การแข่งขันมวยสากลโอลิมปิคเกมส์ 2024 รอบคัดเลือก เลกแรก "World Qualifying Olympic Tournament 2024" ที่เมืองบุสโต อาซิซิโอ ประเทศอิตาลี ล่าสุดเมื่อช่วงดึกวันที่ 7 มี.ค. เป็นการชกในรอบ 32 คนสุดท้าย มีนักมวยสากลทีมชาติไทยขึ้นเวที 4 คู่ เริ่มจากมวยสากลหญิงรุ่น 54 กก. "เจ้าเฟี้ยว" จุฑามาศ จิตรพงษ์ พบกับ โจฮานา คาโรลินา โกเมซ ลาแดตา จากเวเนซุเอล่า ตลอดการชกทั้ง 3 ยก จุฑามาศ ออกอาวุธได้อย่างจะแจ้ง แม้จะโดนนักชกจากเวเนฯที่พยายามชิงจังหวะดักต่อยได้หลายหมัด ครบยก เจ้าเฟี้ยว เป็นฝ่ายชนะอย่างสุดมัน 3-2 ผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้าย 

รุ่น 57 กก.ปรีดากมล ถิ่นทับไทย พบกับ มาซาติ ฮัมซาเยวา อักฮามาลิเยวา จากอาเซอร์ไบจาน ตั้งแต่ยกแรกนักชกสาวจากอาเซอร์ไบจาน เป็นฝ่ายเดินรุกไล่อย่างหนัก แต่ ปรีดากมล ยังดักออกหมัดเข้าเป้าทุกยก ครบยกนักชกสาวไทยเป็นฝ่ายชนะ 3-2 ผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้าย ทั้งนี้ ปรีดากมล กล่าวว่า ดีใจที่ผ่านเข้ารอบต่อไปได้ ยอมรับรู้สึกตื่นเต้นกับเกมคัดโอลิมปิกหนแรกแต่ก็คิดเสมอทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถต่อยตามที่โค้ชบอกไว้ ส่วนตอนนี้ยังไม่อยากตั้งความหวังไว้มากขอดูรอบต่อรอบดีกว่าแต่จะตั้งใจคว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ให้ได้

ขณะที่มวยสากลชาย รุ่น 63.5 กก. "เจ้าบอล" สมชาย วงศ์สุวรรณ พบกับ เฆซุส โควา จากเวเนซุเอล่า ยกแรก สมชาย ดึงจังหวะออกหมัดได้อย่างแม่นยำทำคะแนนนำไปก่อน 5-0 ขึ้นยกสองนักชกเวเนฯ เร่งเดินหน้าออกหมัดแบบไม่ยอมให้สมชายได้หายใจทำคะแนนกลับมานำ 4-1 ต้องมาชิงดำในยกสุดท้าย และเป็นนักชกจากเวเนฯ ที่ออกหมัดได้อย่างจะแจ้งกว่าเป็นฝ่ายชนะ 3-2 ส่งผลให้ สมชาย  ต้องตกรอบ 32 คนอย่างน่าเสียดาย ทั้งนี้ สมชาย กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังที่ไม่สามารถเข้ารอบต่อไปได้ ยอมรับยกสองตั้งตัวไม่ติดนักชกเวเนฯไล่บี้อย่างหนักจนตั้งรับไม่ทัน อยากจะขอแก้ตัวในเลกสุดท้ายที่ไทย

ปิดท้ายที่รุ่น 92 กก.จักรพงษ์ ยมโคตร พบกับ อาร์ยัน ซาเอ็ด ปานาห์ นักมวยผู้ลี้ภัยชาวอิหร่าน ตลอดการชกทั้ง 3 ยก จักรพงษ์ ออกหมัดเข้าเป้าอย่างแม่นยำ แม้ยกสุดท้ายจะถูก ซาเอ็ด พยายามชวนทะเลาะอยู่ตลอด ท้ายยก ซาเอ็ด ต่อยใต้เข็มขัดจนกรรมการเตือนหลายครั้งสุดท้ายโดนตัดคะแนน ครบยก จักรพงษ์ เป็นฝ่ายชนะขาดลอย 4-0 ผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้าย โดยจักรพงษ์ กล่าวว่า ยก 3 ตนยอมรับคุมอารมณ์ไม่อยู่โดนคู่ชกต่อยใต้เข็มขัดหลายครั้งจนทำให้รู้สึกโมโห เลยปักหลักแลกหมัดไปเลยทั้งที่ต้องต่อยแบบใช้ชั้นเชิงเพราะคะแนนนำห่าง รอบหน้าจะต่อยให้รัดกุมมากกว่านี้

หลังเกม พ.ต.ท.วิจารณ์ พลฤทธิ์ หัวหน้าสต๊าฟโค้ชทีมหญิง เผยว่า จุฑามาศชนะนัดนี้ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น รอบหน้าเจอกับนักมวยญี่ปุ่นซึ่งเป็นมวยซ้าย ต้องวางแผนให้รัดกุม ยังดีที่เราไม่บอบช้ำมากเกินไป ส่วนรายของปรีดากมล เราเสียเปรียบเวตเล็กกว่าแต่ชกได้ดี มีหมัดชุด รอบหน้าเจอกับมวยตุรกีไม่ธรรมดา

ส่วนทางด้าน ร.ต.สุฤทธิ์ ยิ่งกำแหง หัวหน้าสต๊าฟโค้ชทีมชาย เผยว่า สมชายชกไฟต์นี้แพ้เขาจริงๆ ยกแรกเราชกได้ดี แต่ยก2 เขาจู่โจมเร็วทำเราลนลานไปเอง น่าเสียดายจริงๆ ก็ต้องไปรอแก้ตัวที่บ้านเรา ส่วนรายของ จักรพงษ์ เราโดนต่อยกระจับไป3หนทำเอาเสียกำลังไปไม่น้อย ดีที่กรรมการตัดคะแนนคู่ชก เราผ่านไปได้เจอกับมวยเยอรมันที่แข็งแกร่งไม่เบา เป็นรองก็จริงแต่สู้เต็มที่ครับ