ณัฐพงษ์ ท้วมเจริญ และรุตชการณ์ จันทร์ตรง ได้ไปต่อ เข้าชิงเหรียญทอง ขณะที่ กิตติภัฎ พรึกเสนา นักมวยรุ่นยักษ์ รุ่น 92กก.ประสบการณ์เป็นรอง พ่ายแต้ม ราชาพอฟ อับดุลลา นักชกกัมพูชาที่โอนสัญชาติ ทำให้ได้แค่เหรียญทองแดง ส่งผลให้กำปั้นชาย-หญิงทีมชาติไทย ได้เข้าชิงเหรียญทอง 11 รุ่นในศึกมวยซีเกมส์ที่กัมพูชา
ความเคลื่อนไหวของทีมมวยสากลทีมชาติไทยชุดสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 5-17 พ.ค. 2566 ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2566 มีนักชกไทยลงแข่งขัน 3 คู่ รอบรองชนะเลิศ
รุ่น 48 กก. ณัฐพงษ์ ท้วมเจริญ พบเหงียน ลินห์ ฝรุง(เวียดนาม) ผลปรากฎว่า 3 ยก กำปั้นชาวไทยแลกหมัดกับนักชกสกุลเหงียนอย่างสนุกทุกยก ครบ 3 ยก กรรมการให้ณัฐพงษ์ชนะคะแนนเอกฉันท์5-0 ผ่านเข้ารอบชิงเหรียญทอง
ขณะที่ รุ่น 60 กก. รุตชการณ์ จันทร์ตรง พบ มูฮัมหมัด โจฮารี่ นักชกมาเลเซีย ผลปรากฎว่า รุตชการณ์ใช้ชั้นเชิงที่เหนือกว่าเป็นฝ่ายชนะคะแนนไม่ยาก 5-0 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศอีกราย
ปิดท้ายที่ รุ่น 92 กก. กิตติภัฎ พรึกเสนา พบราชาพอฟ อับดุลลา นักชกกัมพูชาที่โอนสัญชาติมา นักชกชาวไทยเสียเปรียบช่วงชก ทำให้ต้องเป็นฝ่ายชวนทะเลาะ แต่โดนหมัดแย็ปและหมักขวาตรงของนักชกกัมพูชาหลายครั้ง คะแนนเป็นรองทุกยก ครบ3ยก กรรมการชูมือให้นักชกเจ้าภาพ ชนะคะแนนเอกฉันท์ 5-0 ทำให้กิตติภัฎ คว้าเหรียญทองแดงปลอบใจ
ส่งผลให้นักชกทีมชาติไทยเข้าชิงชนะเลิศ11รุ่น แบ่งเป็นชาย8รุ่นและหญิง3รุ่นโดยมวยสากลซีเกมส์ จะชิงเหรียญทองในวันที่ 13 และ 14 พ.ค. 2566 ส่วนวันที่ 12 พ.ค. 2566 หยุดพัก ไม่มีการแข่งขัน