หวังว่าไม่ซ้ำรอย!เดอบรอยน์รับสุดช้ำตอนเจ็บนัดชิงดำชปล.2021

เควิน เดอ บรอยน์ เปิดอก เคยเจ็บใจที่ได้รับบาดเจ็บจนไม่ได้อยู่ในสนามจนจบเกมในนัดชิงดำของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2021 พร้อมบอกว่าอยากได้สัมผัสกับถ้วยบิ๊กเอียร์ในซีซั่นนี้สุดๆ

เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางคนเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอดสโมสรแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่าตนเคยรู้สึกเจ็บใจมากๆ ตอนที่ได้รับบาดเจ็บระหว่างนัดชิงชนะเลิศของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2020-21 จนทำให้ไม่ได้อยู่ในสนามจนจบเกม

ตอนนั้นหลายฝ่ายมองว่า แมนฯ ซิตี้ มีภาษีดีกว่านิดหน่อยที่จะได้ถ้วยบิ๊กเอียร์ไปเชยชม แต่สุดท้ายเป็น เชลซี ที่ชนะไป 1-0 โดยวันนั้น เดอ บรอยน์ ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง แต่ก็โดนเปลี่ยนตัวออกไปในนาทีที่ 60 หลังมีจังหวะปะทะกับ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ จนทำให้มีอาการจมูกหัก, เบ้าตาแตก และอาการกระทบกระเทือนทางสมอง

"ฟุตบอลมันก็เป็นแบบนั้น ก่อนหน้านั้นในชีวิตของผมไม่เคยมีอาการบาดเจ็บถึงขั้นที่อวัยวะแตกหรือหักเลย แต่แล้วในนัดชิงชนะเลิศของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งนั้นผมก็มีอาการจมูกหัก, เบ้าตาแตก รวมถึงมีอาการกระทบกระเทือนทางสมอง มันเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นและผมก็ไม่สามารถทำอะไรมากกว่านั้นได้ แน่นอนว่าผมหวังว่าหลายอย่างมันจะดีกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น แต่มันก็ไม่เป็นแบบนั้น" แข้งวัย 31 ปี ระบุ

ดาวเตะชาวเบลเยียมเผยด้วยว่าอยากได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงทำให้ แมนฯ ซิตี้ กลายเป็นทริปเปิ้ลแชมป์ให้ได้มากๆ โดยหลังถูกถามว่าเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงดำหนนี้จะเป็นเกมที่บ่งบอกถึงอาชีพการค้าแข้งของเขาหรือไม่แล้วนั้น เจ้าตัวก็ตอบว่า "มันขึ้นอยู่กับว่าคุณถามใครล่ะนะ มันจะช่วย (ส่งผลดีต่อประวัติของตัวเอง) รึเปล่าน่ะเหรอ ? แน่นอนว่ามันจะช่วยได้ แต่การเล่น 90 นาทีแค่ครั้งเดียวมันจะไม่ถึงขั้นเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงอาชีพการเล่นได้หรอก"

"ผมเล่นมาแล้วราว 700 เกม ดังนั้นหนึ่งในการเล่น 90 นาทีจากทั้งหมด 700 ครั้งก็จะไม่ถือเป็นการบ่งบอกถึงอาชีพการเล่นของผม แต่แน่นอนว่ามันจะช่วยได้บ้าง ที่ผ่านมาผมเล่นได้ดีมากๆ เราเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศกับรอบรองชนะเลิศ (ของ แชมเปี้ยนส์ ลีก) มาแล้วหลายครั้ง แถมตอนนี้ก็ถือว่าทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศได้ 2 ครั้งแล้วด้วย เราเคยเจอบรรยากาศแบบนั้นมาหลายหน"

"ผมอยากได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก และอยากเป็นทริปเปิ้ลแชมป์ ในสัปดาห์หน้าเราควรจะเพลิดเพลินไปกับมัน และหวังว่าเราจะโชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดเท่าที่เราพอจะทำได้"


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport