สดุดีผลงาน 5 ดาว! เกร็ดน่าสนใจจากเกม ญี่ปุ่น แซงดับ เยอรมนี

สดุดีผลงาน 5 ดาว! เกร็ดน่าสนใจจากเกม ญี่ปุ่น แซงดับ เยอรมนี
นับเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมสำหรับทีมชาติญี่ปุ่นกับการที่พวกเขาสามารถชนะ เยอรมนี 2-1 ในเกม ฟุตบอลโลก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี เมื่อวันพุธที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาได้ จนทำให้ขุนพลจากแดนอาทิตย์อุทัยประเดิมมหกรรมลูกหนังโลกหนนี้ด้วยการได้ 3 คะแนน

อย่างที่รู้กันดีว่านี่นับเป็นครั้งแรกที่ ญี่ปุ่น กลับมาเป็นฝ่ายชนะในเกม ฟุตบอลโลก ได้ แม้ว่าจะโดนนำไปก่อน หลังจาก 9 ครั้งก่อนหน้านี้จบลงที่การเสมอ 2 หนและแพ้ 7 นัด แต่นอกเหนือจากนั้นแล้วมันก็ยังมีเกร็ดอีกบางอย่างที่น่าสนใจเกี่ยวกับผลงานนัดล่าสุดของพวกเขาเหมือนกัน

- พิชิตแชมป์โลกได้เป็นหนแรก

ในประวัติศาสตร์การเล่นเกม ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ของญี่ปุ่นนั้น นี่นับเป็นครั้งที่ 3 ที่พวกเขาต้องเจอกับทีมที่มีดีกรีเป็นแชมป์โลก และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่พวกเขาสามารถทำให้ทีมในระดับนั้นต้องพบกับความปราชัยได้

สำหรับ 2 หนก่อนหน้านี้ที่ ญี่ปุ่น เจอกับทีมที่เคยได้แชมป์ ฟุตบอลโลก มาแล้วนั้น ประกอบด้วยเมื่อตอนปี 1998 ที่พวกเขาแพ้ให้ อาร์เจนตินา 0-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม และเมื่อปี 2006 ที่ปราชัยต่อ บราซิล 1-4 ในรอบแบ่งกลุ่มเช่นกัน

- ครึ่งแรกที่เลวร้ายที่สุด

ในช่วงครึ่งแรกนั้นต้องยอมรับว่า เยอรมนี ทำได้เหนือกว่าเยอะจนทำให้ ญี่ปุ่น มีจังหวะยิงเพียงแค่ 1 หน (ไม่นับรวมจังหวะล้ำหน้า) และผ่านบอลเข้าเป้าเพียงแค่ 62 ครั้ง ซึ่งในประวัติศาสตร์ของศึก ฟุตบอลโลก มันไม่เคยมีทีมไหนเลยที่ทำผลงานในช่วงครึ่งแรกต่อ 1 เกมได้เลวร้ายขนาดนั้นมาก่อน

- ครองบอลน้อยไม่เสียหาย

บางคนอาจจะมีความคิดฝังหัวว่าการจะได้ผลงานที่ดีในแต่ละเกมนั้นมันก็จำเป็นต้องมีการครองบอลที่เยอะตามไปด้วย แต่นั่นไม่ใช่ความจริง อย่างเกมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ญี่ปุ่น มีเปอร์เซ็นต์การครองบอลเพียงแค่ 26.2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ทั้งนี้ หากนับตั้งแต่ศึก ฟุตบอลโลก 1966 เป็นต้นมาแล้วล่ะก็ นี่ก็ถือเป็นเกมที่มีทีมใดทีมหนึ่งครองบอลได้น้อยที่สุดต่อ 1  เกมเป็นอันดับ 2 โดยอันดับ 1 คือ เกาหลีใต้ ที่เคยได้ครองบอลเพียง 26.1 เปอร์เซ็นต์เมื่อ 4 ปีก่อน และมันเหมือนตลกร้ายที่วันนั้น "โสมขาว" เจอกับ เยอรมนี เหมือนกัน ซึ่งตอนนั้น เกาหลีใต้ ชนะไป 2-0 พร้อมกับเขี่ย เยอรมนี ตกรอบแบ่งกลุ่มด้วย




- ลางดี ?

จากการร่วมทำศึก ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ทั้งหมด 7 ครั้ง เชื่อหรือไม่ว่านี่เป็นเพียงครั้งที่ 3 เท่านั้นที่ ญี่ปุ่น สามารถประเดิมทัวร์นาเมนท์ด้วยการเก็บชัยชนะได้

อย่างไรก็ตาม ที่น่าสนใจก็คือ 2 ครั้งก่อนหน้านี้ที่พวกเขาได้ 3 แต้มตั้งแต่นัดแรกนั้น ญี่ปุ่น สามารถผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ทั้งหมด ประกอบด้วยเมื่อตอนปี 2010 ที่พวกเขาเปิดหัวของกลุ่ม อี ด้วยการชนะ แคเมอรูน 1-0 ก่อนจะเป็นรองแชมป์กลุ่มด้วยผลงาน 6 แต้ม และปี 2018 ที่คว้าชัยเหนือ แคเมอรูน 2-1 ก่อนจะเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม เอช จากการมี "คะแนนแฟร์เพลย์" หรือแต้มสะสมจากการโดนใบเหลือง-ใบแดง ดีกว่า เซเนกัล


- เด็กเกร็ดบอล -


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : เด็กเกร็ดบอล
เด็กเกร็ดบอล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport