อาถรรพ์โดนทำลาย,เมสซี่ ฉลองเกมที่1,000! 5 ข้อ อาร์เจนฯ น้ำลายเหนียวฝ่าด่าน ออสเตรเลีย

อาถรรพ์โดนทำลาย,เมสซี่ ฉลองเกมที่1,000! 5 ข้อ อาร์เจนฯ น้ำลายเหนียวฝ่าด่าน ออสเตรเลีย
อาร์เจนติน่า ปะทะ ฮอลแลนด์!!!

นี่คือการเผชิญหน้ากันของสองทีมยักษ์จาก อเมริกาใต้ และ ยุโรป ในศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบแปดทีมสุดท้ายหลังจากจบเกมในรอบ 16 ทีมสองคู่แรกเมื่อวันเสาร์ที่ 3 ธ.ค.เป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่ง ฮอลแลนด์ พิชิต สหรัฐฯ 3-1 ขณะที่คู่ต่อมาในเดียวกัน อาร์เจนติน่า สยบ ออสเตรเลีย ได้แบบเฉียดฉิว 2-1

1.นัดที่ 1,000 ของ เมสซี่


เป็นไปตามคาดเมื่อ ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า ลงสนามนัดที่ 1,000 เป็นที่เรียบร้อยแล้วในเกมระดับอาชีพของเขา

รวมแล้ว ดาวยิงร่างเล็กวัย 35 ปีลงเล่นให้แผ่นดินเกิดเป็นนัดที่ 169 หลังผ่านการลงสนามในระดับสโมสรมาแล้วนัด 831 กับทั้ง บาร์เซโลน่า (778นัด) และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (53นัด) พร้อมทั้งมีผลงานซัดได้ 788 ประตู 338 แอสวซิสต์ และได้แชมป์ 41 รายการ รวมทั้ง บัลลงดอร์ 7 สมัย

เท่านั้นไม่พอ ในเกมฟัดกับ ออสเตรเลีย เมสซี่ ยังได้สวมปลอกแขนกัปตันทีม ฟ้าขาว เป็นเกมที่ 100 พอดีเช่นกัน

กระนั้นก็ดี เกมนี้ทีม ฟ้าขาว ปรับโผหนึ่งรายจากเกมชนะ โปแลนด์ 2-0 ในรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายโดย อเลฮานโดร โกเมซ มิดฟิลด์วัย 34 ปีจากทีม เซบีย่า ได้เสียบแทนตำแหน่งของ อังเคล ดิ มาเรีย ที่เจ็บต้นขา

2.จิงโจ้ ประเดิมใช้งาน แบ็คคัส


ด้าน ออสเตรีย โรเตชั่นทีมหนึ่งจุดเช่นกันจากเกมชนะ เดนมาร์ค 1-0 ในรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายด้วยการใช้งาน คีอานู บัคคัส ดาวเตะวัย 24ปีลงเล่นแทน เคร็ก กู้ดวิน อันเป็นการลงสนามในฐานะ 11 ตัวจริงกับแผ่นดินเกิดหนแรกของเขาด้วย

ต่อการจัดทัพดังกล่าวของ เกรแฮม อาร์โนลด์ นายใหญ่ทีม จิงโจ้ ส่งผลให้ แบ็คคัส ได้ชื่อว่าเป็นสมาชิกทีม เซนต์ เมียร์เรน ในลีกสกอตต์รายแรกที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงของศึก ฟุตบอลโลก

3.อาถรรพ์ถูกทำลาย


ในที่สุด เมสซี่ ก็ทำลายคำสาปของตัวเองได้สำเร็จเมื่อเช็คบิลในเกม ฟุตบอลโลก รอบน็อคเอาท์ ได้เป็นประตูแรกจนได้ในเกมบู๊กับ ออสเตรเลีย รอบ 16 ทีมซึ่งเขาซัดให้ ฟ้าขาว ออกนำในนาทีที่ 35

เป็นเรื่องเหลือเชื่อไม่น้อยที่ เมสซี่ ไม่เคยสอยข่ายในเกม ฟุตบอลโลก รอบน็อคเอาท์ได้เลยแม้จะผ่านสมรภูมิรายการนี้มาก่อนหน้านี้สี่ครั้ง และยิงไปแล้ว 8 ประตูด้วยกันโดยหัวหอกฉบับกระเป๋าลงเล่นเกมในรอบน็อคเอาท์ก่อนหน้านี้รวม 7 นัดเป็นเวลา 12 ชั่วโมง และสับไก 23 ครั้ง แต่ไม่ได้ประตู

และแล้วเขาก็ทำลายอาถรรพ์ที่ กาตาร์ ได้สำเร็จในเกมพิชิตทีม ออสซี่ 2-1 ซึ่งเป็นประตูที่ 3 ของเขาที่ กาตาร์ นำหน้าเป็นดาวซัลโวร่วม และเป็นประตูที่ 9 ของเขาในศึก ฟุตบอลโลก ตลอดจนเป็นประตูที่ 789 ในการลงสนามนัดที่ 1,000 ของตัวเอง





พร้อมกันนี้ ออสเตรเลีย ยังเป็นเหยื่อรายที่ 129 ที่โดนสตาร์เลือด ฟ้าขาว พังประตูได้เช่นกัน อีกทั้งในวัย 35 ปีทำให้เขาเป็นนักเตะ อาร์เจนไตน์ ที่มีอายุมากที่สุดด้วยต่อการยิงประตูใน ฟุตบอลโลก รอบน็อคเอาท์ได้แทนที่ โรเบร์โต้ อยาล่า (33ปี)ที่สร้างชื่อเอาไว้ในเกมต่อกรกับ เยอรมัน รอบแปดทีมเช่นกันเมื่อปี 2006

ขณะเดียวกัน เมสซี่ ประตูที่ 9 ใน ฟุตบอลโลก ของ เมสซี่ ทำให้เขาแซงนำ ดีเอโก้ มาราโดน่า กับ กิเยร์โม สตาบิเล่ ตำนานของชาติในรายการนี้ไปแล้วหนึ่งประตู รวมถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมชาติ โปรตุเกส คู่แข่งคนสำคัญด้วย และตามหลังดาวยิงสูงสุดในศึก เวิลด์คัพ ของ อาร์เจนติน่า อย่าง กาเบรียล บาติสตูต้า แค่ลูกเดียวแล้ว

สำหรับผลงานตลอด 90 นาทีของ เมสซี่ ในเกมล่าสุดมีดังนี้

6 ง้างยิง 

2 ยิงเข้ากรอบ

52 ครั้ง ผ่านบอลสำเร็จ

90% ผ่านบอลสำเร็จ

11 ผ่านบอลเข้าพื้นที่สุดท้าย

4 สร้างโอกาส

10 ตะลุยเข้าพื้นที่สุดท้าย

9 สัมผัสบอลในเขตโทษคู่แข่ง  

1 ประตู

4.ครึ่งแรกของ ออสซี่

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ออสเตรเลีย เป็นรอง อาร์เจนติน่า ทุกกระบวนท่า ฉะนั้นแผนการเล่นของพวกเขาจึงไม่มีอะไรซับซ้อนนอกจากเน้นตั้งรับให้แข็งแกร่งรอโอกาสที่คู่แข่งทำพลาดเพื่อลงโทษอย่างสาสม

แต่ถ้าจังหวะไม่ลงล็อคก็เป็นธรรมดาที่ทีมรองบ่อนอย่าง ออสซี่ ย่อมหวังถึงผลเสมอเพื่อรอลุ้นการยิงลูกโทษตัดสินซึ่งถึงนาทีนั้น ไม่มีทีมไหนเหนือกว่ากันอีกต่อไปแล้ว

แต่แล้วในที่สุด นาทีที่ 35  เมสซี่ ก็ปลดล็อคให้กับตัวเองได้ซึ่งส่งผลร้ายต่อทีม จิงโจ้ อย่างมหันต์แม้ตามสถิติใน 45 นาทีแรก ทีมของ อาร์โนลด์ จะทำตามแผนได้ดีเหลือเชื่อเมื่อเปิดโอกาสให้ยักษ์ละตินได้สับไกแค่ 2 ครั้งเท่านั้น และเสีย 1 ประตู ขณะที่พวกเขาเองมีโอกาส 1 ครั้ง แต่ไม่เข้ากรอบ แม้ตามตัวเลขการครองบอล อาร์เจนติน่า จะเหนือกว่าแบบเทียมกันไม่ได้ 61:39%

5.สถานการณ์(หวิด)สร้างวีรบุรุษ

ให้น่าเสียดายไม่น้อยที่ต้นครึ่งหลัง แม็ต ไรอัน นายทวาร ออสเตรเลีย มาก่อความผิดพลาดโดยพยายามเลี้ยงบอลหนีคู่แข่งในกรอบเขตโทษแล้วโดนดักได้กระทั่งเสียเม็ดสองเพิ่ม

เท่านั้นแหละ ออสเตรเลีย ก็เจองานระดับงมเข็มในมหาสมุทรเพราะแค่โดนนำลูกเดียวก็แทบกระอักเลือดแล้ว แต่นี่พวกเขาตกเป็นรองทีมแกร่งอย่าง อาร์เจนติน่า เพิ่มเป็นสองประตู

จนในที่สุด ทีม จิงโจ้ ก็มีความหวังเมื่อ กู้ดวิน ถูกส่งลงสนาม และมีช่องกระทุ้งบอลเต็มเกือกไปแฉลบ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ตุงตาข่ายจนทำให้นักเตะ  ออสซี่ คึกคักกันสุดขีด

จวบจนช่วงทดเวลา กาแรง คูล ตัวสำรองหัวหอกผิวสีวัย 18 ปีก็เกือบเป็นฮีโร่ตีเสมอให้  ออสเตรเลีย ได้เมื่อสบช่องพลิกตัวยิงในเขตโทษ แต่โดน เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ เซฟได้อย่างยอดเยี่ยม

นี่ถ้า คูล พังประตูได้สำเร็จ เขาจะดังระเบิดอย่างไม่ต้องสงสัยเนื่องจากดาวยิงทีม เซนทรัล โคสต์ มาริเนอร์ส เพิ่งผ่านการลงเล่นให้กับสโมสรไปแค่ 14 นัดเท่านั้น

แต่ขณะเดียวกัน แฟนบอล พรีเมียร์ลีก อาจได้ยลลีลาของเขาเพิ่มเติมในเดือนม.ค.นี้เนื่องจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ตีตราจองคว้าเขามาเสริมทีมเรียบร้อยแล้วในช่วงเปิดตลาดปีใหม่นี้

พร้อมกันนี้ หลังถูกส่งลงสนาม คูล วัย 18 ปี 79 วันก็ผงาดเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้เล่น ฟุตบอลโลก รอบน็อคเอาท์ รองจาก เปเล่ ในวัย 17 ปี 249 วันเมื่อปี 1958 ด้วย


ที่มาของภาพ : gettyimages.ae
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport