ทีมแรกที่ผ่านเข้ารอบ8 ทีมสุดท้ายคือ…. เนเธอร์แลนด์ รองแชมป์โลก 3 สมัย
ถึงรอบน้อคเอาต์ รอบสำคัญ ประสบการณ์ของทีมมีการวางแผนการเล่นมีส่วนในการเล่นเกม น่าจะสะท้อนออกมาแบบนี้
ดัชท์ครองเกมแต่ไม่ครองบอล
อาจารย์หลุยส์ จอมปรัชญาลูกหนัง จัดชุด11 คนแรกที่ขนะกาตาร์ นัดที่สาม ที่น่าจะลงล้อค หลังปรับจากเกมแรกในระบบ 3-4-1-2 หรือ 3-5-2
เซนเตอร์ตัวขวาเป็น ยูเลียน ทิมเบอร์ แท้กทีมกับ ฟานไดจ์ และ อาเก้ ส่วนวิงแบ้ก 2 ข้างลงตัวอยู่ละที่ ดุมฟรีส์และ บลินด์
มิดฟิลด์ หาคู่ให้ เฟรงกี้ เดอ ย็อง ก็เลือก เดอ รูน
ส่วนตัวทำใช้ กัคโป-เมมฟิส ส่วน คลาสเซน เล่นเบอร์10
โดย 11 คนแรกมาพร้อมกับแผน “รับแดนสอง” เปิดโอกาสให้ สหรัฐ เดินเข้าหาและครองบอล มีจังหวะเดี่ยวของ คริสเตียน พูลิสิช ยิงติดเท้า นอพเพิร์ต ช่วง5 นาทีแรก ก่อนเสียประตูจากจังหวะสวนกลับด้านข้างของ ดุมฟรีส์ ผ่านบอลเข้ามาแถวจุดโทษให้ เมมฟิส แปง่ายๆ1-0
พอได้ประตูนำ บอลยิ่งเข้าทางดัชท์
ให้สหรัฐ ครองบอลได้แถวกลางสนาม ไม่มาแดนสาม พื้นที่เต็ม โดยเฉพาะระหว่างกลางกับหลังของดัชท์
ขุนพลแยงกี้จึงเจาะไม่เข้า มันอึดอัดไปหมด จนทดเวลาครึ่งแรกจากลูกทุ่ม ด้านข้าง นักเตะสหรัฐ เสียสมาธิ ดุมฟรีส์ หลุดไปเปิดเข้าจุดนัดพบแถวจุดโทษ เป็น บลินด์ ยิงเข้าง่ายๆด้วยเท้าขวา 2-0
สหรัฐครองบอล78.3% สร้างโอกาสได้สามครั้ง
ดัชท์ สร้างโอกาส5 เข้ากรอบ2
บทสรุปครึ่งแรก
ฟาน กัล ใช้ปรัชญาลูกนัองเก่า มูรินโญ่
“ครองเกมแต่ไม่ครองบอล”
ส่วนครึ่งหลัง… สหรัฐ เปลี่ยน โจวานี เรยนา ลง ส่วนดัชท์ พัก คลาสเซน และ เดอ รูน ส่ง คูปไมเนอร์ และ เบิร์กไวน์ ลงแทน ปรับ กัคโป มายืนเบอร์10
เกมเหมือนครึ่งแรก แต่ดัชท์ได้สวนบ่อยขึ้น เพียงแต่เสียสมาธิเลยโดนตีไข่แตก น. 76 จากลูกโดนส้นเท้า ฮาจิ ไรท์ ตัวสำรองที่ย้อย เข้าไป
สหรัฐ คึกมาได้5-6 นาที กลับเสียประตูที่สามจังหวะดัชท์ ขึ้นบอล ทางซ้าย เดอ ย็อง ไหลให้ บลินด์ ครอสลึกเสาสอง ดุมฟรีส์ วิ่งมาแปเข้าง่ายๆ 3-1
เส้นทางสหรัฐจบแค่รอบ16 ทีม
ชัยชนะของดัชท์ ในเกมที่นับว่าเล่นดี ตามแทกติก จัดการทีมพลังหนุ่มแยงกี้ได้หมดจด มาจาก
1 แผนรับแดนสอง รอสวน ไม่ให้พื้นที่สหรัฐเล่น
2 ใช้วิงแบ๊กเดินเกมรุก ได้มา3 ประตูจาก 2แอสซิสต์ และยิง คนละ1
3 ประสบการณ์นักเตะ ยืดหยุ่น ช้าเร็วได้
4 ดัชท์ ยิงประตูช่วงสำคัญที่กำหนดและตัดสินเกม
รอบแรกยิง 5 นาทีแรก 5 นาทีสุดท้าย 5 ลูก
เกมนี้ ยิงนาทีที่10 นาทีที45+1 และ น.81