อีกสองวันฟุตบอลโลกก็จะมาถึงอีกครั้งแล้วนะครับ
บรรยากาศอาจจะไม่ได้ฟีเวอร์เหมือนหลายๆ ครั้งที่ผ่านมาที่มีเวลาร่วมเดือนเพาะบ่มอารมณ์ให้เราให้เข้าไปหามัน
ฟุตบอลโลกครั้งนี้อาจจะรู้สึกเหงาๆ อยู่บ้างเพราะเวลาบ่มเพาะที่ว่านั้นแทบไม่มี
สัปดาห์ก่อนเรายังลุ้นฟุตบอลสโมสรกันอยู่เลย มาสัปดาห์นี้อ้าวฟุตบอลโลกหวดกันซะแล้ว
แน่นอนครับมันยังมีปัจจัยประกอบอื่นๆ อีกด้วย อย่างการเข้าถึงฟุตบอลได้จากทุกที่ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงไหนของโลกก็อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง
ทุกวันนี้เราสื่อสารผ่านเจ้าโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กๆ ดูทุกอย่างได้จากในนั้น
ไม่ต้องดิ้นรนขวนขวายรีบเคลียร์ทุกอย่างให้เสร็จเพื่อเดินทางกลับไปดูที่บ้าน หรือบ้านเพื่อน หรือตามสถานที่จัดกิจกรรมดูบอลร่วมกันทั้งหลาย
มีเพียงแค่ตัวเรากับมือถือเครื่องเดียวก็ดื่มด่ำไปกับฟุตบอลที่ถ่ายทอดสดได้
ความเคลื่อนไหวที่ก่อให้เกิดความคึกคักของคนหมู่มากจึงมีน้อยลงไป เศรษฐกิจที่ง่อนๆ แง่นๆ มาตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็ยังมีส่วนตอกย้ำความซึมเซาลงไปอีกดอก
แต่กระนั้นก็ยังเชื่อว่าเมื่อฟุตบอลโลกเปิดฉากขึ้น ลมหายใจของแฟนบอลก็จะเทไปที่มันทั้งหมด
ฟุตบอลโลกหรือมหกรรมฟุตบอลใหญ่ๆ อย่างศึกลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปนั้นมันสนุกตรงที่เหมือนเราได้เข้าไปอยู่ในงานมหรสพที่มีแต่ฟุตบอล
เตะกันทุกวัน วันละ 3-4 คู่ เป็นเวลาร่วมสัปดาห์ และแต่ละคู่คือเกมระดับสุดยอด ด้วยทุกทีมผ่านเวทีคัดเลือกจากทั่วโลกมาแล้ว นักเตะเก่งๆ ดังๆ ซูเปอร์สตาร์มากมายมารวมตัวกันหมด ทั้งยังเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี ทั้งศักดิ์ศรีระหว่างชาติและศักดิ์ศรีในฐานะตัวแทนจากทวีปต่างๆ
ฟุตบอลโลกจึงเป็นสวรรค์ของคอบอลโดยแท้ นี่ยังไม่รวมถึงมนต์เสน่ห์เฉพาะตัวของมัน
เมื่อฟุตบอลโลกมาถึง เราคงจะได้คุยกันในเรื่องต่างๆ ของมันอีกมากเลยล่ะครับ
-----------------------------
วันก่อนผมเห็นสกู๊ปชิ้นหนึ่งจากสื่ออังกฤษอย่างเดอะซันแล้วก็อยากนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
เขาจัดอันดับ Top 20 greatest World Cup moments of all time ออกมา เป็นเหตุการณ์สำคัญ 20 เหตุการณ์ในฟุตบอลโลกทุกสมัยที่ผ่านมามีอะไรบ้าง
เรื่องแบบนี้ถ้าถามคนสิบคนก็คงจะออกมาสิบแบบ ยากที่จะเห็นเหมือนกันทุกเหตุการณ์ มันขึ้นอยู่กับว่าเรามองมันในสายตาของชาติไหน
คนคอสตาริกาคงต้องใส่วีรกรรมของทีมกล้วยหอมในฟุตบอลโลก 2014 ที่ตะลุยเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายลงไปในนั้นด้วย หรือคนแคเมอรูนก็คงจะใส่ลีลาการเต้นระบำของ โรเจอร์ มิลล่า ในบอลโลก 1990 ลงไป ขณะที่ชาวตุรกีก็คงไม่พลาดใส่ประตูที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกของ ฮาคาน ซูเคอร์ ในฟุตบอลโลกปี 2002
มันอยู่ที่เราเอาแว่นของชาติไหนมาใส่ ยังไงลองไปดู 20 อันดับของเดอะซันกันก่อนก็แล้วกันครับ
1. แฮนด์ออฟก๊อดของ ดีเอโก้ มาราโดน่า ฟุตบอลโลก ปี 1986
2. บ๊อบบี้ มัวร์ ชูถ้วยจูลส์ ริเม่ต์ ฟุตบอลโลก ปี 1966
3. แฮตทริกของ เจฟฟ์ เฮิร์สท์ ในนัดชิงฟุตบอลโลก ปี 1966
4. กอร์ดอน แบงค์ส ปัดลูกโหม่งของเปเล่ ฟุตบอลโลก ปี 1970
5. น้ำตาของ พอล แกสคอยน์ ฟุตบอลโลก ปี 1990
6. ซีเนดีน ซีดาน เอาหัวโขกหน้าอก มาร์โก มาเตรัซซี่ นัดชิงฟุตบอลโลก ปี 2006
7. ดีเอโก้ มาราโดน่า เลี้ยงหลบผู้เล่นอังกฤษเข้าไปทำประตู ฟุตบอลโลก ปี 1986
8. ฟรีคิกของโรนัลดินโญ่ข้ามศีรษะ เดวิด ซีแมน ฟุตบอลโลก ปี 2002
9. ใบแดงของ เดวิด เบ็คแฮม ฟุตบอลโลก ปี 1998
10. จุดโทษของ เดวิด เบ็คแฮม ดับอาร์เจนติน่า ฟุตบอลโลก ปี 2002
11. ประตูมหัศจรรย์ของ ไมเคิ่ล โอเว่น ยิงอาร์เจนติน่า ฟุตบอลโลก ปี 1998
12. บราซิล แพ้ เยอรมัน 1-7 ฟุตบอลโลก ปี 2014
13. "คลัฟฟ์เทิร์น" ครั้งแรกของ โยฮัน ครัฟฟ์ ฟุตบอลโลก ปี 1974 ในเกมกับสวีเดน
14. การตบตาผู้ตัดสินของ ริวัลโด้ เกมบราซิลพบตุรกี ฟุตบอลโลก ปี 2002
15. เกาหลีใต้โค่นสเปนเข้ารอบรองฯ ฟุตบอลโลก ปี 2002
16. เดวิด แพล็ตต์ หมุนตัวยิงใส่เบลเยียม ฟุตบอลโลก ปี 1990
17. เซเนกัลชนะฝรั่งเศสนัดเปิดสนาม ฟุตบอลโลก ปี 2002
18. แคเมอรูนชนะอาร์เจนติน่านัดเปิดสนาม ฟุตบอลโลก ปี 1990
19. เยอรมันตะวันตกแข่งกับเยอรมันตะวันออก ฟุตบอลโลก ปี 1974
20. ท่าฉลองของ โรเจอร์ มิลล่า ในฟุตบอลโลก ปี 1990
นี่คือยี่สิบอันดับความทรงจำฟุตบอลโลกของเดอะซัน เขาเอามาจากการโหวตความคิดเห็นของคนอ่านจำนวน 2,000 คน ซึ่งแน่นอนส่วนใหญ่เป็นคนอังกฤษ ผลที่ออกมาจึงอิงกับความเป็นอังกฤษเสียเยอะ
นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยผลสำรวจจากแฟนบอลถึงมุมมองในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับศึกเวิลด์คัพ มีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ 25 เปอร์เซนต์มองว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเกมฟุตบอลเกิดขึ้นก่อนยุค 2000 ขณะที่ 22 เปอร์เซนต์เห็นต่างว่าหลังเข้าสู่ยุคมิลเลนเนียมนั้นฟุตบอลสนุกตื่นเต้นยิ่งขึ้น
แน่นอนครับมันคงเป็นความแตกต่างเรื่องวัยด้วย คนรุ่นผมที่อายุ 40 ปีขึ้นไปก็อาจจะอินกับฟุตบอลโลก 1982, 1986 หรือ 1990 ขณะที่เด็กรุ่นหลังอาจจะสนุกไปกับเวิลด์คัพ 2006, 2010 หรือ 2014
ยังไม่รวมถึงภาพรวมๆ ของวงการฟุตบอล ยุคก่อนและหลังปี 2000 ก็เปลี่ยนแปลงไปพอสมควรในทุกๆ เรื่องตั้งแต่เกมในสนามจนถึงการหาซื้อตั๋วเข้าชม
จากโลกอนาล็อกสู่โลกดิจิตอล ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
ผลโหวตของเดอะซันยังมีอีกหลายเรื่องนะครับให้เราได้เห็นถึงมุมมองจากแฟนบอลอังกฤษ แน่นอนคำถามยอดนิยมย่อมหนีไม่พ้น คิดว่าชาติไหนจะเป็นแชมป์โลก
คะแนนโหวตออกมาให้อาร์เจนติน่าเป็นอันดับสาม บราซิลอันดับสอง..
ส่วนอันดับหนึ่งคงไม่ต้องเสียเวลาเดากระมังครับ ความเป็นชาตินิยมย่อมมาก่อนอยู่แล้ว
เสียงโหวตเกือบยี่สิบเปอร์เซนต์เชื่อว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต จะพาทีมชาติอังกฤษคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ
ก็ว่ากันไปนะครับ แต่ผมคิดว่าถ้ากุนซือทีมสิงโตคำรามเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เซาธ์เกต คะแนนโหวตอาจออกมาเยอะกว่านี้ก็ได้ เพราะช่วงหลังๆ คะแนนนิยมของอดีตปราการหลังทีมชาติอังกฤษร่วงหล่นไปพอสมควรโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังตกชั้นจากลีกเอของศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก แบบหมดสภาพ
สำหรับเต็งหนึ่งในสายตานักวิจารณ์ยังคงมอบให้กับบราซิลครับ ตามมาด้วยอาร์เจนติน่า และฝรั่งเศสแชมป์เก่า
อังกฤษ กับ สเปน อยู่ในระดับใกล้เคียงกันประมาณว่าเป็นเต็งสี่ร่วม ส่วนเต็งหกคือเยอรมัน ตามมาด้วยฮอลแลนด์ โปรตุเกส และเบลเยียม
นั่นคือภาพที่เห็นกันชัดๆ ว่ากลุ่มตัวเต็งมีใครกันบ้าง เพราะหลุดไปจากนี้คือ เดนมาร์ก อุรุกวัย หรือ โครเอเชีย ก็ตามมาในความน่าจะเป็นที่ห่างออกไป..
เรื่องของแชมป์โลกก็น่าสนุก ยังไงเราจะได้คุยกันถึงเรื่องนี้แน่
-----------------------------
ผมเชื่อว่าหลายคนคงเห็นต่างจาก 20 อันดับเหตุการณ์สำคัญฟุตบอลโลกของเดอะซันพอสมควรนะครับ มันอาจจะอยู่ใน 20 อันดับของบางคนไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ
กับผมเองก็เช่นกัน ผมย่อมมี Top 20 greatest World Cup moments of all time ของตัวเอง และมันไม่มีทางเหมือนกับเดอะซันทั้งหมด
สองประตูของมาราโดน่าที่อัซเตก้า สเตเดี้ยมมีแน่ ลูกเซฟของ กอร์ดอน แบงค์ส ก็เช่นกัน รวมไปถึงเฮดบัตต์ของซีดาน บราซิลแพ้เยอรมัน 1-7 และลูกโซโล่ของโอเว่น
แต่หลายๆ เหตุการณ์ของเดอะซันก็จะหลุดโผของผม แล้วถูกแทนที่ด้วยลูกยิงของ คาร์ลอส อัลแบร์โต้ ในนัดชิงปี 1970 แฮตทริกของ เปาโล รอสซี่ ใส่บราซิลในปี 1982 ลูกจุดโทษที่เหินขึ้นฟ้าของโรแบร์โต้ บาจโจ ในปี 1994 หรือสองประตูของโรนัลโด้ในนัดชิงปี 2002
ยังมีความทรงจำอีกมากมายครับที่จะใส่ลงไป ต่างคนก็ต่างความทรงจำ
และแน่นอนอีกเช่นกันครับ ไม่มีใครผิดใครถูก มึงมีอันนี้ได้ไงวะ ทำไมมึงไม่มีอันนั้นวะ ทำไมเหตุการณ์สำคัญของมึงอ่อนหัดอย่างนี้ล่ะเนี่ย
เราจะไม่ดูถูกความทรงจำของกันและกัน ด้วยต่างคนต่างประสบการณ์ต่างความคิดต่างการรับรู้
20 เหตุการณ์ฟุตบอลโลกของผม..
1. ประตูแห่งศตวรรษของ ดีเอโก้ มาราโดน่า ปี 1986
2. แมตช์คลาสสิกตลอดกาล บราซิล - ฝรั่งเศส ปี 1986
3. แฮตทริกของ เปาโล รอสซี่ ใส่บราซิล ปี 1982
4. มาราโดน่าจ่ายให้ ฮอร์เก้ เบอร์รูชาก้า ทำประตูชัยคว้าแชมป์โลกปี 1986
5. เฮดบัตต์ของ ซีเนดีน ซีดาน ใส่ มาร์โก มาเตรัซซี่ นัดชิงปี 2006
6. โรแบร์โต้ บาจโจ ยิงจุดโทษข้ามคาน นัดชิงปี 1994
7. เปเล่ ไหลให้ คาร์ลอส อัลแบร์โต้ ตะบันปิดท้ายถล่มอิตาลี 4-1 พาบราซิลคว้าแชมป์โลกสมัยสาม ปี 1970
8. แฮนด์ออฟก๊อดของมาราโดน่า ปี 1986
9. มาร์โก ทาร์เดลลี่ วิ่งแหกปากดีใจ นัดชิงปี 1982
10. โรนัลโด้เหมาสองประตูที่โยโกฮาม่า นัดชิงปี 2002
11. เยอรมันขยี้บราซิล 7-1 ปี 2014
12. กอร์ดอน แบงค์ส ปัดลูกโหม่งเปเล่ ปี 1970
13. มิโรสลาฟ โคลเซ่ ทำลายสถิติดาวซัลโวสูงสุดของโรนัลโด้ ปี 2014
14. ลูกโซโล่ของ ไมเคิ่ล โอเว่น ยิงอาร์เจนติน่า ปี 1998
15. ทะเลกระดาษที่เอล โมนูเมนทัล ฉลองแชมป์โลกทีมใหม่ อาร์เจนติน่า ปี 1978
16. ลูกยิงสู่แชมป์โลกของอันเดรส อิเนียสต้า นัดชิงปี 2010
17. มาราโดน่าจ่ายให้ เคลาดิโอ คานิกเกีย ยิงเขี่ยบราซิลตกรอบสองปี 1990
18. หลุยส์ ซัวเรซ ปัดบอลวินาทีสุดท้าย กียาน อซาโมอาห์ ยิงจุดโทษข้ามคาน และอุรุกวัยชนะจุดโทษ รอบ 8 ทีมปี 2010
19. ลีลาเต้นมุมธงของ โรเจอร์ มิลล่า ปี 1990
20. ยูเซบิโอพาโปรตุเกสรัวห้าลูกรวดแซงชนะเกาหลีเหนือ 5-3 รอบ 8 ทีมปี 1966
ยังมีเหตุการณ์อีกมากมายเลยครับที่ไม่ได้ใส่ลงไป และผมคิดว่ามันก็คงมีบางเหตุการณ์ที่ไม่น่าหลุดจาก 20 อันดับที่ผมลืมนึกถึงไปด้วยเช่นกัน
หากมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยครับ.. ทุกความทรงจำล้วนล้ำค่าและมีความหมายสวยงามในตัวมันเองอยู่แล้ว
อุรุกวัยอัดบราซิลคามาราคาน่าคว้าแชมป์โลกสมัยสอง/ ไอ้หนูมหัศจรรย์ชื่อเปเล่กระโดดพักอกแล้วกระดกบอลข้ามหัวนักเตะสวีเดนก่อนยิงตุงตาข่าย
ลูกหันหลังโหม่งตีเสมออังกฤษของ อูเว่ ซีเลอร์/ ลูกกลับตัวยิงโค่นฮอลแลนด์ของ แกร์ด มุลเลอร์/ ความโหดของโทนี่ ชูมัคเกอร์
โททั่ลฟุตบอลและจุดโทษตั้งแต่ไก่โห่ของอัศวินสีส้มที่มิวนิค/ สี่ประตูของเอมิลิโอ บูตราเกนโญ่ ดับความร้อนแรงเดนมาร์ก/ ลูกจุดโทษเหินฟ้าของ คริส ว็อดเดิ้ล
ศอกกลับของเลโอนาร์โด้/ ยอร์ดาน เล็ทช์คอฟโหม่งหักปีกเยอรมัน/ ลูกยิงลักไก่มุดสามเหลี่ยมของ จอร์จี้ ฮาจี้
เปิดตัวสตั๊ดสีเงินของโรนัลโด้/ โกลเด้นโกลจากหัวของ อาห์น จุง วาน/ การต่อบอล 25 ครั้งของอาร์เจนติน่าเข้าไปยิงเซอร์เบีย
ประตูที่ไม่เป็นประตูของแฟร้งค์ แลมพาร์ด/ มาริโอ เกิตเซ่ วอลเล่ย์พาเยอรมันเถลิงแชมป์/ ลูกยิงไกลของคีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้
สำหรับผม ฟุตบอลโลกคือความสุข ด้วยความที่มันอัดแน่นและอบอวลไปด้วยความทรงจำมหาศาลนั่นแหละ
มันล้วนเป็นความสุข..
ยังจำความรู้สึกตอนที่คุณพ่อปลุกขึ้นมากลางดึกเพื่อดูเกมบราซิล-ฝรั่งเศส ปี 1986 ได้ดี ตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจอะไรนัก แต่พ่อบอกว่าต้องดูนะลูก บราซิลเตะเชียวนะ
เมื่อฟุตบอลโลกของผมเริ่มต้นด้วยหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดตลอดกาลอย่างนั้น มันก็คงยากนะครับที่จะไม่ตกหลุมรักมัน..
สี่ปีให้หลังผมเฝ้ารอดูพิธีเปิด อิตาเลีย 90 อย่างใจจดใจจ่อ ในวันนั้นผมเป็นเด็กที่บ้าคลั่งฟุตบอลเต็มตัวแล้ว ตื่นเต้นเหลือกำลังกับฟุตบอลโลกที่เราสามารถรับรู้ได้เต็มที่ถึงความสำคัญและการมาถึงของมัน
ในวันนี้ฟุตบอลโลกผ่านเรื่องราวต่างๆ มาเยอะ จากโลกอนาล็อกสู่โลกดิจิตอล อะไรหลายอย่างเปลี่ยนไป แต่ในขณะเดียวกันอะไรบางอย่างก็ยังเหมือนเดิม
เมื่อฟุตบอลโลกมาถึงคราใด โลกลูกหนังก็เหมือนจะหยุดหมุนให้กับมัน
แม้กระทั่งกับทัวร์นาเม้นต์ที่ดูหงอยเหงาเกินคาดอย่าง กาตาร์ 2022 ก็เถอะครับ เมื่อถึงเวลาที่การแข่งขันเริ่มขึ้น โฟกัสทั้งหมดก็จะพุ่งไปที่นั่นเอง
จะร้ายจะดีมันก็ยังเป็นฟุตบอลโลกที่เราเฝ้ารอมาสี่ปี นั่นย่อมมีความหมายสำคัญอยู่ในตัว
มันกลับมาหาเราอีกครั้งแล้ว.. ขอให้ดื่มด่ำไปกับเทศกาลแห่งความสุขของคนรักฟุตบอลนะครับ เราคงจะได้คุยกันอีกบ่อยๆ แน่ๆ
ตังกุย