มนต์เสน่ห์ เอฟเอ คัพ และภาพสะท้อนในเชิงบวก

มนต์เสน่ห์ เอฟเอ คัพ และภาพสะท้อนในเชิงบวก
ช้าง เอฟเอ คัพ 2023-24 ดูท่าจะสร้างสีสันให้กับวงการลูกหนังไทย มากทีเดียว โดยเฉพาะบิ๊กเซอร์ไพรส์ที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า 6 สมัย และครองโทรฟี่มา 2 ปีติดต่อกันดันกระเด็นตกรอบด้วยฝีมือ บางกอก เอฟซี สโมสรจาก ไทยลีก 3

   เท่านั้นไม่พอ ในรอบก่อนรองชนะเลิศ มีทีมจากลีกสูงสุดของสยามประเทศผ่านเข้าไปเพียง 4 ทีม เท่านั้น คือ แบงค็อก ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี, ลำพูน วอร์ริเออร์ส และ สุโขทัย เอฟซี ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่น้อยครั้งนักจะเกิดขึ้น

   อย่างไรก็ตาม การที่มีสโมสรจาก ไทยลีก หลุดเข้าไปเพียงหยิบมือ มันสะท้อนให้เห็นถึง 'มาตรฐาน' ฟุตบอลที่ขยับเข้าใกล้กันมาขึ้น

   ทีมเล็กๆ ไม่ใช่สมันน้อยอีกต่อไป 

   ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี มาจาก ไทยลีก 2 ขณะที่ อุดร ยูไนเต็ด, สมุทรสาคร ซิตี้ และ บางกอก คือตัวแทนจาก ไทยลีก 3 ซึ่งมีโอกาสที่จะจับสลากมาชนกันเอง ซึ่งถ้าเป็นจริงขึ้นมา นั่นหมายความว่ารอบ 4 ทีม สุดท้าย จะต้องมีสโมสรจากลีกรองเข้าไปเอี่ยวด้วย

   นี่คือ 'มนต์เสน่ห์' ของฟุตบอลถ้วย โดยเฉพาะ เอฟเอ คัพ ที่ไม่ใช่แค่บ้านเรา หากแต่ยังรวมไปถึงหลายๆ ประเทศทั่วโลกที่การแข่งขันแบบน็อก-เอาต์มักจะสร้างเซอร์ไพรส์ให้เห็นอยู่บ่อยๆ

   ด้วยมาตรฐานฟุตบอลไทย ที่สูงขึ้นในทุกๆ ปี มันจึงเป็นเรื่องน่ายินดี เพราะมันจะส่งผลต่อทีมชาติในปลายทาง

   นอกจากเรื่องในสนาม เรื่องของนอกสนามก็จะตามมาติดๆ เพราะประชาชนคนสยามประเทศนั้นนิยมกีฬาลูกหนังแบบสุดลิ่มอยู่แล้ว ซึ่งถ้ามีเกมสนุกๆ ให้ชมในทุกๆ สัปดาห์ มันก็สร้างรายได้เป็นวงกว้าง 

   ไม่ว่าจะเป็นสโมสรที่จะมีสปอนเซอร์เข้ามาสนับสนุน

   ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเข้าชมเกมที่เก็บได้ ณ วันแข่งขัน

   ไม่ว่าจะเป็นฐานแฟนคลับที่เพิ่มขึ้น ซึ่งพวกเขาเหล่านี้คือแรงขับชั้นดีที่จะพัฒนาทีมและนักเตะ

   เรียกได้ว่ามีแต่บวกและบวกอย่างเดียว 

   พอการแข่งขันเข้มข้น ไม่ว่าจะลีกสูงสุดหรือลีกรองๆ ลงไป มันจะเป็นการขัดเกลาฝีเท้าของนักเตะให้เก่งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อแย่งชิงการลงสนาม และเมื่อคุณเป็นตัวจริง ก็ได้โชว์ฟอร์มต่อหน้าแฟนๆ รวมไปถึงบรรดาแมวมองจากทีมต่างๆ

   เมื่อโอกาสมาถึง แล้วคว้ามันได้สำเร็จ - ชื่อเสียง, เกียรติยศและเงินตราจะรออยู่ข้างหน้าไม่ไกล

   วกกลับมาที่ เอฟเอ คัพ - หากนับซีซั่น 2009 เป็นปีที่ฟุตบอลไทย ก้าวสู่อาชีพอย่างเต็มตัว จนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่มีสโมสรจากลีกรองอาจหาญถึงขั้นคว้าแชมป์เลยสักครั้ง

   แม้ฤดูกาล 2023-24 จะมีโอกาสไม่น้อย เพราะมีหลุดเข้ารอบ 8 ทีม มากถึงครึ่งหนึ่ง แต่ก็คงเป็นเรื่องยากยิ่งที่จะเกิดตำนานบทใหม่

   ทว่าก็อย่าเพิ่งตัดโอกาสที่มันจะเกิดขึ้นออกไป เนื่องจากบรรดาสโมสรใน ไทยลีก ที่เหลืออยู่บนเส้นทางก็ใช่ว่าจะประมาทได้ แถมเงื่อนไขของแต่ละทีมก็แตกต่างกันออกไป

   แบงค็อก ซึ่งกลายเป็นเต็งหนึ่งของทัวร์นาเมนต์ เวลานี้พวกเขายังต้องลุ้นแชมป์ลีกแบบเต็มตัว แถมนักเตะในทีมก็กรำศึกหนักถี่ยิบ เอาแค่ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เอฟเอ คัพ ก็ต้องเล่น 120 นาที มาแล้ว 2 นัด มันจึงทำให้ต้องคิดหนักพอสมควร

   ชลบุรี ก็ยังลุ่มๆ ดอนๆ ใน ไทยลีก อันดับในตารางคะแนนสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้น ซึ่งถ้าให้เลือก ยังไงเสีย พวกเขาก็ต้องเอาความอยู่รอดปลอดภัยไว้ก่อน

   ลำพูน ค่อนข้างจะลอยลำในลีก และการมี อเล็กซานเดร กามา โค้ชซึ่งเคยได้แชมป์ เอฟเอ คัพ มาแล้ว 3 สมัย (บุรีรัมย์ 1 และ เชียงราย ยูไนเต็ด 2) น่าจะทำให้กลายเป็น 'ม้ามืด' ที่มีโอกาสไปถึงดวงดาว แต่ก็คงต้องรอดูผลจับสลากอีกที

   สุโขทัย นี่ก็เป็นอีกหนึ่งทีมที่มีโอกาสหล่นสู่ ไทยลีก 2 ไม่น้อย เพราะปัจจุบันมีแต้มห่างจากโซนตกชั้นเพียงคะแนนเดียวเท่านั้น แม้ว่าถ้วยนี้จะเป็นเกียรติยศที่ปรารถนา แต่เรื่องความอยู่รอดน่าจะสำคัญต่อค้างคาวไฟมากกว่า

   จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น บางที ดราก้อน ปทุมวัน, อุดร, สมุทรสาคร หรือ บางกอก อาจจะจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการลูกหนังไทย ก็เป็นได้ 

   แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นในรอบ 16 ทีม สุดท้ายนั้นบ่งชี้ได้ชัดเจนว่ามาตรฐานของฟุตบอลสยามสูงขึ้นจริงๆ 

   มนต์เสน่ห์ เอฟเอ คัพ และภาพสะท้อนในเชิงบวก

ชิกกะด้าว


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport