ฟีฟ่ายอมลดค่าลิขสิทธิ์บอลโลก! "ดร.ก้อง" แจงตัวเลขราคาล่าสุดไม่รวมภาษี

ฟีฟ่ายอมลดค่าลิขสิทธิ์บอลโลก! "ดร.ก้อง" แจงตัวเลขราคาล่าสุดไม่รวมภาษี
กสทช.นัดถกกกท. ชี้แจงงบฯ 1,600 ล้านบาท สำหรับใช้ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 วันที่ 9 พ.ย.นี้ ยื่นคำขาดหากชี้แจงไม่ได้อาจไม่อนุมัติงบ ด้าน ดร.ก้องศักด เจรจาต่อรองฟีฟ่าขอราคาจากลดจาก 38 ล้านเหรียญสหรัฐ เหลือราคาราคา 36 ล้านเหรียญสหรัฐ ตีเป็นเงินไทยราว 1,364,4000 บาทแล้ว อย่างไรก็ตามเงินจำนวนนี้ ยังไม่รวมค่าภาษี และค่าโอนเงินระหว่างประเทศ  ส่วนคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ เตรียมแถลงคัดค้าน กสทช. นำเงินกองทุนกทปส.ใช้ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 เนื่องจากมองว่าผิดวัตถุประสงค์ แนะกกท.หาแหล่งเงินจากอื่นมาใช้

ความคืบหน้าการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด การแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 20 พ.ย.-18 ธ.ค. 65 โดยก่อนหน้านี้ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นำงบประมาณของ กสทช. ไปใช้

ในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดเพียงหน่วยงานเดียวโดยระบุว่า เป็นงบที่ทำเพื่อประชาชนนั้น หลังจากนั้น กีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ส่งเอกสารขอรับการสนับสนุนและชี้แจงงบประมาณกรอบวงเงิน 1,600 ล้านบาทไปยัง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.  เรียบร้อยแล้ว โดย กสทช. จะเรียกประชุมคณะกรรมการบอร์ด กกท. ในวันพุธที่ 9 พ.ย.65 เพื่ออนุมัติงบประมาณส่วนดังกล่าวไปซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ให้คนไทยได้รับชมกันผ่านช่องสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี 64 แมตช์

สำหรับตัวเลขค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 นั้น เอเย่นต์ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ประจำภูมิภาคอาเซียนได้เรียกค่าลิขสิทธิ์เข้ามาทั้งหมดเต็มแพ็คเกจเป็นเงิน 38 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,440,200,000 บาท (ตัวเลขอัตราค่าเงิน ณ วันที่ 7 พ.ย.) ซึ่งตัวเลขดังกล่าว เป็นตัวเลขเฉพาะค่าลิขสิทธิ์อย่างเดียว ไม่มีค่าบริหารจัดการอื่นๆ แต่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก

ทั้งนี้  ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ประชุมซูมร่วมกับเอเย่นต์ของฟีฟ่าเพื่อเจรจาต่อรองค่าลิขสิทธิ์ลง ปรากฏว่า ฟีฟ่ายอมลดค่าลิขสิทธิ์ให้ประเทศไทย เป็นเงิน 2 ล้านเหรียญสหรัฐ สรุปว่า ประเทศไทยจะซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 จำนวน 64 แมตช์ เป็นเงิน 36 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,364,4000 บาท  (ตัวเลขอัตราค่าเงิน ณ วันที่ 7 พ.ย.) ยังไม่รวมค่าภาษี และค่าโอนเงินระหว่างประเทศอีกส่วนหนึ่ง โดย กกท. ยังคงต้องหารือกับ กสทช. ในขั้นตอนต่อไปว่า หน่วยงานใดจะเป็นผู้รับผิดชอบในการประสานงานช่องสถานีฟรีทีวีช่องต่างๆ เพื่อเข้ามารับดำเนินการออกอากาศถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ทั้ง 64 แมตช์ แต่ยันยันว่า คนไทยจะได้ดูการถ่ายทอดสดฟรีเป็นไปตามกฏ "มัสต์แฮฟ" (Must Have) ที่ กสทช. เป็นหน่วยงานที่ออกกฎดังกล่าว โดยกฏ "มัสต์แฮฟ" (Must Have) ระบุว่า 7 มหกรรมกีฬาที่คนไทยต้องดูฟรี ประกอบด้วย ซีเกมส์, อาเซียนพาราเกมส์, เอเชียนเกมส์, เอเชียนพาราเกมส์, โอลิมปิกเกมส์, พาราลิมปิกเกมส์ และฟุตบอลโลก

ด้าน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ก่อนจะได้รับการเปิดเผยว่า ทาง กสทช.ได้รับเอกสารจากทาง กกท. แล้ว แต่หนังสือดังกล่าวไม่ได้มีการชี้แจงอะไรเพิ่มเติมจากครั้งก่อน โดย กกท.ให้เหตุผลว่าเพราะทางฟีฟ่าไม่ได้ให้เอกสารรายละเอียดมาเปิดเผย เท่ากับว่าวงเงิน 1,600 ล้านบาทนั้น เป็นค่าลิขสิทธิ์ล้วนๆ ทำให้ทาง กสทช.ทำงานค่อนข้างลำบากพอสมควร อย่างไรก็ตามในวันพุธที่ 9 พ.ย.นี้ จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมแน่นอน เพื่อนำมาคุยกันว่าจะทำอย่างไร เนื่องจากต้องมีคำตอบให้กับประชาชน รวมถึงทาง กกท. เพราะเราเองก็ไม่อยากเตะถ่วง ถ้าหากคณะกรรมการ กสทช.จะไม่อนุมัติเงินให้ ก็จะได้แจ้งให้ไปหางบประมาณจากแหล่งอื่นแทน หรือว่าจะให้เท่าไหร่ ก็ต้องมาคุยกัน

นายไตรรัตน์ เผยถึงกรณีนี้ว่า หนักใจ เพราะเหมือนมีลูก มาขอเงิน 10,000 บาท แต่พอถามกลับว่าเอาไปทำอะไรบ้างกลับตอบไม่ได้ ก็ต้องเห็นใจกรรมการบอร์ด กสทช. ทั้ง 6 ท่านด้วย ซึ่งท่านอยากให้คนไทยมีความสุข แต่มาเจอแบบนี้ก็เหนื่อย และหนักใจเป็นธรรมดา เนื่องจากข้อมูลยังไม่ชัดเจน  และยังต้องมาคอยตอบคำถามคนอื่นๆ แต่ในวันที่ประชุมได้เชิญผู้ว่าการ กกท.ให้เข้ามาชี้แจงด้วยตัวเองอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นในวันที่ 9 พ.ย. บอร์ด กสทช. จะอนุมัติหรือไม่อย่างไรนั้น อยู่ที่ผู้ว่าการ กกท. จะชี้แจงในที่ประชุมได้ขนาดไหน อาจจะให้ทั้งหมด, ให้บางส่วน หรือไม่ให้เลย ก็เป็นไปได้เช่นกัน

นายไตรรัตน์ กล่าวเสริมว่า เรื่องของตัวเลขที่เห็นคือ 36 ล้านเหรียญสหรัฐ จะมีค่าภาษี, ค่าแปลงเงินต่างประเทศรวมแล้วก็ตกประมาณ 42 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,591,800,000 บาท  (ตัวเลขอัตราค่าเงิน ณ วันที่ 7 พ.ย.) ด้วยกันเพียงแต่ตรงนี้ทาง กกท.ไม่ยอมชี้แจงมาว่ามันมีอะไรบ้าง เงินที่จ่ายไปถ่ายทอดสดได้ทางช่องทางไหนบ้าง เป็นค่าลิขสิทธิ์เท่าไหร่ ค่าดำเนินการอีกเท่าไหร่ เป็นต้น ถ้าหากบอร์ด กสทช. ให้การอนุมัติเงิน เงินที่นำมาใช้จะเป็นเงินที่ผู้ประกอบการได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. ซึ่งจะต้องแบ่งรายได้จากการประกอบการเข้ากองทุนทุกปีอยู่แล้ว เพื่อนำมาใช้ประโยชน์สาธารณะ ไม่ได้ใช้เงินภาษีจากประชาชนแต่อย่างใด

รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. เผยอีกว่า ตนก็ไม่รู้ว่าต่างชาติที่ซื้อ ได้ซื้อในแพ็คเกจแบบไหน ซื้อครบทุกนัดถ่ายทอดสดทุกช่องทางแบบประเทศไทยหรือไม่ จึงไม่สามารถบอกได้ว่าของไทยแพงไปหรือไม่ รวมถึงประเทศไทยอาจจะเข้าไปติดต่อขอซื้อช้า ฟุตบอลจะเริ่มอีกไม่กี่วันแล้ว ผู้ขายอาจจะบังคับเราให้ซื้อครบทุกนัดก็ได้ หรืออาจจะเพราะเราซื้อช้าและจำเป็นต้องซื้อ เลยทำให้ต่อรองราคาไม่ได้ด้วยหรือไม่ ก็เป็นปัญหาที่จะต้องนำมาพูดคุยแก้ไขกันในครั้งต่อไป

"หลังจบฟุตบอลโลกก็คงจะต้องมีการพูดคุยกัน อาจจะต้องปรับกฎ Must Have และ Must Carry ให้มันเหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะตอนที่กฎออกมาช่องทางมันยังไม่เยอะขนาดนี้ ตอนนั้นมีเพียงความหวังดีที่อยากให้คนไทยได้ดูครบทุกช่องทางเท่านั้น แต่ตอนนี้เทคโนโลยีเปลี่ยนไป กฎมันทำให้การทำงานของเอกชนทำได้ยาก ดังนั้นคงจะเข้าไป

ขอเสนอแก้ไขปรับให้เข้ากับสถานการณ์ แต่ก็คงต้องรอจบฟุตบอลโลกก่อนค่อยมาคุย เพราะยังมีเวลาอีก 4 ปี แต่ที่แน่ๆ คือกสทช. คงจะออกเงินให้ทุกๆ 4 ปี ไม่ได้"

นายไตรรัตน์ กล่าวในตอนท้ายว่า เรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ ยังไม่ได้คุยกัน ตอนนี้เอาให้ได้เงินไปซื้อลิขสิทธิ์ก่อนค่อยคุย เช่นถ้า กสทช. จ่ายทั้งหมดควรจะได้ประชาสัมพันธ์อะไรบ้าง หรือถ้ามีเอกชนมาช่วย ก็ต้องพูดคุยกัน เช่นเดียวกับการประสานช่องถ่ายทอดสดก็รอวันที่ 9 พ.ย.นี้ค่อยคุย ยังไม่ได้มีการวางหลักการอะไรเอาไว้ เพราะถ้าสุดท้าย กสทช.ไม่อนุมัติเงิน เรื่องพวกนี้อาจไม่ต้องคุยก็ได้

"ในวันที่ 9 พ.ย.นี้ จะมีประชุมราว 30 เรื่อง หลังจากนั้นก็จะมาคุยเรื่องฟุตบอลโลกกัน ถ้าหากผู้ว่าการกกท. ชี้แจงได้ครบตามที่คณะกรรมการสงสัย และให้ความเห็นชอบอนุมัติเงิน เรื่องก็จบ หรือถ้าให้ไปหาข้อมูลมาเพิ่มเติมก็คงต้องว่ากันไป" นายไตรรัตน์ กล่าวปิดท้าย

สำหรับฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ จะทำการเปิดฉากในวันที่ 20 พ.ย.65 โดยคู่เปิดสนามเป็นการพบกันระหว่างเจ้าภาพ กาตาร์ กับ เอกวาดอร์ ที่อัล บายต์ สเตเดี้ยม ในเวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เท่ากับว่าเหลือเวลาอีกเพียง ไม่ถึง 2 สัปดาห์เท่านั้นในการซื้อลิขสิทธิ์ของประเทศไทย ก่อนที่ฟุตบอลโลกจะเริ่มแข่งขัน


ที่มาของภาพ : Gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport