ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ออกมาเผยถึงผลงานของทัพนักกีฬาไทยที่จบอันดับ 2 ในตารางเหรียญรางวัลกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่งเรื่องนี้คงต้องมามองหาว่ามีปัจจัยอะไรที่ทำให้ไม่สามารถเอาชนะเวียดนามได้ ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วมีหลายเรื่องด้วยกัน อย่างแรก คือ ชนิดกีฬาพื้นบ้านที่เจ้าภาพเลือกจัด โววีนัมที่แข่งมากถึง 30 เหรียญทอง กุน โบกาตอร์ กับ กุนแขมร์ ไทยก็ไม่ส่งแข่ง ทั้งๆ ที่มีเหรียญจำนวนมาก บางอีเวนต์ของกีฬาสากล เจ้าภาพก็ไม่อนุญาตให้ชาติที่แข็งแกร่งกว่าร่วมแข่งขัน เพราะอยากจะกระจายโอกาสลุ้นเหรียญรางวัลให้ทั่วถึง นอกจากนั้นการโอนสัญชาติของนักกีฬาเจ้าภาพ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เหรียญทองที่ไทยเคยเป็นแชมป์เก่าต้องหลุดมือไป อย่างไรก็ตามยังมีหลายชนิดกีฬาที่ไทยทำผลงานได้ดีกว่าเป้าหมายที่วางเอาไว้
ผู้ว่ากกท.กล่าวอีกว่า ในซีเกมส์ ครั้งหน้าที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ ยืนยันว่าไทยจะต้องทวงเจ้าเหรียญทองกลับมาให้ได้ หลังจากพลาดหวังมาแล้วใน 4 สมัยหลังสุด แต่จะมีความต่างกับซีเกมส์หลายครั้งที่ผ่านมาตรงที่จะจัดกีฬาสากลเป็นหลัก มีกีฬาที่ไม่มีในเอเชียนเกมส์หรือโอลิมปิกเกมส์อยู่บ้าง แต่ไม่มากเท่ากับครั้งนี้ รวมทั้งธรรมนูญซีเกมส์ที่เป็นมติใหม่ระบุแล้วว่า จะสามารถบรรจุกีฬาพื้นบ้านได้เพียง 4 ชนิดกีฬา และกีฬาละไม่เกิน 8 เหรียญทองเท่านั้น ทำให้จะมีความเป็นมาตรฐานมากขึ้น การเป็นเจ้าเหรียญทองก็จะเป็นไปในเชิงที่ต่อยอดถึงเอเชียนเกมส์และโอลิมปิกเกมส์ได้มากกว่าที่ผ่านมาด้วย