บรูไน - ลอรีอัล ปารีส สู้กันมันส์ก่อนเสมอ ศึกขี่ม้าโปโลแอมบาสเดอร์

การแข่งขันขี่ม้าโปโล รายการ "แอมบาสเดอร์คัพ 2025 " ระหว่างวันที่ 1-8 ก.พ. 68 ที่สนามวีเอส สปอร์ต คลับ เป็นแมตช์ที่ 2 ของฤดูกาลนี้ เพื่อเป็นการเตรียมทีมนักกีฬาสำหรับการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 9-20 ธ.ค. 2568  สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้มีทีมเข้าร่วมแข่งขัน 6 ทีมโดยจะแบ่งออกเป็น 2 สายแข่งแบบพบกันหมด ทีมอันดับ 1-2 ของแต่ละสายเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ  

สำหรับสายเอ ประกอบด้วย "แชมป์เก่า" คิง เพาเวอร์ ที่ส่งนักกีฬาทีมชาติไทยดีกรีเหรียญเงินซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ลงฟูลทีมนำโดย สองพี่น้อง "ศรีวัฒนประภา" อภิเชษฐ์-อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ,  บรูไน , ลอรีอัล ปารีส ที่นำทีมโดย พลอย ปิ่นแสง แชมป์เก่าในปี 2024 ที่ลงแข่งในนาม เต่าบิน ส่วนสายบี ประกอบด้วย อะมีบ้า บรูไน นำทีมโดย เจ้าหญิงอาซีมะฮ์ โบลเกียห์, โกลบอลพอร์ต จากประเทศฟิลิปินส์ และ สยามโปโลปาร์ค พัทยา ที่นำสองพี่น้องดาวรุ่ง"โตมงคล" หมิงหมิง " ชนม์นฤทธ์  และ "หลิงหลิง" ศศิร์รัช โตมงคล 

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมาเป็นการแข่งขันรอบแรกของสายเอ ระหว่างทีม ลอรีอัล ปารีส ที่มีสองนักกีฬาไทยอยู่ในทีมคือ พลอย ปิ่นแสง และ สาธิต วงศ์กระโซ่ ลงสนามพบกับ ทีมบรูไน โปโลทีม  ที่มี เจ้าหญิงอาซีมะฮ์ โบลเกียห์ นำทีมลงสนาม 

เกมของคู่นี้ทั้งสองทีมมีแฮนดิแคปทีมเท่ากัน 6 โกล จึงไม่มีแต้มต่อ เปิดเกมในชักก้าแรก บรูไน โปโลทีม ที่มีผู้เล่นเกมรุกที่ดุดันอย่าง เฟอร์นานโด ริเวร่า และ ฟาริด อับดุลลาห์ ที่เล่นเกมรุกเร็ว พาทีมขึ้นนำ 3-0 คะแนน ในชักก้าแรก 

ชักก้าที่ 2  บรูไน โปโลทีม เปิดเกมรุก และ เจ้าหญิงอาซีมะฮ์ โบลเกียห์ ที่ได้รับบอลพาบอลตีขึ้นไปทำประตูแรกให้กับตัวเองพาทีมบรูไนนำ 3-0 คะแนน  แต่ช่วงเวลาท้ายชักก้าที่ 2 มิเกล ได้บอลและเลี้ยงขึ้นไปยิงไปทำประตูให้ ลอรีอัล ไล่มา 1-3 คะแนน  และก่อนหมดเวลาในชักก้าที่ 2 มิเกล เข้าไปแย่งบอลเปลี่ยนเกมยิงพาบอลขึ้นไปยิงประตูไล่มา 2-3 คะแนน 

ชักก้า 3   เกมของสองทีมยังเล่นได้อย่างสนุก ผลัดกันรุกและรับ เปลี่ยนเกม จนผ่านไป 3 นาที ฝั่งลอรีอัล ได้ฟาว์ล และส่งให้ มิเกลขึ้นไปยิงลูกโทษตีเสมอ แต่มิเกลซัดแรงไปทำให้ลูกออกข้างตีเสมอไม่สำเร็จ ยังทำแต้มไล่ 3-4 คะแนน และเกมกลับมาเริ่มกันใหม่ เกมยังผลัดกันรุกและรับ และจังหวะที่ บรูไน ได้บอล แต่โดนสกัดจาก ลอรีอัล ทำให้เสียบอล บรูไนจึงได้ยิงลูกโทษ และระยะการยิงครั้งนี้ ผู้เล่นจากบรูไนไม่พลาด ง้างเข้าไปเต็มประตูขยับนำ 5-3 คะแนน  ด้านลอรีอัล ไม่ปล่อยให้แต้มห่าง มิเกล เมื่อเปลี่ยนเกมมาเป็นของตัวเองได้ก็เลี้ยงลูกเข้าไปยิงไล่มา 4-5 คะแนน  และก่อนหมดเวลาชักก้าที่ 3 บอลอยู่ในการครอบครองของมิเกล ที่เลี้ยงขึ้นไปหน้าประตู ก่อนจะส่งต่อให้ สาธิต ยิงทำประตูตีเสมอให้ ลอรีอัล ได้สำเร็จที่ 5-5 คะแนน 

ชักก้าที่ 4 เป็นการแข่งขันในชักก้าสุดท้ายและเป็นบรูไนที่ได้จุดโทษขึ้นนำ 6-5 คะแนน ตั้งแต่นาทีแรก  ในขณะที่ ลอรีอัล พยายามจะเร่งทำสกอร์ให้กลับมาเสมออีกครั้ง จนเวลาเหลือ 3 นาทีสุดท้าย ลอรีอัล ปารีส ที่ได้ครองบอล มาจนถึงหน้าประตู บรูไนพยายามจะสะกัดเปลี่ยนเกม แต่ไม่สำเร็จ สาธิต สะกิดบอลเข้าประตูตีเสมอได้สำเร็จที่ 6-6 คะแนน จากนั้น ลอรีอัล ได้จุดโทษพลิกกลับมานำ  7-6 คะแนน 

ความกดดันมาอยู่ที่ บรูไน ที่ต้องเร่งเกมเร็ว เพื่อจะตีเสมอ ในขณะที่ ลอรีอัล ขึ้นมาตั้งแผงสกัด และบรูไนได้จุดโทษ โดยการยิงของ เฟอร์นานโด ริเวร่า ตีเสมอได้อีกครั้ง 7-7 คะแนน พร้อมกับหมดเวลาแข่งขัน ทั้งสองทีมเสมอกัน 7-7 คะแนนเก็บไปทีมละ 1 คะแนน 

สำหรับการแข่งขันในวันที่ 3 ก.พ. 2568 คู่แรก โกลเบิลพอร์ต พบ  อะมีบ้า บรูไน เวลา 16.45 น. และคู่ที่ 2 คิงเพาเวอร์ พบ ลอรีอัล ปารีส เวลา 18.00 น.