แม้สุดท้ายเหรียญทองจะยังคงอยู่กับทีมกรีฑาไทย เพราะ "ต้า" สรอรรถ ดาบบัง อีกหนึ่งลมกรดดาวรุ่งจะคว้าเหรียญทอง พร้อมรักษาแชมป์ 200 ม.ชายให้อยู่กับไทยเอาไว้ได้ แต่ทีมกรีฑาต้องเสียลมกรดกำลังหลักในการทำศึก "พนมเปญ 2023" ไป

แพทย์ยืนยันกับทีมโค้ชกรีฑาไทย ระบุอาการบาดเจ็บของ "บิว" ถึงแม้ไม่ได้หนักและต้องพักนานแรมปี แต่ก็ควรต้องพักอย่างน้อย 1 เดือน นั่นหมายความสำหรับศึกซีเกมส์ 2023 ของ "บิว" ภูริพล นั้นจบแล้ว 

ทำให้เจ้าตัวหมดโอกาสที่จะช่วยทีมกรีฑาไทยลงแข่งขันในทุกรายการที่เหลือ และหมดโอกาสช่วยทีมป้องกันแชมป์ทั้ง 3 อีเวนท์ (100 ม., 200 ม. และวิ่งผลัด 4x100 ม.) และสมาคมต้องใช้ผู้เล่นสำรองที่เป็นตัวเลือกในลำดับรองลงมาลงแข่งขันทดแทน โดยเฉพาะในรายการวิ่งผลัด 4X100 ม. ที่เลือก "โอ๊ต" ธวัชชัย หีมเอียด ลงทำหน้าที่แทน

ภูริพล ออกมาเผยหลังจบการแข่งขันว่า สำหรับอาการบาดเจ็บนี้ไม่ได้ร้ายแรงอะไร ครั้งนี้เป็นที่ขาข้างซ้าย และตนเคยเจ็บแบบนี้มาแล้วที่ข้างขวา ตอนศึกเยาวชนชิงแชมป์โลก 2022 ที่โคลอมเบีย ซึ่งรอบนั้น เจ็บหนักกว่านี้เยอะ ส่วนตัวเสียดายที่ไม่สามารถลงวิ่งได้ในรายการที่เหลือ

"สภาพอาการมีผลมากเลยครับ ตอนเช้ารอบคัดเลือกอากาศร้อน แล้วก็รอนานครับ บวกกับล้าด้วย ซึ่งที่รอบเช้าก็มีอาการตึงๆที่หลังฝั่งซ้ายเล็กน้อย ก็เชื่อว่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อกระตุกตอนแข่งขันด้วย อยากจะขอโทษแฟนกีฬาชาวไทยทุกคน ผมก็ทำเต็มที่แล้วครับ ที่ผ่านมาเก็บตัวฝึกซ้อมมาอย่างดี เตรียมตัวมาอย่างดี ไม่คิดว่ามันจะมีอาการขึ้นมาตอนแข่งขันจริง"

อาการบาดเจ็บกับนักกีฬา ถือเป็นของคู่กัน และเกิดขึ้นได้เสมอ แม้จะระมัดระวังแล้ว แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้แบบไม่เลือกสถานที่และเวลา สิ่งที่ต้องทำคือเมื่อเกิดขึ้นแล้วจำเป็นต้องหาสาเหตุและเร่งรักษาด้วยวิธีการที่ถูกต้องอย่างรวดเร็วที่สุด

สำหรับกรณี "บิว" นับเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างมาก กับความมุ่งมั่น เพียรพยายามอย่างหนักหลังฝึกซ้อม เพื่อมาสร้างผลงานในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ซึ่งเจ้าตัวก็ตั้งเป้าที่จะคว้าเหรียญทอง และทุบสถิติในทุกรายการที่ลงสนามด้วย แต่กับต้องโชคร้ายประสบปัญหาอาการบาดเจ็บอย่างไม่คาดคิด

อย่างไรก็ตาม จากอาการบาดเจ็บที่มีการประเมินในเบื้องต้นแล้ว ไม่ได้เจ็บหนักแบบต้องพักยาว ก็ทำให้ทั้ง "บิว" เอง รวมถึงแฟนกีฬาไทยพอจะมีรอยยิ้มที่มุมปากได้บ้างที่จะได้เห็น "เทพบิว" กลับมาลงสนามในเร็วๆนี้ โดยเฉพาะหลังจากนี้ยังมีศึกสำคัญ ที่เป็นแมตช์ใหญ่กว่าซีเกมส์ อีกหลายรายการที่ทีมกรีฑาไทยมีภารกิจต้องลงสู้ศึก

ไม่ว่าจะเป็น ศึกกรีฑาชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันที่ สนามศุภชลาศัย ระหว่างวันที่ 12-16 ก.ค.นี้ ซึ่งก็รวมไปศึกกรีฑาชิงแชมป์โลก 2023 กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ระหว่างวันที่ 19-27 ส.ค.นี้ ด้วย โดยหาก "บิว" ทำเวลาผ่านเกณฑ์ควอลิฟายได้ สมาคมกีฬากรีฑาฯก็อนุญาตให้ ภูริพล ในวัย 17 ร่วมชิงชัย รวมไปถึงมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่มหานครหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่าง 23 ก.ย.-8 ต.ค.นี้