จากการที่ประเทศกาตาร์จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ระหว่างวันที่ 20 พ.ย. – 18 ธ.ค. 65 นั้น เพื่อเป็นการสะท้อนมุมมองของคนไทยในมิติที่เกี่ยวกับการแข่งขัน เคบียู สปอร์ต โพล (KBU SPORT POLL) โดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต จึงสำรวจคิดเห็นเรื่อง "ปรากฎการณ์ฟุตบอลโลกกับสังคมไทย"

สำหรับการสำรวจดังกล่าวดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ระหว่างวันที่ 1-3 พ.ย.65 โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนทั่วไปทุกสาขาอาชีพ ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 1,381 คน แบ่งเป็นเพศชาย 745 คน คิดเป็นร้อยละ 53.95 เพศหญิง 636 คน คิดเป็นร้อยละ 46.05 ซึ่งผลการวิเคราะห์ในภาพรวมพบว่า

ความสนใจที่จะติดตามการแข่งขัน ส่วนใหญ่ร้อยละ 78.66  สนใจ รองลงมา ร้อยละ 17.03 ยังไม่ตัดสินใจ และ ร้อยละ 4.31 ไม่สนใจ  ส่วนสื่อหรือช่องทางที่จะติดตามการแข่งขัน ส่วนใหญ่ ร้อยละ 46.33 ติดตามผ่านโชเชียลมีเดีย รองลงมา ร้อยละ 38.87 วิทยุโทรทัศน์, ร้อยละ 8.05 วิทยุกระจายเสียง, ร้อยละ 4.63 หนังสือพิมพ์, ร้อยละ 1.05 สนามการแข่งขัน และอื่นๆร้อยละ 1.07

ด้านทีมที่จะเชียร์ ส่วนใหญ่ ร้อยละ 39.57 อังกฤษ รองลงมา ร้อยละ 24.88 เยอรมนี, ร้อยละ 21.09 บราซิล, ร้อยละ 9.61 อาร์เจนตินา, ร้อยละ 2.74 สเปน และอื่นๆร้อยละ 2.11 ส่วนทีมที่คาดว่าจะคว้าแชมป์ ส่วนใหญ่ร้อยละ 29.02 บราซิล รองลงมา ร้อยละ 27.35 ฝรั่งเศส,  ร้อยละ 21.68 อังกฤษ, ร้อยละ 12.90 อาร์เจนตินา, ร้อยละ 6.77 สเปน และอื่นๆ ร้อยละ 2.28

ขณะที่ปรากฎการณ์ฟุตบอลโลกกับปัญหาที่คาดว่าจะส่งผลต่อวิถีชีวิตและสังคมไทย ส่วนใหญ่ ร้อยละ 34.60 ปัญหาการพนัน รองลงมา ร้อยละ 28.11 การก่อคดีอาชญกรรม, ร้อยละ 23.88 ปัญหาความเครียดและวิตกกังวล, ร้อยละ 7.33 ปัญหาสุขภาพ/ขาดการพักผ่อน, ร้อยละ 4.00 ปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่การงาน/การเรียน และอื่นๆ ร้อยละ 2.08

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เผยว่า จากผลการสำรวจดังกล่าว จะเห็นได้ว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่หรือคอลูกหนังไทยต่างให้ความสนใจที่จะติดตามทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะฟุตบอลโลกเป็นเกมที่ถือว่าสุดยอดของกีฬาลูกหนังที่แต่ละทีมที่เข้าร่วมล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยนักเตะชั้นนำที่จะมาแสดงฝีเท้าและลีลาการเล่นทั้งสิ้น และเมื่อพิจารณาถึงทีมในดวงใจที่จะเชียร์ส่วนใหญ่ต่างเทไปที่ทีม “สิงโตคำราม”อังกฤษ แต่หากพิจารณาถึงทีมตัวแทนจากเอเชียแฟนกีฬาจะเชียร์ทีมชาติญี่ปุ่นเป็นอันดับแรก ขณะที่ทีมที่คาดว่าจะคว้าแชมป์กลุ่มตัวอย่างยกให้บราซิลเป็นทีมเต็งหนึ่ง 

อย่างไรก็ตามต่อกรณีกระแสฟุตบอลโลกกับสังคมไทยเมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างในบางมิติจากผลการสำรวจของ KBU SPORT POLLกับการแข่งขันที่ประเทศรัสเซียในปี 2018 พบว่าความสนใจของแฟนกีฬาที่จะติดตามในครั้งนี้มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าครั้งที่แล้ว ซึ่งมีเพียง ร้อยละ 72.09 เท่านั้น และเหนืออื่นใดในประเด็นที่เกี่ยวกับปัญหาที่คาดว่าจะส่งผลต่อวิถีชีวิตและสังคมไทยพบว่าผลการสำรวจทั้งสองครั้งไม่แตกต่างกันส่วนใหญ่กลุ่มตัวอย่างยังเน้นไปที่ปัญหาการพนันมาในอันดับต้นๆและเมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งที่แล้วปัญหาการพนันมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 24.09 ขณะที่การสำรวจครั้งนี้ปัญหาการพนันกลับมีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกันนั้นเมื่อไปดูในข้อเสนอแนะหรือความคิดเห็นอื่นๆพบว่าแฟนกีฬาเสนอให้ภาครัฐและเอกชนลงขันงบประมาณสำหรับซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่านฟรีทีวีอีกด้วย ผศ.ดร.รัฐพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย