อยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเถอะ

อยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเถอะ
ไม่ต้องสงสัยใดๆเลยว่านี่เป็นเกมยอดเยี่ยมที่สุดของฟุตบอลโลกครั้งนี้เท่าที่แข่งกันมา ก็ยังไม่ใช่แค่นั้นมันก็สามารถถูกจัดไปอยู่ในหมวดตลอดกาลได้เลย พวกเขาทำได้อีกครั้ง พวกเขาทำได้แล้ว

การมาถกเถียงกันเรื่องลูกบอลว่าข้ามเส้นออกหลังไปเต็มใบหรือยังก็เปล่าประโยชน์ แม้เทคโนโลยีทุกวันนี้จะก้าวล้ำมีการฝังชิพในลูกบอล ก็ยังตลกที่ว่าเรื่องของมุมกล้องก็ทำให้คนทะเลาะกันได้ ต่อให้ญี่ปุ่นไม่ควรได้ประตูนั้นแล้วจะยังไง ที่ผ่านมาพงศาวดารเกมลูกหนังได้เต็มไปด้วยร่องรอยของข้อกังขามาตลอด

ปี1966ลูกยิงใส่เยอรมันตะวันตกของเจฟฟ์ เฮิรทส์ข้ามเส้นไปยัง?

ปี1986ชาวบ้านด่าแล้วด่าอีกแต่คนอาร์เจนติน่ารักเรียกลูกนั้นว่า'Hand of God'(แล้วจะทำไมก็เป็นแชมป์ไปแล้ว)

ปี2010บอลจากปลายสตั๊ดแฟร้งค์ แลมพาร์ดก็หลุดลอยข้ามเส้นไปเต็มๆ บางคนเชื่อว่ามันเป็นตราบาปที่ย้อนมาเขี่ยให้เยอรมันตกรอบในหนนี้...

เพราะถ้าจังหวะนั้นที่คาโอรุ มิโตมะเปิดมาให้อาโอะ ทานากะเข้าชาร์จโดนจับว่าบอลออกไปเต็มใบแล้วก็เท่ากับเกมจบ1-1โดยจะเป็นทีมอินทรีเหล็กที่ได้กางปีกเข้ารอบน็อกเอาต์แทน

ผมพูดเสมอว่า'นี่คือฟุตบอล'

เกมกีฬาที่ไม่ใช่แค่กีฬา เกมกีฬาที่ให้เราได้ลึกซึ้งครบถึงทุกอารมณ์เหนือทุกประเภทกีฬา บางทีมันก็ดูสวยงาม บางทีมันก็ดูโหดร้ายจัง บางทีมันก็ดูน่าขบขัน บางทีมันก็ทำให้เราเจ็บปวดะบางทีมันก็ทำให้เราไม่เคยเข้าใจว่าเพราะอะไร

หลังเกมชินจิ โอโนะ อดีตนักเตะที่ชาติญี่ปุ่นมาคุยกับสื่อถึงคืนประวัติศาตร์

พราะอะไร...ชาติจากเอเชียถึงกำราบสองยักษ์ยุโรปทั้งเยอรมันกับสเปนได้โดยจบแชมป์ของกลุ่มอย่างองอาจ

เพราะอะไร...ทีมที่ครองบอลแค่18%กลับได้รับการชูมือ ไม่ใช่เท่านั้นยังได้รับการค้อมหัวให้จากทั่วสารทิศ

เพราะอะไร...ในเวลาห่างกัน142วินาทีถึงเป็นไฮไลท์ของเกมที่ตะบี้ตะบันกันยาวนาน90นาทีซึ่งสองลูกของญี่ปุ่นที่ได้จากริตซึ โดอันกับทานากะจึงเหมือนหมัดน็อกที่เหวี่ยงเข้าหาทีมจากแดนกระทิงจนลงไปนอนกองกับพื้น

คำตอบก็ต้องวกไปหาประโยคข้างบนครับเพราะมันคือเจ้าลูกกลมๆที่ไม่เคยออกแบบได้

บรรยากาศตอนเสียงนกหวีดยาวดังก็อาจรู้สึกว่าญี่ปุ่นคว้าแชมป์โลกสำเร็จ มองไปในสนามมีนักเตะบางคนทิ้งร่างลงไปบนหญ้าคล้ายหมดแล้วพลังงานก๊อกสุดท้ายที่งัดมาใช้ ใกล้ๆตรงเพรสบ็อกซ์นักข่าวก็มีกองเชียร์ซามูไรที่โผเข้ากอดกันพร้อมเขย่าตัวตาม มันเป็นภาพที่ดูแล้วก็ต้องอยากร่วมยินดีตาม ขณะเดียวกันก็มีนักข่าวสาวญี่ปุ่นคนเดิมจากเกมเยอรมันถึงขั้นฝืนน้ำตาไว้ไม่อยู่

ร้องออกมาเถอะแม่หนู

ร้องออกมาให้โลกรับรู้ถึงความปลื้มปิติของค่ำคืนแห่งประวัติศาสตร์

แม้ก่อนนี้ญี่ปุ่นจะเคยเข้ารอบ16ทีมเวิล์ด คัพมาได้แล้วสามหน(2002, 2010, 2018)แต่ย่อมเทียบกับคราวนี้ไม่ได้เลย ในกลุ่มที่มีคนเรียกว่า'กรู๊ป ออฟ เดธ'โดยใครต่อใครก็ยกให้ว่ายังไงสเปนกับเยอรมันคงควงแขนเข้ารอบ อยู่แค่ว่าใครจะจบอันดับ1

มันก็ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยด้วย

ทุกอย่างเกิดจากฝีมือของโค้ช, สปิริตของนักเตะตลอดไปจนความเผลอเรอติดประมาทไปเองของพวกขาใหญ่ยุโรป

สองเกมสกอร์เดียวกัน2-1ก็มีบางอย่างที่เหมือนกัน

ครึ่งแรกตกฝ่ายตามหลังไปก่อน มีบางโมเมนต์ที่จะเยอรมันหรือสเปนก็ตามที่ดูพยายามโชว์ว่าเหนือกว่า ไม่เร่งเครื่องที่จะเพิ่มประตูไป พอเข้าสู่ครึ่งหลังฮาจิเมะ โมรึยาสึ กุนซือของญี่ปุ่นแก้เกมเปลี่ยนตัวสำรองลงมาช่วยให้ทีมพลิกสถานการณ์ได้

ทั้งโดอันและมิโตมะถูกส่งตอนพักครึ่งเวลาในเกมกับสเปน ส่วนย้อนไปวันเจอเยอรมันลงพอครึ่งหลังเตะไปได้สักพัก

มาดของโมรึยาสึก็เป็นกรณีที่น่าศึกษา เขาไม่ใช่โค้ชที่แสดงอาการสั่นเกร็งริมเส้นสีขาวโดยทางตรงกันข้ามเลยเขามักยืนกอดอกดูเกม อาศัยความนิ่งสยบความเคลื่อนไหวแต่แน่นอนในสมองย่อมคิดหาทางอยู่ตลอดเวลา

"ต้องให้เครดิตการแก้เกมของฮาจิเมะ ในครึ่งหลังเขากล้าเสี่ยงที่จะใช้เกมเพรสเข้าใส่สเปนจากที่ปกติต้องถอยมาตั้งรับให้เต็มหน้าเขตโทษ นี่เป็นการเสี่ยงเพราะหากเกมเพรสหลุดมาก็มีโอกาสเสียประตูเพิ่มแต่นักเตะของเราทุกคนทำกันได้ยอดเยี่ย"ชินจิ โอโนะที่มาเชียร์รุ่นน้องถึงสนามกล่าวเอาไว้หลังเกม

บังเอิญว่าโอโนะลงมาในห้องมีเดียจึงทำให้มีผมกับสื่ออีก2-3เจ้าเข้าไปขอสัมภาษณ์ เจ้าของหมวกทีมชาติ56ใบก็ยิ้มให้ด้วยความเต็มใจ

"รอบต่อไป? เจอใครก็ย่อมหนักทั้งหมดไม่เฉพาะแต่โครเอเชียแต่แน่นอนผมก็หวังจะเห็นทีมเล่นให้เต็มที่มากที่สุดไว้ก่อน ส่วนผลการแข่งขันจะเป็นยังไงถือว่าเป็นเรื่องรอง"

เกมกับเยอรมันได้ประตูที่สองก่อนจบเวลาปกติ 7 นาที      

ขณะที่คืนพฤหัสฯนั้นให้โอกาสทีมกระทิงดุได้ตีคืนถึง 39 นาทีแต่ด้วยความทุ่มเทของขุนพลเลือดบูชิโดทุกคนรวมถึงซูเปอร์เซฟสองครั้งติดตอนท้ายเกมจากชูอิชิ กอนดะก็ทำให้มันเกิดขึ้นจริงแล้วว่าญี่ปุ่นตีตั๋วเข้ารอบในฐานะแชมป์ของกลุ่ม

"บางคนบอกว่าเป็นความเซอร์ไพร์สหรือว่าปาฎิหาริย์แต่พวกเราไม่คิดเช่นนั้น เราแค่ทำตามหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เป็นตัวของพวกเราเองให้มากที่สุด"ทานากะ ฮีโร่ของทีมพูดไว้

อืมมมมม    

ก็มีเสียงนินทาโหมดังว่าเกมนี้สเปนเล่นแบบไม่เต็มร้อยเพราะอยากหนีโครแอตไปเจอโมร็อกโกในรอบ16ทีม

ข้อนี้หลุยส์ เอ็นริเก้ยักไหล่ให้ เขาชี้ว่ามันมีช่วงเวลาหนึ่งที่ถึงจะสั้นๆทว่าก็เป็นช่วงที่เขากระทิงมีโอกาสหักได้หลังจากสกอร์อีกสนามเป็นคอสตาริก้าที่ออกนำเยอรมันไป ถ้าจบแบบนี้ก็เป็นสเปนครับที่ต้องลากกระเป๋ากลับบ้าน

"ผมไม่รู้สกอร์ของอีกคู่หรอก ถ้าผมรู้ก็อาจหัวใจวายได้..."

มีเหตุผลที่รองรับได้ถึงพัฒนาการของทีมปลาดิบชุดนี้โดยหลักๆก็เป็นประสบการณ์ที่ขุนพลเกือบทั้งทีมได้มาจากการไปค้าแข้งในลีกยุโรป มีถึง 19 จาก 26 ที่หากินอยู่ไม่ว่าจะในพรีเมียร์ลีก, บุนเดสลีกา, ลา ลีกา, ลีกเบลเยี่ยม, ลีกโปรตุเกส, ลีกสกอตติชรวมถึงในลีกเอิงของฝรั่งเศส

นี่ต่างหากครับว่าทำไมญี่ปุ่นถึงทำได้

ในเกมแรกที่ทุบเยอรมันก็เป็นตัวกัปตันทีม-มาย่า โยชิดะออกมายอมรับเองว่าความที่ตัวกับเพื่อนร่วมทีมอีกถึง 7 รายกระจายอยู่ในบุนเดสลีกาจึงทำให้รู้จักถึงวิธีการเล่นกับคาแรกเตอร์ของชาวดอทยช์ มันช่วยได้ทีจะเอามาวิเคราะห์ต่อถึงจุดแข็งจุดอ่อน




ความสุดยอดของญี่ปุ่นทีมนี้จึงมาจากองค์ประกอบหลายเรื่องผนวกรวมกัน ทั้งสปิริต, วินัย, แรงกระตุ้น, แฟนบอล, แท็กติกของโค้ชและศักยภาพของตัวผู้เล่น

ผมยังมองด้วยว่าการที่พวกเขาเสียท่าให้คอสตาริก้าก็น่าจะเป็นว่าพวกเขาอาจเหมาะกับเกมที่ลงสนามไปแบบทีมรองบ่อนมากกว่าทีมที่เป็นต่อโดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากเปอร์เซนต์ครองบอลเฉลี่ยจากสองเกมที่สยบเยอรมันกับสเปนลงได้

อีกอย่างเราจะไปเสียเวลาไปตีความในแง่ลบเพื่ออะไร ทั้งที่มันมีเรื่องราว มีก้อนพลังงานให้เข้าไปฉกฉวยมาแปรเปลี่ยนใส่ตัวเราในวันที่ตัวแทนจากเอเชียได้ประกาศชื่อสู่โลกภายนอก ในสนามก็มีแต่คนเอาใจช่วยญี่ปุ่น ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

กองเชียร์ซามูไรก็คงประพฤติปฎิบัติตัวยอดเยี่ยมเช่นเคย ไม่ว่าเกมจะชนะหรือแพ้ก็คงแจกถุงพลาสติคให้กัน ช่วยกันคนละไม้คนละมือเก็บขยะบนอัฒจันทร์

แน่นอนว่าความมั่นใจของญี่ปุ่นย่อมกำลังมา เกมต่อไปกับโครเอเชียก็ต้องมาลุ้นกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง อย่างหนึ่งพวกเขาไม่เคยไปไกลเกินรอบ16ทีมในฟุตบอลโลกมาก่อนเลย

 กระนั้นบนถนนสายนี้ที่พวกเขาได้เข้ายึดครองหัวใจของใครหลายคนสำเร็จ บางคนยังยอมมอบให้ทั้งสี่ห้องไปเลยถึงเลือดนักสู้อันแรงกล้าของชาติที่ไม่เคยยอมจำนนต่อโชคชะตา เรื่องบางเรื่องก็ก็ใช่สอนกันได้ มันต้องอาศัยการปลูกฝังกับการโอนถ่ายของดีเอ็นเอ

ใช่ อยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเถอะ

ไม่มีใครคิดว่าคุณขี้แยหรอก พวกคุณช่างแข็งแกร่งน่านับถือต่างหาก

"ไก่ป่า"


ที่มาของภาพ : getty images
BY : ไก่ป่า
เอกราช นิติสุทธิ์สกุล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport