สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ หล่ออีกแล้ว,ราสมุส ฮอยลุนด์ ร้อนเป็นไฟ! 5 ข้อเกม แมนยู บุกสยบ วิลล่า

1. สิงห์ผงาด เปลี่ยนทีมแค่รายเดียว

วิลล่า ซึ่งอยู่ในช่วงฟอร์มตกชนะแค่นัดเดียวจากห้านัดหลังในทุกรายการมีการปรับทัพรายเดียวเท่านั้นจากเกม เอฟเอคัพ รอบสี่ที่โดน เชลซี บุกมาขยี้คารัง 3-1

อูไน เอเมรี่ กุนซือสแปนิชตัดสินใจใช้งาน เจค็อบ แรมซีย์ ออกสตาร์ตก่อนหน้า ยูริ ตีเลอมันส์ ในแดนกลาง นอกนั้นล้วนเป็นขุนพลชุดเดิม

สำหรับ เปา ตอร์เรส ที่ยังไม่ฟิตเต็มสูบมีชื่อนั่งข้างสนามเช่นเดียวกับ มอร์แกน โรเจอร์ส หัวหอกอิงลิชที่เพิ่งย้ายมาจาก มิดเดิ้ลสโบรช์ เมื่อเดือนก่อน

2. ผีใช้งาน วาราน แทน มาร์ติเนซ

แมนฯ ยูไนเต็ด ปรับโผ 11 ตัวจริงแค่รายเดียวเช่นกันจากเกมลีกแมตช์เปิดบ้านถล่ม เวสต์แฮม 3-0 นัดก่อน

เอริค เทน ฮาก ส่ง ราฟาแอล วาราน ปราการหลังเลือดน้ำหอมลงบู๊ตามความคาดหมายเนื่องจาก ลิซานโดร มาร์ติเนซ บาดเจ็บเอ็นหัวเข่าจนต้องร้างสนามไปอีกรอบราวสองเดือน

ต่อกรณีดังกล่าว ส่งผลให้ วาราน ได้จับคู่เป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวจริงร่วมกับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ในเกม พรีเมียร์ลีก เป็นนัดแรกในยุคของกุนซือดัตช์ ขณะที่ ลุค ชอว์ แบ็คซ้ายทีมชาติ อังกฤษ ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก เป็นนัดที่ 250

3. ฮอยลุนด์ สร้างความแตกต่าง

แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มเกมได้ดีด้วยการบุกไปสร้างปัญหาให้แผงหลัง วิลล่า ได้หลายหนจนกระทั่งนาทีที่ 17 ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าทีมชาติ เดนมาร์ค สบโอกาสซัดประตูให้ทีมเยือนออกนำจนได้

อย่างไรก็ดี นั่นเป็นการส่งบอลเข้ากรอบหนเดียวเท่านั้นของ ผีแดง หลังจากทั้งสองทีมบู๊กันครบ 45 นาทีแรกเนื่องจาก สิงห์ผงาด เดินหน้าบุกหนักหมายทวงสกอร์คืน และทำให้ อ็องเดร โอนาน่า ต้องออกแรงเซฟช่วยทีมไม่น้อย

จบครึ่งแรก ทีมของ เอเมรี่ จึงมีสถิติที่เหนือกว่าทั้งการครองบอล 58:42% และได้ยิงรวม 10 ครั้งเข้ากรอบ 3 ครั้ง ขณะที่อาคันตุกะได้ซัด 7 ครั้ง และเข้ากรอบครั้งเดียวซึ่งเป็นสกอร์นำใน 45 นาทีแรก

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ถึงนาทีนี้ต้องยอมรับว่า ฮอยลุนด์ กลายเป็นที่พึ่งในด้านการเช็กบิลของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แล้วเนื่องจากกองหน้าทีมชาติ เดนมาร์ค ซัดประตูได้เป็นลูกที่ห้าจากห้าเกมหลังที่เขาได้ลงสนาม

ขณะเดียวกัน หัวหอกร่างยักษ์ได้ชื่อว่าเป็นดาวเตะใน พรีเมียร์ลีก อายุน้อยที่สุดอันดับสองที่ตะบันได้ห้าประตูติดต่อกันในเกมลีกด้วยวัย 21 ปี 7 วันรองจาก นิโกล่าส์ อเนลก้า ที่ทำได้สมัยเป็นดาวเตะทีม อาร์เซน่อล ในวัย 19 ปี 239 วันเมื่อเดือนพ.ย.1998

4. ซูเปอร์ซับคนใหม่

หลังบุกไปกำราบ วิลล่า ได้ด้วยสกอร์ 2-1 ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด รักษาผลงานที่ยอดเยี่ยมได้ต่อไปเป็นเกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ 142 แล้วหากมีสกอร์นำหน้าคู่แข่งก่อนในครึ่งแรก และไม่เคยแพ้ (ชนะ 121 เสมอ 20) โดยหนสุดท้ายที่พวกเขานำหน้าในครึ่งแรกของเกมลีกแล้วปราชัยต้องย้อนกลับไปถึงนัดพ่าย เลสเตอร์ 5-3 เมื่อเดือนก.ย.2014 นัดบู๊กับ เลสเตอร์ ซิตี้

อย่างไรเสีย ปฏิเสธไม่ได้ว่า แม็คโทมิเนย์ ขึ้นชั้นเป็นซูเปอร์ซับคนใหม่ของสโมสรไปแล้วหลังสอยตาข่ายในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ได้เป็นประตูที่ 7 ซึ่งเหนือกว่านักเตะ ผีแดง ทุกราย แถมสี่ประตูในจำนวนนี้อุบัติขึ้นในฐานะตัวสำรองด้วย

ด้าน วิลล่า มีผลงานที่ย่ำแย่เหลือเชื่อเนื่องจากเกมนี้พวกเขามีโอกาสคลำเป้ามากถึง 23 ครั้งซึ่งมากที่สุดของทีมในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ แต่กลับต้องลงเอยด้วยความพ่ายแพ้คารังโดยสถิติหลังจบ 90 นาทีบ่งบอกว่าทีมของ เอเมรี่ ครองบอลได้มากกว่า 56:44% และได้ยิง 23 ครั้งเข้ากรอบ 10 ขณะที่ เร้ด เดวิลส์ ได้ซัด 17ครั้งเข้ากรอบ 5 ครั้ง

ขณะเดียวกัน ผีแดง มีผลงานเกมเยือน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ที่น่าเกรงขามไปซะแล้วเนื่องจากพวกเขากำชัยได้เป็นเกมที่ 6 รองจาก แมนฯ ซิตี้  (8) และ อาร์เซน่อล (7) แค่สองทีมเท่านั้น

5. กำเนิดใหม่ แม็กไกวร์

จากที่เคยเป็นตัวเลือกในแผงหลังอันดับห้า และถูกริบปลอกแขนกัปตันทีม แม็กไกวร์ ตัดสินใจสู้ต่อโดยไม่ขอย้ายสโมสรแม้จะถูกจับดองในซุ้มม้านั่ง กระทั่งถึงขณะนี้ปราการหลังทีมชาติ อังกฤษ กลายมาเป็นขุนพลคนสำคัญของ เทน ฮาก ไปซะแล้ว

เหตุผลสำคัญประการแรกคือความเป็นมืออาชีพของเขาเนื่องจากอดีตสตาร์ทีม เลสเตอร์ ไม่เคยออกอาการหัวเสียให้เห็น และไม่มีปัญหากับเจ้านายสกินเฮดเหมือนที่ เจดอน ซานโช่ ท้าชนจนโดนปล่อยออกไปแบบยืมตัว

กระทั่งเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของซีซั่นแบบนี้ซึ่ง วาราน กับ จอนนี่ อีแวนส์ กำลังจะหมดสัญญากับ ผีแดง โดยที่ว่ากันว่ากุนซือดัตช์ไม่คิดต่อสัญญากับทั้งคู่ด้วยจึงทำให้อนาคตใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ของ แม็กไกวร์ กลับมาสดใสอีกครั้ง

ยิ่งในทีมชาติ อังกฤษ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเนื่องจากเกมบู๊กับ วิลล่า แกเร็ธ เซาธ์เกต เข้ามาดูฟอร์มของลูกทีมคนสำคัญด้วย และอาจรวมถึง ลุค ชอว์ เช่นกัน แต่กลายเป็นว่า ผีแดง มีปัญหาแนวรับเดี้ยงเพิ่มอีกจนได้เนื่องจากแบ็คซ้ายทีมชาติ อังกฤษ บาดเจ็บอีกรอบ และต้องเปลี่ยนให้ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ลงไปสวมบทแบ็คซ้ายแทนตั้งแต่เริ่มครึ่งหลัง

สำหรับ แม็กไกวร์ แน่นอนว่าเขามีส่วนสำคัญช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด กำชัยเหนือ วิลล่า ได้แม้ทีมเจ้าบ้านจะพยายามบุกใส่อย่างหนักโดยเฉพาะฟอร์มของเขาในครึ่งแรกของเกมนี้มีการเผยสถิติออกมาให้เห็นว่าปราการหลังที่โขกบอลให้ ฮอยลุนด์ ยิงประตูพาทีมขึ้นนำมีฟอร์มที่น่าประทับใจขนาดไหน

74% ผ่านบอลแม่นยำ

34 สัมผัสบอล

17/23 ผ่านบอลสำเร็จ

5/5 ชนะการดวลลูกกลางอากาศ

2/2 ชนะการดวลบนภาคพื้นดิน

2/2 ชนะการเข้าปะทะ

เท่านั้นไม่พอ หลังเกมจบลงโดย สกาย สปอร์ต ยกให้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ สื่อเจ้าดังกล่าวได้ตีแผ่ผลงานของ แม็กไกวร์ ตลอด 90 นาทีออกมาดังนี้

71 สัมผัสบอล

46 ผ่านบอลสำเร็จ

7 ชนะการดวลลูกกลางอากาศ

6 ทะลุเข้าพื้นที่สุดท้าย

1 แอสซิสต์