ทีมชาติญี่ปุ่นถือว่าเป็นอีกหนึ่งทีมของโลกที่ยกระดับขึ้นมาอย่างรวดเร็วทั้งเรื่องของฝีเท้าและการจัดการ แน่นอนว่าการทำงานเต็มไปด้วยรายละเอียดปีกย่อยที่มีประสิทธิภาพ นอกเหนือจากนักเตะ,โค้ช,เจ้าหน้าทีม,ผู้บริหารแล้ว ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นกระโดดสู่ความสำเร็จอีกหนึ่งยูนิตคือเชฟประจำทีมชาติญี่ปุ่น ที่ร่วมหัวจมท้ายในทุกรายการแข่งขัน
ชื่อของ โยชิเทรุ นิชิ นักปรุงอาหารทีมชาติวัย 60 ปี ถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น เพราะเขาคือคนสำคัญที่ทำให้นักเตะทีมชาติญี่ปุ่นสู้ในสนามได้อย่างมีพลังในการจัดการเรื่องของเมนูอาหารและที่สำคัญเสริมกำลังใจด้วยอาหารที่ถูกปากตามสไตล์ญี่ปุ่น
จุดเริ่มต้น ปี 2547
โยชิเทรุ นิชิ เชฟปรุงอาหารทีมชาติญี่ปุ่น เริ่มงานกับทีมชาติมาตั้งแต่ปี 2547 นี่คือการพาทีมชาติญี่ปุ่นลุยฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกัน เรื่องของฝีไม้ลายมือถือว่าเป็นจุดเด่นของเชฟรายนี้ อีกทั้งยังเป็นเชฟที่คำนวณคุณค่าอาหารและความอร่อยได้อย่างลงตัว ทุกครั้งที่ออกเดินทางไปต่างประเทศจะต้องไปก่อนเพื่อตามหาวัตถุดิบนอกเหนือจากสิ่งที่จะต้องเตรียมไป นิชิ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ที่โรงฝึกฟุตบอลแห่งชาติ เจ วิลเลจ ในจังหวัด ฟุกุชิมะ ถือเป็นบุคคลที่ยังไม่มีใครก้าวมาแทนที่ได้ ฟุตบอลโลก 2006 คือครั้งแรกที่เมนูอาหารของเขาถูกยกไปตั้งบนโต๊ะอาหารขุนพลซามูไรบลู ถือว่าเป็นส่วนสำคัญของทีมชาติญี่ปุ่น ที่นักเตะจะขาดไม่ได้ มีครั้งหนึ่งที่เชฟรายนี้เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าอาจจะต้องยุติบทบาทเนื่องจากวัยที่สูงขึ้น แต่สุดท้ายด้วยพลังแห่งความหวังจึงเดินหน้าต่อกับทีมชาติญี่ปุ่น
ฟุตบอลโลกดินแดนเมนูต้องห้าม
ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ หลายชาติอาจจะประสบปัญหาพอสมควรในเรื่องของการจัดเมนูเพราะวิถีความเคยชินแต่ละชาติแตกต่างกัน ที่กาตาร์ เมนูหมูเป็นเมนูต้องห้าม โยชิเทรุ นิชิ เชฟปรุงอาหารทีมชาติญี่ปุ่นออกเดินทางไปยังประเทศกาตาร์ล่วงหน้า เนื่องจากต้องไปเช็ค ระบบปรับอากาศในห้องครัว และเส้นทางเข้าสู่ห้องอาหาร ตลอดจนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอาหาร
พร้อมกับครุ่นคิดในเรื่องของเมนูเสริมพลังงานฟื้นพลังงานนักเตะญี่ปุ่น เพราะเนื้อหมู ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินบี 1 ช่วยให้นักกีฬาฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้าได้ดี จึงถูกดัดแปลงด้วยการใช้เนื้อวัวหรือตับไก่ให้มากขึ้นแทนเนื้อหมู เพื่อเสริมพลังงานของนักกีฬา
ทีมชาติญี่ปุ่นถูกวิเคราะห์ผู้เล่นวิ่งมากกว่า 10 กิโลเมตรใน 90 นาที จึงต้องหาเมนูที่เหมาะสม นอกจากนั้นเมนูก่อนแข่ง 3 วัน ที่กาตาร์ถูกวางรายละเอียดดังนี้ ผู้เล่นจะต้องกิน สเต็กแฮมเบอร์เกอร์สามวันก่อนการแข่งขัน ปลาค็อดย่างก่อนแข่งสองวัน และปลาไหล "อุนางิ" ในวันก่อนเกม โดยเชฟเปิดใจว่า มันไม่รู้สึกเหมือนทำงาน รู้สึกเหมือนกำลังทำอาหารให้ครอบครัวและพยายามสร้างบรรยากาศที่มีความสุขให้กับนักเตะทุกคน