ในที่สุด โมร็อคโก ก็สร้างชื่อเป็นชาติแรกจากทวีป แอฟริกา ที่ผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศศึก ฟุตบอลโลก
หลังก่อวีรกรรมสยบ โปรตุเกส 1-0 ในเกมรอบแปดทีมสุดท้าย สิงโตแห่งแอตลาส ก็จะรอต่อกรกับ ฝรั่งเศส แชมป์เก่า ซึ่งยังไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะโชว์ความแข็งแกร่งของเกมรับได้อีกครั้งเพื่อพาตัวเองทะลุเข้าไปชิงชนะเลิศได้หรือเปล่า
แต่นอกจาก โมร็อคโก กับ ฝรั่งเศส แล้ว เกมในรอบตัดเชือกอีกคู่ในสมรภูมิ เวิลด์คัพ 2022 ที่ กาตาร์ จะเป็นการโม่แข้งกันระหว่าง อาร์เจนติน่า กับ โครเอเชีย รองแชมป์โลก เมื่อสี่ปีที่แล้ว
ถึงขั้นนี้จึงเท่ากับว่ามีตัวแทนจาก แอฟริกา กับ อเมริกาใต้ อย่างละทีม ขณะที่ ยุโรป ส่งประกวดสองทีม แถมไม่ต้องดวลกันเองอีกด้วยจึงมีสิทธิ์เป็นไปได้เหมือนกันว่าเราอาจได้ดูการรีรันแมตช์ชิงดำเมื่อสี่ปีก่อน
อย่างไรก็ดี มีโอกาสเป็นไปได้เช่นกันว่าทีมจาก ยุโรป จะนัดกันตกรอบ และเปิดทางให้ทีมจาก แอฟริกา กับ อเมริกาใต้ ได้แย่งกันคว้าตำแหน่ง แชมป์โลก
หรือไม่เช่นนั้น คู่ชิงชนะเลิศก็อาจเป็นการพะบู๊กันระหว่างทีมจาก ยุโรป กับ อเมริกาใต้ หรือทีมจาก ยุโรป กับ แอฟริกา ก็ได้ทั้งนั้น
แต่ก่อนที่จะมีบทสรุปปรากฏออกมา เราไปดูข้อมูลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันกันสักหน่อยดีกว่าว่าเท่าที่ผ่านมา ทีมจากทวีปไหน และชาติไหนที่ได้ผ่านเข้ามาถึงรอบตัดเชือก ฟุตบอลโลก บ่อยที่สุด
นับตั้งแต่ ฟุตบอลโลก ออกสตาร์ตเมื่อปี 1930 จนถึง 2022 หมายความว่ามีการฟาดแข้งกันทั้งสิ้นรวมถึงที่ กาตาร์ เป็นครั้งที่ 22 แล้ว
แต่ที่แน่ๆ ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่การชิงชัยอุบัติขึ้นในแดนอาหรับ และเป็นครั้งที่สองที่ระเบิดขึ้นใน เอเชีย ต่อจากปี 2002 ที่ เกาหลีใต้ กับ ญี่ปุ่น ได้เป็นเจ้าภาพร่วมกัน
สำหรับ บราซิล ทุกคนคงรู้ว่าเป็นชาติเดียวที่ได้ร่วมดวลเกือกในรอบสุดท้ายครบทุกสมัยทั้ง 22 ครั้ง ตามด้วย เยอรมัน 20 ครั้ง , อิตาลี กับ อาร์เจนติน่า 18 ครั้งเช่นกัน ขณะที่ เม็กซิโก ได้ร่วมชิงชัยถี่ยิบถึง 17 ครั้ง
แต่หากจะว่ากันถึงนัดชิงชนะเลิศ มันแหงอยู่แล้วว่าทีมจาก ยุโรป กับ อเมริกาใต้ ได้ต่อกรกันบ่อยที่สุดโดยมีห้าชาติจาก ยูโรป ที่ได้แชมป์ไปครองจากการชิงดำ 12 ครั้ง ขณะที่สามชาติจาก อเมริกาใต้ สมหวังจากการเข้าชิงชนะเลิศ 9 ครั้ง
ขณะเดียวกัน มีอยู่ห้าทีมที่ไม่เคยได้แชมป์แม้จะผ่านเข้ามาเล่นในนัดชิงชนะเลิศได้ และมีมากถึง 11 ชาติที่ได้เล่นในรอบรองชนะเลิศ
-รายชื่อทีมที่ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก (ชื่อแรกคือทีมที่ได้ แชมป์โลก)
1930 : อุรุกวัย , อาร์เจนติน่า , สหรัฐฯ , ยูโกสลาเวีย
1934 :อิตาลี , เช็กโกสโลวะเกีย,เยอรมัน , ออสเตรีย
1938 : อิตาลี, ฮังการี ,บราซิล , สวีเดน
1950 : อุรุกวัย , บราซิล ,สวีเดน ,สเปน
1954: เยอรมันตะวันตก ,ฮังการี , ออสเตรีย , อุรุกวัย
1958: บราซิล , สวีเดน , ฝรั่งเศส , เยอรมันตะวันตก
1962: บราซิล , เช็คโกสโลวะเกีย, ชิลี , ยูโกสลาเวีย
1966: อังกฤษ, เยอรมันตะวันตก , โปรตุเกส, สหภาพโซเวียต
1970:บราซิล , อิตาลี , เยอรมันตะวันตก , อุรุกวัย
1974:เยอรมันตะวันตก ,ฮอลแลนด์ , โปแลนด์ ,บราซิล
1978: อาร์เจนติน่า , ฮอลแลนด์ , บราซิล , อิตาลี
1982:อิตาลี ,เยอรมัน ,โปแลนด์, ฝรั่งเศส
1986:อาร์เจนติน่า ,เยอรมันตะวันตก , ฝรั่งเศส , เบลเยี่ยม
1990:เยอรมันตะวันตก, อาร์เจนติน่า , อิตาลี , อังกฤษ
1994 : บราซิล , อิตาลี , สวีเดน , บัลแกเรีย
1998 :ฝรั่งเศส ,บราซิล ,โครเอเชีย , ฮอลแลนด์
2002 :บราซิล , เยอรมัน , ตุรเคีย , เกาหลีใต้ง
2006:อิตาลี , ฝรั่งเศส , เยอรมัน , โปรตุเกส
2010: สเปน,ฮอลแลนด์ ,เยอรมัน , อุรุกวัย
2014: เยอรมัน , อาร์เจนติน่า ,ฮอลแลนด์ , บราซิล
2018:ฝรั่งเศส ,โครเอเชีย , เบลเยี่ยม , อังกฤษ
-ทีมที่ได้เล่นรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก บ่อยที่สุด
ในข่ายนี้ เยอรมัน เป็นทีมที่เข้ามาถึงรอบตัดเชือก ฟุตบอลโลก บ่อยที่สุด 13 ครั้ง รองลงมาคือ บราซิล 11 ครั้ง ตามด้วย อิตาลี 8 ครั้ง
-เยอรมัน 13 ครั้ง
-บราซิล 11 ครั้ง
-อิตาลี 8 ครั้ง
-ฝรั่งเศส 7 ครั้ง
-อาร์เจนติน่า 6 ครั้ง
-อุรุกวัย ,โครเอเชีย ,ฮอลแลนด์ 5 ครั้ง
-สวีเดน 4 ครั้ง
-อังกฤษ 3 ครั้ง
-ม้ามืดที่ได้เข้ามาเล่นในรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก
ขณะที่ สเปน , ออสเตรีย , เช็ก , โปแลนด์ และ ฮังการี ต่างก็เข้ามาเล่นในรอบตัดเชือก ฟุตบอลโลก ได้ฝ่ายละสองครั้ง มีทีมนอกสายตาห้าทีมที่ได้เล่นในรอบนี้ชาติละหนึ่งครั้ง
นอกจากจะมี โมร็อคโก เป็นรายล่าสุดแล้ว อีกสี่ทีมก่อนหน้านั้นประกอบไปด้วย ตุรเคีย , บัลแกเรีย ,เกาหลีใต้ และ ชิลี