กลายเป็นทีมเอเชียที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากสำหรับทีมชาติญี่ปุ่น หลังสามารถพลิกล็อคเอาชนะ เยอรมัน แชมป์โลก 4 สมัย ได้ 2-1 ในการประเดิมสนามศึกฟุตบอลโลก 2022 มีคำถามเกิดขึ้นมากมายสำหรับเรื่องราวของญี่ปุ่นทำไมเดินได้ไวเดินได้ไกล และเดินได้แบบมีคุณภาพ เรื่องของระบบโครงสร้างที่วางไว้ทั้งเรื่องของรากฐานนักเตะ, โค้ชที่เต็มไปด้วยความสามารถ อาจจะเป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ถูกวางไว้ตลอดเส้นทาง เพียงแต่ว่าญี่ปุ่นใส่รายละเอียดในทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอล
อีกหนึ่งปัจจัยการทำงานด้านการเลือกโค้ชทีมชาติญี่ปุ่นขึ้นมาคุมทีมชาติชุดใหญ่ 2 คนหลังที่แสดงออกแบบชัดเจนตามนโยบายของสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นคือ เรื่องของการใช้ความสามารถโดยนำรายละเอียดความสำเร็จมาทำการตรวจจับเพื่อลดคำครหาว่าคุณภาพการทำงานดีแค่ไหน? และเหมาะสมแค่ไหน? กับการขึ้นมาอยู่บนหลังเสือ ฟุตบอลโลก 2 ครั้งหลังสุดชื่อของ อากิระ นิชิโนะ ที่ได้คุมทีมในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018 แทน วาฮิด ฮาลิฮอดซิช เทรนเนอร์ชาวบอสเนียที่มีปัญหากับสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น และ ฮาจิเมะ โมริยาสึ คุมทีมสู้ศึกฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งในปี 2018 รับงานเป็นผู้ช่วย อากิระ นิชิโนะ แน่นอนว่าการเลือกโค้ชคุมทีมชาติย่อมมีที่มาที่ไปในการเลือกมาทำทีมนอกเหนือจากไลเซนส์ที่ร่ำเรียนมา
อากิระ นิชิโนะ:ฟุตบอลโลก 2018
ผลงานทีมชาติ: พาญี่ปุ่น เข้ารอบ อลป.1996 (รอบ 28 ปี)
ผลงานสโมสร:แชมป์เจลีก 2005(กัมบะ โอซากา) แชมป์ลีก คัพ 1999,2007 (คาชิว่า เรย์โซล,กัมบะ โอซากา),แชมป์เอ็มพาเรอร์ คัพ 2008,2009(กัมบะ โอซากา),แชมป์เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ ลีก 2008(กัมบะ โอซากา),โค้ชยอดเยี่ยมเอเชีย 2008
ฮาจิเมะ โมริยาสึ :ฟุตบอลโลก 2022
ผลงานทีมชาติ:อันดับ 4 อลป.2020,รองแชมป์เอเซียน คัพ 2019,รองแชมป์ เอเซียนเกมส์ 2018,แชมป์เอเชียตะวันออก 2022
ผลงานสโมสร:แชมป์เจลีก 2012,2013,2015(ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า),อันดับ 3 สโมสรชิงแชมป์โลก 2015 (ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า),โค้ชยอดเยี่ยมเจลีก 2012,2013,2015(ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า)