คนเจ้าน้ำตา

ความเพี้ยนของฟุตบอลมีให้เห็นประจำ เพียงแต่ก็คงนับครั้งได้ที่จะมีเหตุการณ์เหมือนกับหลายนาทีที่เกิดขึ้นจากอัล ยานู้บ สเตเดี้ยมเมื่อเย็นของวันศุกร์ที่ผ่านมา

ลำพังกาน่า v อุรุกวัยก็มีปูมแค้นที่ทำให้ผมต้องสะพายเป้ไปเฝ้าติดตาม ก็คงจำติดตารอบแปดทีมฟุตบอลโลกปี2010ซึ่งผ่านมา12ปีเอาไปถามกองเชียร์ดาวดำกี่คนก็ต้องได้คำตอบคล้ายกัน"We hate Suarez"

การโคจรมาเจอกันหนนี้ยังเดิมพันด้วยตั๋วรอบ16ทีมสุดท้ายอีกต่างหาก บรรยากาศช่วงก่อนเกมก็เป็นไปอย่างสนุกสนาน ฝ่ายหนึ่งที่ดูขนมาเยอะกว่าก็รวมกลุ่มร้องเพลงกันไป ส่วนอีกฝ่ายนั้นยืนกระจัดกระจายกันแต่ไฮไลท์อยู่ที่มีแฟนบอลบางคนที่จงใจเลยถือรูปๆนั้นติดตัวมาด้วย

มีรายหนึ่งเป็นหญิงวัยรุ่นที่จากป้ายที่คล้องคอก็คงเป็นนักข่าวปรินท์กระดาษเอาจังหวะที่ซัวเรซใช้มือเซฟบอลที่กำลังลอยข้ามเส้นประตูถือออกมาตอนขอสัมภาษณ์กองเชียร์กาน่า เรื่องทำนองนี้ถือว่าปกติครับในเกมลูกหนัง การแซะกัน เกทับบลัฟกันแม้ว่ามันอาจจะเป็นความสะใจจากฝั่งเดียวก็ตาม

ยังมีอีกคราวนี้ไดคัตรูปขนาดไซส์ซัวเรซตัวจริงมาเลย มากันสองคนเป็นหนุ่มสาวที่คาดว่าคงเป็นแฟนกัน งานนี้มีกล้องทีวีต้องตามไปถ่าย

ผมเองก็มีโอกาสได้คุยกับแฟนอุรุกวัยว่าสิ่งที่พวกเขาอยากเห็นที่สุดจากเกมนัดนี้คืออะไร? คำตอบที่ได้ทำเอาต้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมา"เราชนะและซัวเรซทำประตูได้จากมือ..."

ตลอด90นาทีถึงอาจไม่ใช่เกมที่สนุกที่สุดของเวิล์ด คัพหนนี้แต่ก็เป็นเกมต้องเป็นที่กระชากอารมณ์ที่สุดแน่นอน ก็เปิดฉากมาไม่ทันใดกาน่ามาได้ลูกโทษซึ่งถือเป็นโอกาสดีเลยที่จะชิงนำไปก่อนทว่าอังเดร อายิวดันซัดไปติดมือเซร์คิโอ โรเช่ต์ซะงั้น

ตลกร้ายก็ที่อ.อายิวคนนี้เป็นผู้เล่นคนเดียวของทีมที่หลงเหลือจากชุดบอลโลกที่แอฟริกาใต้!!!

เกมมีครบทุกรสชาติจริงๆ ผมเองก็นั่งก้นไม่ติดเบาะเลยเนื่องจากต่างต้องการเอาชนะกันโดยเฉพาะกาน่าที่หวังล้างแค้นให้ได้แม้ความจริงพวกเขาขอเพียงแต้มเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะตามโปรตุเกสเข้ารอบน็อกเอาต์

จุดนี้ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้โฟกัสของพวกเขาแทนที่จะอยู่ในเกม นึกออกไหมครับว่าต้องมีดึงมีผ่อนบ้างเพราะกุมความได้เปรียบอยู่ ก็กลายว่าจดจ้องแต่ความแค้นจาก12ปีที่แล้ว     เอาว่าดีกรีความเดือดของเกมล้นทะลักจนถึงขั้นว่ามีนักข่าวอุรุกวัยคนหนึ่งถึงขั้นปาดขวดน้ำลงพื้นตอนที่ดาร์วิน นูนเยซได้ลูกหลุดเดี่ยวยิงผ่านนายทวารกาน่าได้แล้วแต่โดนสกัดเคลียร์ก่อนเข้าประตู กระนั้นตรงไปตรงมาผมไม่ชอบเอาซะเลย โอเค-คุณมีแพสชั่นอยากลุ้นประเทศตัวเองแต่กิริยาแบบนี้ไม่เหมาะสมเลยที่จะมาทำภายใต้เครื่องแบบของสื่อมวลชน

ว่าไปก็ควรเป็นวันของซัวเรซ

เขาต้องได้รับเลือกให้เป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ได้เป็นฮีโร่ของคนทั้งชาติและต้องเป็นที่ชิงชังเพิ่มทวีคูณจากชาวกาน่าทั่วโลก

กองหน้าที่ปัจจุบันวัย35แล้วมีส่วนกับทั้งสองลูกที่ทีมทำได้ นอกจากนั้นก็ยังดูเป็นนักเตะคนเดิมที่เราคุ้นตาสมัยพีกๆกับลิเวอร์พูลหรือบาร์เซโลน่าก็ตาม มีการเรียกฟาวล์จากคู่แข่ง มีโชว์ลีลาพาบอลดึงตัวประกบให้หลุดตำแหน่งตามไปและที่ขาดไม่ได้มีไปเถียงผู้ตัดสินจนได้ใบเหลืองไป

ตอนที่โดนเปลี่ยนออกมานในนาที65ก็ยังมีสังเกตพบรอยยิ้มบนใบหน้าได้อยู่เนื่องจาก ณ ตอนนั้นเป็นอุรุกวัยที่จะเข้ารอบ

แต่แล้วก็มีเสียงเฮดังจากฝั่งกาน่า    

แต่แล้วก็มีการอัพเดตตารางคะแนนภายหลังจากเกาหลีใต้ได้ประตู2-1ตอนทดบาดเจ็บ

และแล้วก็มีน้ำตาเล็ดออกมาจากชายผู้ที่มีทั้งคนรักและคนเกลียด(ทีมเดียวก็สนับสนุน ทีมตรงข้ามก็สาปแช่ง)

อุรุกวัยตกรอบ นี่ก็คงจะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายแล้วของซัวเรซ

จากทั้งหมดสี่สมัยที่ได้เข้าร่วมนับแต่ปี2010เป็นต้นมาก็มีสถิติยิงไปทั้งหมด 7 ลูกโดยในช่วงเวลาเดียวกันก็มีเพียงโธมัส มุลเลอร์ของเยอรมันเท่านั้นที่ส่งบอลกระแทกก้นตาข่ายได้เยอะกว่า

ท้ายเกมชาติจากแดนละตินอเมริกาที่เคยครองแชมป์โลกมาสองครั้งมีโอกาสจะบวกประตูเพิ่มด้วย ถ้าพวกเขาชนะ3-0ก็จะเป็นพวกเขาที่เข้าแทนเกาหลีใต้ซึ่งจบไปก่อน

ครับ บทสรุปของเกมก็ตามที่ได้บรรยายไว้แล้วในบรรทัดแรกของงาน

ผู้แพ้เริงระบำกันราวเพิ่งถูกประกาศให้ได้รับอิสรภาพ

ขณะที่ผู้ชนะบ้างทรุดไปนอนแผ่หราบนพื้น บ้างเดินคอตกออก บ้างที่ยังฉุนเฉียวไม่หายไปโวยใส่ผู้ตัดสินแต่ที่กล้องจับภาพบ่อยที่สุดเป็นคนเจ้าน้ำตาคนนั้น...

"ไก่ป่า"