สื่อมวลชนที่เดินทางทำข่าวกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 39 "ราชบุรีเกมส์" บ่นอุบถึงความล่าช้าของระบบประมวลผลจน อธิการบดีม.ราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง ผู้รับผิดชอบดูแลระบบต้องออกมาชี้แจง ทว่ายังตอบคำถามสื่อได้ไม่เต็มปากนัก แต่ยืนยันจะเร่งแก้ไขในช่วงครึ่งทางที่เหลือของมหกรรม
ตามที่ได้มีกระแสจากสื่อมวลชนจากหลากหลายองค์กรที่เดินทางมาร่วมทำข่าวประชาสัมพันธ์การแข่งขันมหกรรมกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 39 "ราชบุรีเกมส์" ที่จ.ราชบุรี ถึงความล่าช้าของระบบประมวลผลการแข่งขัน ทำให้เว็บไซต์ประจำการแข่งขัน "ราชบุรีเกมส์" ไม่สามารถที่จะเช็กผลการแข่งขัน โปรแกรมการแข่งขัน ตารางสรุปเหรียญรางวัล ข้อมูลนักกีฬาและข้อมูลต่างๆ ของการแข่งขัน ส่งผลให้สื่อมวลชนเกิดปัญหาในการรายงานข่าวสารการแข่งขันได้ไม่ทันเวลา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา ผศ.ดร.ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ผู้ดูแลฝ่ายประมลผลการแข่งขัน ได้ตั้งโต๊ะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่เดินทางไปทำข่าว ที่ศูนย์เพรสเซนเตอร์ ม.ราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง อ.เมือง จ.ราชุบรี
ทั้งนี้เริ่มต้นการให้สัมภาษณ์จากการตั้งคำถามของสื่อมวลชนว่า มีวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างไรกับเว็บไซต์ประมวลผลการแข่งขันที่ไม่สามารถเช็กข้อมูลได้ทันเวลาปิดข่าวในช่วง 4-5 โมงเย็น แต่ผลมักจะไปออกช่วง 4-5 ทุ่ม ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นแตกต่างจากกีฬาเยาวชนแห่งชาติกว่า 30 ปีที่ผ่านมา ทางอธิการบดีฯ ไม่ได้ตอบตรงกับคำถามดังกล่าว แต่เบนไปกล่าวถึงเรื่องที่ทาง "ราชบุรีเกมส์" พยายามเน้นจัดงานในรูปแบบลดการใช้ทรัพยากรที่จะทำให้รบกวนสิ่งแวดล้อม ยกตัวอย่างเช่นเมื่อก่อนใช้คนค่อนข้างจะเยอะ ต้องปรับมาใช้เทคโนโลยี การใช้กระดาษ ปรับมาใช้เครื่องมือที่ไม่ต้องใช้กระดาษ รวมถึงขอความร่วมมือให้นักกีฬาจากต่างจังหวัดที่มาพักที่มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง งดใช้เครื่องปรับอากาศ ให้ใช้แต่พัดลม แต่สุดท้ายไม่ไหว ด้วยอากาศที่ร้อนมาก ก็ต้องเปิดแอร์ในที่สุด
"ครั้งนี้เราใช้ฐานข้อมูลจากการส่งเด็กออกไปที่สนามทั้งหมด ไม่ได้เชื่อมข้อมูลจากทางกกท. หลังจากนี้คงจะต้องเชื่อมข้อมูลกับทางกกท. และคงจะเพิ่มจำนวนเด็กที่ไปเก็บข้อมูลแต่ละสนาม จากเดิมที่จะวางเด็กประจำสนามกีฬาละ 2 คน โดยที่ผ่านมาเราจะรายงานผลออกไปได้วันละ 2 รอบ รอบแรกคือช่วงประมาณบ่ายโมง และรอบที่สองคือช่วงเวลากลางคืน อีกส่วนหนึ่งที่เราเสริมมาก็คือการตั้งกล้องประจำสนามแบบเรียลไทม์ทุกๆ สนามว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง" อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง กล่าว
ผศ.ดร.ชัยฤทธิ์ กล่าวต่อว่า ด้วยที่ทางมหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึงที่รับผิดชอบหน้าที่ฝ่ายประมวลผลการแข่งขัน"ราชบุรีเกมส์" ครั้งนี้มีประสบการณ์ในเวทีระดับนี้เป็นครั้งแรก คงต้องกลับไปประชุมกันภายในมหาวิทยาลัยว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไรในช่วงเวลาการแข่งขันที่เหลืออีก 6 วัน ตนยังเชื่อว่าปัญหาจะแก้ไขทัน และคงต้องทำการประสานกับทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่มีประสบการณ์ เพราะว่าครั้งนี้ทางกกท.มอบหน้าที่มาให้เราจัดการเองทั้งหมด เราไม่ได้ขอรับหน้าที่ทำ โดยตอนครั้งแรกของการคุยกันก็คือเราจะมีหน้าที่ในการรายงานข้อมูลจากสนามว่าหลังจากจบการแข่งขันแล้วผลการแข่งขันเป็นอย่างไร และรายงานมายังศูนย์ให้ทราบ ส่วนการวิเคราะห์หรือหลังจากนั้นต้องทำอย่างไรต่อส่วนนี้ก็ต้องเป็นทางทีมที่ไปคุยกับทางกกท.ก็ต้องมาทำงานร่วมกัน
หลังจากนั้นพอสื่อมวลชนเริ่มต่อข้อซักถามมากขึ้น ทางอธิการบดี เริ่มที่จะนิ่งเงียบและตอบได้เพียง "ครับ" โดยเฉพาะเมื่อสื่อถามว่า จะเป็นปัญหาหรือไม่เพราะทาง ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท. ได้กล่าวมาก่อนหน้านี้ว่าอยากใช้ศึกเยาวชนแห่งชาติครั้งนี้เป็นโมเดลในการไปจัดมหกรรมยูธโอลิมปิกเกมส์ ปี 2030 ที่ประเทศไทยกำลังยื่นเสนอตัวเป็นเจ้าภาพกับทางคณะกรรมการโอลิมปิคสากลอยู่ในขณะนี้ ทางอธิการบดีก็ไม่มีคำตอบใดๆกับสื่อ
ก่อนที่สื่อจะถามว่า สุดท้ายแล้วมีอะไรอยากจะฝากถึงครึ่งทาง "ราชบุรีเกมส์" ที่เหลือ จะมีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงกับระบบประมวลผลหรือไม่ โดยทางอธิการบดีกล่าวว่า คิดว่าจะทำให้ดีขึ้น ตอนนี้ได้ทราบปัญหาแล้วถึงสิ่งที่ผู้สื่อข่าวอยากที่จะได้จากผลการแข่งขันว่ามีอะไรบ้าง หรือไม่ก็อาจจะเรียนเชิญผู้สื่อข่าวร่วมประชุมวางแผนด้วยก็ได้