ทรูฯ เตรียมดำเนินการฟ้องกล่องไอพีทีวี ละเมิดลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ตามคำสั่งของกสทช. โดย กสทช.อ้างหนังสือดังกล่าวเป็นไปตามมติที่ประชุม กสทช. และกฎมัสต์แครี่ แต่ทั้งนี้ผู้ให้บริการต้องศึกษากฎหมายอื่นเองด้วย รับปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องระหว่าง กกท. กับ ทรู
ดร.ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อ 25 พ.ย.65 ว่า กลุ่มทรู ในฐานะผู้ได้รับสิทธิจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ยืนยันสิทธิตามที่ได้ทำข้อตกลงการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานทั่วโลก และถูกระบุไว้ในประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรื่อง หลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (กฎมัสต์แครี่) รวมทั้งแนวปฏิบัติตามกฎ ที่ระบุว่า การให้บริการโทรทัศน์ตามกฎมัสต์แครี่ จะต้องอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมถึงกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาอีกด้วย
ในฐานะที่กลุ่มทรู ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่นำเข้าลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับโลก ซึ่งให้ความสำคัญและเคารพสิทธิ อีกทั้งยืนยันว่าไม่เคยฝ่าฝืนหรือเรียกร้องใดๆ เพราะกังวลถึงผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศ แต่กรณีที่ กสทช.ส่งจดหมายอนุญาตให้ผู้ให้บริการกล่องทีวีอินเตอร์เน็ต ไอพีทีวี เมื่อ 24 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า สามารถรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกตามกฎมัสต์แครี่ได้นั้นถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยทรูอยู่ระหว่างพิจารณา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ประกอบการบางราย ที่ปฏิบัติตามคำสั่งของ กสทช. ซึ่งขัดต่อกฎหมายลิขสิทธิ์ต่อไป” ดร.ธีรเดช กล่าว
ด้านนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.) เผยว่า หนังสือของ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก เมื่อวันที่ 24 พ.ย.65 นั้น เป็นไปตามมติที่ประชุม กสทช. และกฎมัสต์แครี่ แต่ทั้งนี้ผู้ให้บริการต้องศึกษากฎหมายอื่นเองด้วย ดังนั้น การที่กลุ่มทรูจะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ประกอบการรายใดนั้น มองว่าไม่เกี่ยวข้องกับ กสทช. โดยเป็นเรื่องที่ กกท.ต้องมีการตกลงหารือร่วมกับทรูต่อไป ขณะเดียวกัน กสทช.อยู่ระหว่างขอข้อมูลการทำสัญญาระหว่างทรูและ กกท. แต่เบื้องต้นยังไม่ได้รับข้อมูล