ฝรั่งเศส ระวังไว้! อาถรรพ์แชมป์เก่า ฟุตบอลโลก 3 ครั้งหลังสุด

ฝรั่งเศส ระวังไว้! อาถรรพ์แชมป์เก่า ฟุตบอลโลก 3 ครั้งหลังสุด
แม้ว่าขุมกำลังบางส่วนจะต่างไปจากเมื่อ 4 ปีก่อน และมีบางรายที่อายุเยอะพอตัวแล้ว แต่ในสายตาของแฟนบอลและกูรูหลายคนนั้น ฝรั่งเศส ก็ยังถือเป็นหนึ่งในตัวเต็งลำดับต้นๆ ที่จะคว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก 2022 ไปครองได้

อย่างไรก็ตาม ทีมของกุนซือ ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ ก็ต้องระวังในระดับหนึ่งเหมือนกัน เพราะตอนนี้ศึก ฟุตบอลโลก กำลังมีคำสาปที่ร้ายแรงอยู่ 1 อย่าง นั่นคือใน 3 ครั้งก่อนหน้านี้นั้น ทีมที่ลงเล่นในฐานะ "แชมป์เก่า" กลับต้องจอดป้ายตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มทั้งหมด ลองไปย้อนดูกันสักหน่อยว่าอาถรรพ์แต่ละครั้งมันเป็นยังไงบ้าง

- ฟุตบอลโลก 2018 : เยอรมนี (แชมป์จากปี 2014)

ด้วยความที่ถือเป็นทีมลำดับต้นๆ ของโลกอยู่แล้ว แถมยังพกดีกรีแชมป์เก่ามาจากปี 2014 อีก ทำให้หลายคนเชื่อว่า เยอรมนี มีโอกาสดีที่จะป้องกันแชมป์ได้ แถมขุมกำลังโดยรวมก็ยังคล้ายกับตอนที่พวกเขาได้ชูถ้วยแชมป์ที่ประเทศบราซิล โดยชื่อเด่นๆ ที่หายไปมีอย่างเช่นฟิลิปป์ ลาห์ม, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, มิโรสลาฟ โคลเซ่น และ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ เป็นต้น นอกจากนี้ ในศึก ยูโร ที่เตะกัน 2 ปีก่อนหน้านั้น เยอรมนี ก็ยังมีผลงานที่ยอดเยี่ยมจนไปถึงรอบรองชนะเลิศได้ด้วย

ทั้งนี้ ในภารกิจป้องกันแชมป์โลกที่ รัสเซีย เยอรมนี อยู่ในกลุ่มที่ไม่แข็งเท่าไหร่ด้วย เพราะเพื่อนร่วมกลุ่ม เอฟ ของพวกเขามี สวีเดน, เม็กซิโก และ เกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม แค่นัดเปิดหัวลูกทีมของ โยอาคิม เลิฟ ก็หัวคะมำแล้วด้วยการแพ้ เม็กซิโก 0-1

พอถึงนัดที่สอง "อินทรีเหล็ก" ก็เกือบจะพังอีกครั้งหลังเจอปัญหาในระดับหนึ่งในการเจอกับ สวีเดน ก่อนที่จะมาได้ประตูชัยจาก โทนี่ โครส ในช่วงนาทีที่ 5 ของการทดเวลาบาดเจ็บจนทำให้พวกเขายังต่อลมหายใจไปลุ้นในนัดสุดท้ายได้ แต่แล้ว เยอรมนี ก็แพ้ เกาหลีใต้ 0-2 จากการโดน 2 ลูกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งหลัง จนทำให้ เยอรมนี ต้องตกรอบในฐานะบ๊วยของกลุ่มด้วยซ้ำ

- ฟุตบอลโลก 2014 : สเปน (แชมป์จากปี 2010)

อย่างที่รู้กันดีว่า สเปน เคยมียุคทองที่คู่แข่งหลายทีมต่างก็ต้องหวาดผวา พวกเขาคว้าแชมป์ ยูโร 2008 มาครองได้, ได้แชมป์โลกเป็นครั้งแรกในการเตะที่ แอฟริกาใต้ เมื่อปี 2010 แถมยังป้องกันแชมป์ ยูโร ในปี 2012 ได้อีก

ด้วยเหตุนี้ มันจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่กูรูแทบทุกคนจะเทใจให้ สเปน เป็นตัวเต็งอันดับต้นๆ ที่จะได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลกอีกครั้งที่ประเทศบราซิล โดยขุมกำลังชุดนั้นก็ประกอบไปด้วยแข้งชั้นยอดหลายคน ไม่ว่าจะเป็น อีเกร์ กาซียาส, เคราร์ด ปีเก้, อันเดรส อิเนียสต้า, ดาบิด บีย่า, เฟร์นานโด ตอร์เรส, เชส ฟาเบรกาส, เซร์คิโอ รามอส ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม แค่นัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี ลูกทีมของ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ก็ต้องเจอกับฝันร้ายด้วยการแพ้ ฮอลแลนด์ แบบขาดลอย 1-5 ขณะที่ในนัดสองพวกเขาก็พลาดท่าให้กับ ชิลี 0-2 อีก และนั่นก็ทำให้ สเปน ตกรอบตั้งแต่ยังไม่ต้องลงเล่นนัดสุดท้ายด้วยซ้ำ โดยชัยชนะเหนือ ออสเตรเลีย 3-0 เป็นเพียงสิ่งปลอบใจก่อนที่พวกเขาจะต้องเดินทางกลับบ้าน

- ฟุตบอลโลก 2010 : อิตาลี (แชมป์จากปี 2006)

ขุนพล "อัซซูรี่" เดินทางมาป้องกันแชมป์โลกที่ทวีปแอฟริกาด้วยความฮึกเหิมอย่างเต็มเปี่ยม และต้องการลบล้างความผิดหวังจากการตกรอบก่อนรองชนะเลิศของศึก ยูโร 2008 ให้ได้ โดยที่ขุมกำลังในตอนนั้นก็มีแข้งจอมเก๋าระดับอายุ 30 ปีขึ้นไปอย่าง จานลุยจิ บุฟฟ่อน, ฟาบิโอ คันนาวาโร่, เจนนาโร่ กัตตูโซ่, อันเดรีย ปีร์โล่ และ เมาโค คาโมราเนซี่ ที่พร้อมเป็นรุ่นพี่ที่ดี ส่วนแข้งวัยหนุ่มที่น่าสนใจก็มีอย่างเช่น ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ในวัย 26 ปี, จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ที่ตอนนั้นอายุ 25 ปี และ จามเปาโล ปาซซินี่ หัวหอกวัย 25 ปีที่เพิ่งทำประตูในเกม กัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาล 2009-10 ได้ถึง 19 ลูก เป็นต้น

ในตอนนั้นไม่มีใครคาดคิดเลยว่า อิตาลี จะต้องจบเส้นทางการป้องกันแชมป์ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม เพราะเพื่อนร่วมกลุ่ม เอฟ ของพวกเขาได้แก่ ปารากวัย, สโลวาเกีย และ นิวซีแลนด์ แต่ในนัดแรกทีมของ มาร์เชลโล่ ลิปปี้ ก็ทำผลงานได้น่าผิดหวังจนถึงขนาดต้องไล่ตามตีเสมอ ปารากวัย 1-1 ขณะที่ในนัดสองพวกเขาก็เก็บได้เพียง 1 คะแนนจากการที่เจ๊ากับ นิวซีแลนด์ ด้วยสกอร์เดียวกัน

ในนัดสุดท้าย อิตาลี ต้องเจอกับ สโลวาเกีย ที่เพิ่งมีเพียง 1 คะแนนก่อนลงสนาม และกลับกลายเป็นว่าแชมป์โลก 4 สมัยแพ้ให้ สโลวาเกีย 2-3 ส่งผลให้ อิตาลี เป็นบ๊วยของกลุ่ม สวนทางกับ สโลวาเกีย ที่แซงพวกเขาขึ้นไปเป็นรองแชมป์กลุ่มจนได้เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย นอกจากนี้ มันก็ทำให้ อิตาลี จอดป้ายตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มในศึก ฟุตบอลโลก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1974 ด้วย


- เด็กเกร็ดบอล -


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : เด็กเกร็ดบอล
เด็กเกร็ดบอล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport