เสียน้ำตาในกาตาร์

เสียน้ำตาในกาตาร์
เดาไว้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะต้องได้เจออะไรบ้างจากเกม

จะข้างนอกหรือข้างในสนามก็เต็มไปด้วยกองเชียร์อาร์เจนติน่า เขียนให้เห็นภาพชัดหน่อยก็มีเพียงกระจุกเล็กๆราวพันเศษเท่านั้นที่ใส่เสื้อสีส้มรวมตัวอยู่ด้านหลังประตูฝั่งซ้ายของเพรสบ็อกซ์ ที่เหลือนอกจากนั้น90%ต้องแต่งกายทางใดทางหนึ่งเป็นสีฟ้าขาว

เพลงที่คุ้นเคยก็ดังตั้งแต่ต้น"Vamos Vamos Seleccion"ซึ่งให้ครบสูตรก็ต้องลุกยืนพลางสะบัดมือขวาออกไปตามเมโลดี้

จากนั้นก็เหมือนเปิดเมดเล่ย์เพลงอาร์เจนติน่าเลย แน่นอนว่าเกือบทั่วสนามที่เขย่าลำคอตามได้ ก็อาจมีบ้างพวกแฟนต่างชาติที่ได้แต่โยกตาม หากเหตุผลเดียวที่มาเพราะชื่นชอบลิโอเนล เมสซี่

พวกแผ่นผ้าก็ตามที่ตั้งใจทำกันมา ส่วนใหญ่ก็วาดถึงเมสซี่หรือตำนานผู้ล่วงลับดีเอโก้ มาราโดน่าซึ่งสิ่งเดียวกันนี้ก็หาไม่ได้ในชาติอื่นๆ

แพสชั่นของแฟนอาร์เจนติน่ากับฟุตบอล

แรงศรัทธาของแฟนอาร์เจนติน่ากับสองยอดดาวเตะหมายเลขสิบซึ่งคนหนึ่งเคยชูถ้วยแชมป์โลกได้แล้ว อีกคนกำลังอยู่บนเส้นทางแห่งความหวัง

บางเรื่องมันสอนกันไม่ได้ หาซื้อก็ไม่ได้ 

ตอนที่เกมคู่บราซิล-โครเอเชียกำลังบดขยี้กันอยู่ก็สัมผัสได้ถึงอาการลุ้นเกร็งของพวกนักข่าวที่รายล้อมได้ เดากันได้ใช่ไหมครับว่าเพราะอะไร?? ปูมประวัติศาสตร์ระหว่างสองชาติมหาอำนาจทวีปอเมริกาใต้ก็ไม่ต่างจากหนังสือหนาๆสักเล่ม ก็เดากันได้ต่อใช่เปล่าครับว่าวินาทีที่บราซิลตกรอบเกิดอะไรขึ้นบ้างในห้องเพรส??

ใช่และใช่ มันคือฟุตบอล

ตัดไปเกมคู่สองในลูเซล สเตเดี้ยมที่ใช้จัดนัดชิงด้วยก็มีครบถ้วนทุกอย่างที่เราใช้มาจำกัดความของเกมกีฬาที่เราต่างติดกันจนถอนตัวไม่ขึ้น ก็รู้ว่าข้างหน้ามีก้นเหวรอก็ยังเดินไป ก็สะท้านเต็มอกว่าความหวังนี่แหละมักทำร้ายเราก็ยังพุ่งเข้าหามัน

แน่นอนว่ามันย่อมไม่ใช่เกมที่เอ็นเตอร์เทนที่สุดหรืองดงามที่สุด ก็เกมที่มีการควักใบเหลืองออกมาถึง 17 ใบโดยมี 2 ใบแจกให้โค้ช นอกจากนั้นก็ยังมีใบแดงถูกชูขึ้นหลังสิ้นนกหวีดยาวท่ามกลางการเฉลิมฉลองของแฟนบอลอาร์เจนติน่าทั่วสนาม 

แต่นั่นส่วนหนึ่งจากผู้ตัดสินชาวสเปนที่คุมเกมไม่อยู่ด้วย ต่อมาก็เพราะต่างฝ่ายต่างไม่อยากเก็บกระเป๋ากลับบ้านเพียงรอบแปดทีม

วิเคราะห์จากการวางหมากก็น่าสนใจแล้ว เมื่อลิโอเนล สกาโลนี่ปรับมาใช้หลังสามคนเพื่อรับมือกับแท็กติกหลุยส์ ฟาน กัลโดยเฉพาะ    

เข้าตามสำนวนไทยโบราณ'หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง'

เมื่อคืนวันศุกร์ลิซานโดร มาร์ติเนซได้เป็นตัวจริงร่วมกับนิโกล่าส์ โอตาเมนดี้และคริสเตียน โรเมโร่ซึ่งก็ถือว่าได้ผลชัดเจนเนื่องจากเป็นขุนพลฟ้าขาวที่ครองเกมได้เหนือกว่า ผลิตโอกาสได้มากกว่าและก็ประสบความสำเร็จด้วยการออกนำไปก่อน2-0

วินาทีที่บอลจากปลายสตั๊ดของเมสซี่พุ่งเข้าสงบนิ่งในก้นตาข่ายเนเธอร์แลนด์ เป็นลูกจุดโทษที่ช่างเยือกเย็นรวมถึงเป็นประตูที่10แล้วของเจ้าตัวในฟุตบอลโลกเทียบเท่าสถิติสูงสุดที่กาเบรียล บาติสตูต้าเคยทำไว้

เชื่อเลยว่าหลายคนคงรู้สึกเหมือนกันว่าเกมจบเรียบร้อย ขยับมองดูเวลาก็เหลืออีกราว 17นาทีเศษ ตอนนั้นรูปเกมทางทีมอัศวินสีส้มก็ไม่มีแนวโน้มเลยว่าจะกลับมาได้ อย่าว่าแต่ตามตีเสมอเลย เอาตีไข่แตกก่อนเถอะ

กระนั้นเองฟาน กัลก็ยังเป็นกุนซือที่มักทำอะไรเหนือการคาดเดาประจำ ย้อนไปเวิล์ด คัพที่บราซิลเคยเปลี่ยนส่งทิม ครูลมาเพื่อเซฟลูกโทษโดยเฉพาะ หนนี้ก็ถอดเอาเมมฟิส เดอปาย ผู้ถือเป็นตัวความหวังของทีมออกแล้วโยนเวาท์ เว็กฮอร์สท์ไปยืนเป็นกองหน้าแทน

มองดูเวลาอีกครั้งก็จวนเจียนเหลือเกิน 

มันต้องการปาฎิหาริย์เท่านั้นสำหรับทีมจากแดนกังหันลม

เว็กฮอร์สท์ หัวหอกที่ล้มเหลวตอนมาค้าแข้งในอังกฤษกลับเป็นตัวจุดประกายให้กองเชียร์อัศวินสีส้มทุกคน กลยุทธของฟาน กัลก็ไม่มีอะไรซับซ้อนแล้วในตอนนั้น มันไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว ในเมื่อต่อบอลสู้อาร์เจนติน่าไม่ได้ก็โยนยาวสาดเข้าใส่ไปเลย 

แผนของฟาน กัลใช้ได้ผลอย่างเหลือเชื่อ

เว็กฮอร์สท์ เจ้าของ 2 ประตูจาก 20 เกมกับเบิร์นลี่ย์ได้สวมบทอัศวินม้าขาวเหมาสองลูกในเวลาห่างกัน 17 นาทีโดยเฉพาะประตู2-2นั้นได้มาตอนเข็มนาฬิกากระดิกไปถึงนาที110หรือนาทีสุดท้ายแล้วของช่วงทดบาดเจ็บ

ผมนึกถึงวาจาของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันทันที

Football Bloody Hell!!!

หันไปทางขวามือที่เต็มด้วยฝูงแฟนบอลอาร์เจนติน่าต่างเอามือกุมหัวกันบ้างหรือทรุดลงไปนั่งบนเก้าอี้บ้าง โมเมนตัมตอนนั้นเหวี่ยงมาทางอีกฝั่งแล้ว จากที่เหมือนตายก็กลับมาเกิดใหม่ จากที่ควรตกรอบไปแล้วก็มีความหวังได้ไปต่อ

พอเกมต้องมาตัดสินที่การยิงลูกโทษก็ไม่ต่างจากโยนเหรียญหัว-ก้อยแล้ว ทว่าข้อสังเกตของผมก็อยู่ตรงที่ทางทีมฟ้าขาวนั้นใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีในการประชุมทีมก่อนแยกย้ายไปรอที่วงกลมกลางสนาม ทางตรงกันข้ามที่ทีมดัตช์สุมหัวกันนานกว่าคล้ายว่าเพิ่งมาจัดวางตัวหรือมาปลุกเร้ากำลังใจกัน

บางคนอาจสงสัยว่ามันเกี่ยวอย่างไร?




อันนี้เป็นการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาว่ามันแสดงถึงความมั่นใจกับช่วงบีบหัวใจ อย่างนัดชิงยูโร2020นั้นก็เป็นทางอิตาลีที่ออกมารออังกฤษก่อน แม้แต่เกมบราซิลกับโครเอเชียในคู่ก่อนหน้าก็เช่นกันทางผู้เล่นทีมหมากรุกแสดงถึงความพร้อมที่มากกว่า

เมสซี่ก้าวมายิงคนแรกพราะทีมต้องการประเดิมด้วยคนชัวร์ที่สุด

เมสซี่เองก็โดดเด่นเกือบทั้งเกม นอกจากมีสกอร์แล้วก็ยังมีแอสซิตส์อีกซึ่งเป็นช็อตที่แสดงถึงความเหนือชั้นของเจ้าตัวออกมาด้วย(ลูกนั้นมีนักเตะดัตช์ล้อมเขาเต็มไปหมดแต่ก็ยังอุตส่าห์ไหลให้แบ็กขวา-นาฮูเอล โมลิน่าหลุดไป)

ในช่วงต่อเวลาพิเศษ30นาทีมีนักข่าวสาวที่เปิดเผยตัวด้วยเสื้อฟ้าขาวเข้ามานั่งตรงเก้าอี้ว่างที่ติดกับผม ความจริงมันไมว่างหรอก มีนักข่าวตุรกีอยู่ก่อนแต่ดันกลับไปก่อนตอนสกอร์2-0(โชคร้ายของนักข่าวเติร์กคนนั้น)

มันเหมือนฟ้าประทานมาให้ครับ

เพราะเธอที่แนะนำตัวว่าเป็นพิธีกรทีวีให้ช่องTyC Sportsของอาร์เจนติน่าแสดงออกมาทุกสิ่งอย่างตามแบบฉบับของสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่เรียกว่าแฟนบอล

ตอนทีมพลาดโอกาสชนะในเกมก็ก้มหน้าไปดูพื้น

ตอนเกมต้องไปวัดที่ลูกโทษก็เอาสองมือประสานภาวนาวิงวอนถึงพระเจ้า

ตอนทีมยิงได้ก็กระโดดเฮ ตอนคู่แข่งยิงพลาดก็ตะโกนออกมา'Vamos'

เธอเปล่งออกมาสุดเสียงตอนที่เลาตาโร่ มาร์ติเนซสังหารไม่เหลือเป็นประตูที่ส่งให้กองเชียร์อาร์เจนติน่าโดยเฉพาะสาวกเมสซี่ได้ไปต่อ ทว่ามันก็ไม่จบแค่อาการดีใจทั่วไป ทันใดนั้นเองเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วก็ทำเหมือนถ่ายวีดีโอเก็บบรรยากาศ ตอนนั้นดวงตาแดงก่ำแล้ว สักพักก็ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร

ผมชะโงกไปดูก็ลึกซึ้งถึงก้นบึ้งว่าเพราะเหตุใด

เธอไม่ได้ถ่ายคลิปครับแต่เธอได้Video Callกลับบ้านไปหาแม่เพื่อแจ้งข่าวดีรวมถึงอยากให้แม่ได้สัมผัสถึงบรรยากาศสดๆจากสนาม เธอทำท่าส่งจูบให้แม่รับรู้คิดถึงนะแต่ลูกต้องอยู่เพื่อทำงานกับลุ้นให้ฝันเป็นจริง

ผมเห็นเธอพูดภาษาสเปนกับแม่2-3ประโยคก่อนวาง

 "ฉันบอกแม่ไปว่าเราชนะแล้ว เรายังได้ไปต่อและเมสซี่ก็ยังมีหวัง"เธอตอบออกมาโดยน้ำเสียงยังคงมีสะอื้นอยู่

(ผมน้ำตารื้นให้ฟุตบอลอีกแล้ว...)

"ไก่ป่า"


ที่มาของภาพ : siamsport
BY : ไก่ป่า
เอกราช นิติสุทธิ์สกุล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport