เปิด 2 จุดสังเกต เป็นเหตุ เลสเตอร์ โวยโดน พรีเมียร์ลีก-อีเอฟแอล รุมกินโต๊ะ!

เปิด 2 จุดสังเกต เป็นเหตุ เลสเตอร์ โวยโดน พรีเมียร์ลีก-อีเอฟแอล รุมกินโต๊ะ!
เหล่าสาวก เลสเตอร์ โวยว่า พรีเมียร์ลีก กับ อีเอฟแอล ไม่ยุติธรรมกับทีมรักของพวกเขาจากการตั้งข้อหาการละเมิดกฎการเงิน พร้อมยกเรื่องที่ว่ามีทีมใหญ่บางทีมที่ยังไม่โดนลงโทษสักทั้งที่โดนตั้งข้อหาบานเบอะ

แฟนบอล เลสเตอร์ ซิตี้ ตั้งประเด็นว่าฝ่ายจัดการแข่งขันของทั้ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ อิงลิช ฟุตบอล ลีก (อีเอฟแอล ซึ่งรับหน้าที่ดูแลใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ, ลีก วัน และ ลีก ทู) ดำเนินการแบบไม่เป็นธรรมกับทีมรักของพวกเขา

ไม่กี่วันก่อน เลสเตอร์ ได้รับข่าวร้ายเมื่อมีการระบุว่าพวกเขาละเมิดกฎควบคุมการเงินด้านการทำกำไรในระดับที่เหมาะสมและการทำให้ทีมมีความมั่นคง (พีเอสาร์) ไปจนถึงการไม่ได้ยื่นบัญชีด้านการเงิน ซึ่งความผิดเหล่านี้อาจนำไปสู่การตัดแต้มได้เลย

อย่างไรก็ตาม "สุนัขจิ้งจอก" ยืนกรานว่าพวกเขาไม่ได้ทำผิดตามที่โดนกล่าวหา พร้อมกับประกาศว่าจะสู้คดีนี้กับทั้ง พรีเมียร์ลีก และ อีเอฟแอล อย่างเต็มที่ โดยตอนนี้ เลสเตอร์ กำลังทำผลงานได้ดีใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ จนมีลุ้นที่จะกลับสู่ พรีเมียร์ลีก ได้อย่างรวดเร็ว

กระทั่งล่าสุด บรรดากองเชียร์ เลสเตอร์ ก็บอกว่าการดำเนินในครั้งนี้ของ พรีเมียร์ลีก และ อีเอฟแอล มีจุดที่แปลกอย่างมาก โดยแบ่งเป็นข้อ ๆ ได้คือ

1. ที่จริงแล้วการตรวจสอบการเงินต้องทำต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี แต่ในฤดูกาลนี้ เลสเตอร์ ไม่ได้เล่นอยู่ใน พรีเมียร์ลีก ดังนั้นกฎนี้จึงไม่ควรครอบคลุมข้ามมาอยู่ใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นการปฏิบัติเกินขอบเขตอำนาจอย่างชัดเจน และเลือกปฎิบัติกับบางทีมเท่านั้น

2. การที่ทำไมทั้ง พรีเมียร์ลีก และ อีเอฟแอล ถึงร่วมมือกันเร่งรัดตรวจสอบและสอบสวนในเรื่องนี้ ทั้งที่ศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลนี้ยังไม่จบ แถมถ้าไปเทียบกับกรณีทีมอื่น ๆ ที่โดนตั้งข้อสงสัยว่าละเมิดกฎการเงินนั้นกลับไม่มีความคืบหน้ามากเท่าที่ควร อย่างเช่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่โดนไปถึง 115 ข้อหา

ด้วยเหตุนี้ เหล่าสาวก เลสเตอร์ เลยเชื่อว่า พรีเมียร์ลีก และ อีเอฟแอล กำลังปฏิบัติกับทีมรักแบบไม่เป็นธรรมเพื่อทำให้เกิดความเสียหายและจงใจเล่นงานทีมเล็ก ๆ ที่มีเจ้าของเป็นคนเอเชีย พร้อมกับแสดงความคาดหวังว่าแฟนบอลจากทีมอื่น ๆ และทุกคนที่รักความเป็นธรรมจะรวมพลังกันเพื่อต่อสู้กับความอยุติธรรมในครั้งนี้


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport