิงลึกในแง่มุมต่างๆ

เหล่านี้ล้วนเป็นข้อมูลจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นทั้งสิ้น เป็นการพัฒนาที่สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตในยุคปัจจุบันที่ตอบสนองความต้องการของผู้คนที่หลากหลายในสังคม

กับค่า xG บางคนเห็นแล้วก็เฉยๆ บางคนรู้สึกว่ามันจะอะไรกันนักกันหนา แต่สำหรับบางคน นี่คือตัวเลขแห่งสวรรค์ยังไงยังงั้น โดยเฉพาะกับคนที่หลงใหลในเรื่องสถิติ

ผมคงไม่จริงจังกับมันขนาดนั้น แต่ก็รู้สึกว่าเมื่อมีมันเข้ามารวมไปถึงตัวเลขอื่นๆ ก็ทำให้การดูฟุตบอลลึกขึ้น ทั้งยังได้เข้าใจธรรมชาติของฟุตบอลมากขึ้นแบบที่เรียกว่ามีอะไรที่สามารถอ้างอิงได้มารองรับในสิ่งที่เกิดขึ้น

เพราะหลายครั้งที่เราเห็นว่ารูปเกมที่เกิดขึ้นกับผลการแข่งขันที่ออกมานั้นไม่ได้สอดคล้องกันเลย คุณอาจจะแพ้ 0-1 หรือกระทั่ง 0-4, 0-5 ในเกมที่คุณบุกโขยกฝ่ายตรงข้ามอยู่ฝั่งเดียวก็ได้

ทุกวันนี้ผมไม่ได้ถึงขนาดต้องขวนขวายหาค่า xG ของแต่ละทีมในแต่ละเกมให้ได้อะไรขนาดนั้น เว้นแต่อยากจะรู้เพื่อนำมาเสริมในงานเขียน หรือเพราะคาใจกับผลการแข่งขันบางคู่

ในเกมลีก คัพ นัดชิงที่ผ่านมา โอกาสทำประตูของเชลซีสูงถึง 2.4 ลูกแต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรติดมือเลย ทั้งประตูและโทรฟี่แชมป์

มันสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้น 2 เรื่อง นั่นคือ

1. เชลซีใช้โอกาสเปลือง

2. ควีวิน เคลเลเฮอร์ นายทวารลิเวอร์พูลงัดฟอร์มสุดยอดออกมาปัดป้องได้หมด

มันก็ทั้งข้อ 1 และ 2 รวมกัน ซึ่งแน่นอนว่าในระดับการทำงานของสโมสรจะต้องนำเอาสถิติทั้งหลายเหล่านั้นไปผนวกกับสถิติอื่นๆ ที่ละเอียดยิบเพื่อวิเคราะห์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น มองให้เห็นปัญหาและหาวิธีแก้ไขต่อไป

ฟุตบอลกับการวิเคราะห์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นของคู่กัน การพัฒนาจะเกิดขึ้นได้ต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด และในยุคปัจจุบันมีเครื่องไม้เครื่องมือที่เอื้อต่อการวิเคราะห์ปัจจัยด้านต่างๆ อีกมาก

มากจนดูเหมือนอะไรๆ ก็ง่ายไปหมด อยากได้ข้อมูลตรงไหนก็หามาได้เลย ง่ายๆ ไม่กี่นาทีก็ค้นเจอ

แต่การทำทีมฟุตบอลสักทีมให้ดี มันก็ยังคงไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนเสก นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นมาตลอดนับแต่อดีตที่อุปกรณ์ทั้งหลายยังล้าสมัย มาจนถึงปัจจุบันที่ทุกอย่างหาได้เพียงลัดนิ้วมือ และอาจเลยเถิดไปถึงอนาคตที่น่าจะเป็นยุคของโลก AI การประมวลผลหาคำตอบจะยิ่งโหดขึ้นไปอีกถึงระดับอะตอม

อยากรู้เหมือนกันนะครับว่าในวันที่วิทยาการก้าวล้ำนำสมัยแบบที่สุด เราอาจจะซื้อของได้ทันทีเพียงแค่นึกถึงสินค้าชิ้นนั้น หรือมีอุปกรณ์แปลภาษาได้ทั่วโลกเสียบหูพูดคุยตอบโต้กับเพื่อนต่างประเทศอย่างเข้าใจความหมายร้อยเปอร์เซนต์จนโรงเรียนนานาชาติไม่สำคัญอีกต่อไป เราจะสามารถสร้างทีมฟุตบอลที่สมบูรณ์แบบไม่มีความผิดพลาดใดๆ เลยได้ไหม

ทีมที่นักฟุตบอลทุกคนมีสภาพร่างกายสมบูรณ์เต็มที่ กล้ามเนื้อแข็งแรงเต็มพิกัด เล่นฟุตบอลด้วยระบบที่ยืดหยุ่นเหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์ตรงหน้า ฉลาดหลักแหลม และเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูได้ในระดับสมบูรณ์แบบ

ส่วนตัวแล้วยังคิดว่าไม่น่าได้ เพราะต้องไม่ลืมว่าในขณะที่ผู้เล่นเกมรุกฉลาดและเก่งที่สุดแล้ว ผู้เล่นเกมรับในวันนั้นก็จะเป็นนักเตะที่ครบเครื่องในเกมรับและหลักแหลมที่สุด สามารถทำให้เกมรุกที่เก่งกาจก่อความผิดพลาดได้เช่นกัน

ฟุตบอลเป็นเรื่องของความผิดพลาด ใครบริหารความผิดพลาดให้เกิดขึ้นน้อยที่สุดจะได้เปรียบที่สุด แต่จะไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้นเลยตลอด 90 นาที ดูจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

มันเป็นอย่างนี้มาทุกยุคทุกสมัย และคงจะยังเป็นอย่างนั้นต่อไปในอนาคต

ตังกุย