อาร์เจนติน่าในฐานะเต็งสองผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 6 น่าทึ่งมาก...พวกเขาเข้ารอบรองชนะเลิศ 6 ครั้ง สถิติเข้าชิง 100%
ห้าครั้งก่อนหน้านี้...
แชมป์ 2 ....1978,1986
รองแชมป์3....1930,1990,2014
แล้ว 2022 ล่ะ???
เกมรอบตัดเชือกนี้น่าจะเป็นเกมที่อาร์เจนติน่าเล่นได้ครบเครื่องที่สุดเกมหนึ่ง โดยเฉพาะการเล่นกับทีมที่เหนียวแน่น รัดกุม ยืดหยุ่นอย่าง โครเอเชีย ด้วยแผนการเล่นหนามยอกเอาหนามบ่ง
เกิดอะไรขึ้นในชัยชนะอันงดงามของฟ้าขาวและทีมเมสซี
1 แผน4-4-2 ฟ้าขาว
ตอนแรกลุ้นว่า ถ้า อังเดล ดิ มาเรีย ไม่ลง ลิโอเนล สกาโลนี โค้ชประสบการณ์น้อยจะปรับมาเล่นแผน 5-3-2 โดยส่ง ลิซานโดร มาร์ติเนส ของแมนฯยูไนเต็ด ลงยืนเซนเตอร์อีกคน ที่ไหนได้ สกาโลนี มองเห็นพื้นที่แดนกลางสำคัญกว่า เขาอัดกลางแน่นเลย 4 คนในแบบไร้ปีก
แบ๊กโฟร์ ชุดเดิม โรเมโร กับ ออตาเมนดี พาร์ตเนอร์เซนเตอร์แบ๊ก โมลีนา กับ ตายาฟิโก (แทนอคุนยา แบน) ส่วนแดนกลาง ส่ง ปาเรเดส ลงมาอีกคนเล่นกับ เอ็นโซ เฟร์นานเดส ที่แจ้งเกิดทัวร์นาเม้นต์นี้ แล้วขยับ เด ปอล ด้านขวา แมกอลิสเตอร์ ด้านซ้าย
หน้าคู่ เมสซี และ อัลบาเรส
ส่วนโครเอเชียเล่น 4-3-3 เหมือนเดิม ไม่มีปรับเปลี่ยนอะไรในแบ๊กโฟร์และแดนกลาง ยูราโนวิช, ลอฟเรน,กวาร์ดิโอล, โซซา ; โบรโซวิช, โมดริช, โควาสิช ; ปาซาลิช, ครามาริช และ เปริสิช
2 ตามเกมโครแอต อัดแดนกลาง
หมายถึงทีมฟ้าขาว เล่นยืดหยุ่น ไม่เร่งรีบ อัดแดนกลางแน่น เพื่อสู้กับ โบรโซวิช, โมดริช และ โควาสิช นั่นทำให้ ปาซาลิช กับ เปริสิช ในหลายจังหวะต้องถอยลงมาช่วยเพื่อให้จำนวนคนเป็นต่อกลายเป็น 4-5-1 การครอบครองบอลจึงเป็นโครแอต ทำได้สัดส่วนที่เยอะกว่าในเรื่อง % ครองบอล กระนั้นสิ่งที่สำคัญกว่าคือ แดนกลางฟ้าขาวสามารถเบรกการเล่นเกมรุกจากแดนกลางของทีมตราหมากรุกได้ดี โมดริช เองก็ทำเกมได้ลำบาก
ออกลูกอึดอัดสำหรับโครแอต เพราะครองบอลได้เยอะจริงแต่ในแดนสอง ไม่เข้าไปแดนสามของฟ้าขาว
ที่สำคัญแนวรับพวกเขาเดินห่างออกจากเขตโทษตัวเองมากกว่าหลายนัดที่ผ่านมา ในสถานการณ์ที่ อาร์เจนติน่า รอจังหวะสวนกลับอย่างตั้งใจ หลังจากแดนกลางของพวกเขาจัดการแดนกลางโครแอต ได้ ในหลายจังหวะ
ปาเรเดส เด่นมากในการรับบทมิดฟิลด์ตัวรับ
3 จุดโทษที่ 3 ของ เมสซี
มีเพียงยูเซบิโอ ดาวยิงโปรตุเกส (1966) และ รอบ เรนเซนบริงค์ ของเนเธอร์แลนด์ (1978) ที่ยิงจุดโทษในเกมมากกว่า เมสซี คือยิง 4 ลูก ส่วน เมสซี ยิง 3 ลูกจากนัดล่าสุด
จังหวะ ฮูเลียน อัลบาเรส โดน ลิวาโกวิช ทำฟาวล์ นาทีที่ 32 จังหวะรุกเร็วของฟ้าขาว
เมสซี ยิงจุดโทษที่สามในทัวร์นาเม้นต์ และเป็นประตูที่ 5 ในทัวร์นาเม้นต์ ยอดรวมในบอลโลก 11 ลูกแล้ว
4 บอลเข้าทางฟ้าขาว+โชค
พอนำ...ยิ่งเล่นเข้าแผนเลย โครแอต เดินเข้าหา แม้ไม่บุ่มบ่าม และดูเล่นตามจังหวะ แต่พอเสียบอล อาร์เจนติน่า โจมตีเร็วสวนกลับ แล้วก็ทำให้ทีมได้ประตู 2-0 ในห้านาทีสุดท้ายของครึ่งแรก จังหวะที่โดนบุกอยู่แท้ๆ บอลครอสโครแอตด้านข้างแฉลบหน้าเขตโทษ นั่นเองที่ เฟร์นานเดส โหม่ง แล้วก็ทะลุมาเป็นทอดๆ ก่อนถึง อัลบาเรส ที่โชคดีทั้ง ยูราโนวิช เตะสกัดโดนตัว อัลบาเรส แถมโซซา ด่านสุดท้ายก็เตะโดนตัว อัลบาเรส หลุดเข้าไปหลอกยิงผ่าน ลิวาโกวิช เรียบร้อยเลย
ทั้งฝีมือและโชคลูกนี้
5 เมสซี โชว์
ครึ่งหลังนี่ชัดเลย ฟ้าขาว รับในแดน เมสซี มีโอกาสครองบอลหลอกนักเตะโครแอต จนกระทั่งนำไปสู่ประตูที่สาม จากริมเส้นด้านขวาใกล้ๆกลางสนาม เขาพาบอลกระชากเข้าหากกรอบโทษของโครเอเชีย โดยมีกวาร์ดิโอล ตาม แต่แย่งบอลไม่ได้ โดนหลอกล่อจนเข้าเหลี่ยมเลาะเส้นหลัง ก่อนดีดให้ อัลบาเรส ยืนแปนิ่มๆ 3-0 น.69 จบข่าว
วัย 35 ลากบอลจากระยะ 40-50 หลาโดยแรงไม่มีตกทั้งที่ครึ่งหลัง
muchachooo จริงๆ
6 สภาพโครแอตดูโรยๆ
ชัดเจนว่าการกรำศึกหนักของโครเอเชีย ส่งผลด้วยเหมือนกัน เพราะพอโดนอัดแดนกลาง การแย่งบอล การเล่นเกมปะทะ ยิ่งเล่นยิ่งเข้าทางฟ้าขาว เหมือนแผ่วไปเองในเกม มันเร่งไม่ขึ้นละ
7เกมรุกฟ้าขาว
จุดหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยว่าพวกเขาคือทีมรุกที่ดีสุดในทัวร์นาเม้นต์ไปแล้ว ยิงเฉลี่ยนัดละ 2 ลูก เกมนี้ได้สาม พวกเขาหาวิธีการเจาะเกมรับคู่แข่งที่เน้นเกมรับลึกมาได้ แต่เกมนี้ พวกเขาปรับวิธีมาเล่นรอจังหวะ ล่อให้ โครแอต ครองบอลแล้วเดินเข้าหา เพื่อเปิดพื้นที่ในการเล่น โดยใช้นักเตะตัวรุก 3 หรือ 4 คนอย่างมากในการโจมตีที่ว่างของ โครแอต
ที่สำคัญมีทีเด็ด +1 จากจุดโทษอีกต่างหาก เพราะกองหน้าเร็ว, คล่องตัว ในเขตโทษ ที่สามารถเรียกฟาวล์ได้ตลอด
21 วันที่แล้วแพ้ ซาอุดีอาระเบีย ใน ลูซาอิล สเตเดียมแห่งนี้ เกมล่าสุดพวกเขาผ่านโครเอเชีย ไม่ยาก เข้าไปชิงชนะเลิศสมัยที่ 6 อย่างสุดยอด
ในความรู้สึกนะครับ....เหมือนเส้นทางนี้กำลังปูทางสู่อาร์เจนติน่าและเมสซี
ในเหตุผลทางฟุตบอล...พวกเขาเล่นเกมดีขึ้นเรื่อยๆนับจากแพ้เกมแรกต่อซาอุอย่างพลิกลอค
มารอดูว่าใครคือคู่ชิงชนะเลิศของอาร์เจนติน่ากัน