กกท.เอาจริง เช็คฟิตทัพไทยชุดทำศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา ให้มีความพร้อมทางด้านร่างกายอย่างเต็มศักยภาพมากที่สุดก่อนทำศึกเดือน พ.ค.นี้ ระบุกรอบต้องทดสอบสมรรถภาพร่างกายให้ครบทั้ง 3 ครั้ง โดยนักกีฬาต้องเข้าเช็คและมีความฟิตอยู่ในเกณฑ์ดีเป็นอย่างน้อย จึงจะอนุมัติให้ร่วมทำศึก
นายปรีชา ลาลุน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ การกีฬาแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยความคืบหน้า ในการติดตามการเก็บตัวฝึกซ้อมของทัพนักกีฬาไทย ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-17 พ.ค.นี้ว่า ซึ่งกกท.ได้อนุมัติให้สมาคมกีฬาต่างๆรวม 42 สมาคม บูรณาการเก็บตัวนักกีฬาชุดทำศึกซีเกมส์ร่วมกับกีฬาเอเชียนเกมส์ ร่วมกัน 2,268 คน รวม 48 ชนิดกีฬา
นายปรีชา กล่าวต่อไปว่า สำหรับนักกีฬาชุดเตรียมทำศึกซีเกมส์นั้น กกท.ได้วางกรอบการทดสอบสมรรถภาพทางกายเอาไว้ 3 รอบด้วยกัน ช่วงแรก เดือนส.ค. - ธ.ค. 65, ช่วงที่ 2 เดือนม.ค. - 20 ก.พ. 66 และช่วงที่ 3 เดือนมี.ค. - เม.ย.66 ในส่วนของการทดสอบสมรรถภาพทางกายครั้งที่ 1 ช่วงเดือนส.ค.- ธ.ค.65 ภาพรวมของการทดสอบอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งก็พอเข้าใจได้ว่าเป็นช่วงแรกของการเข้ามาเก็บตัว ซึ่งนักกีฬายังอยู่ในช่วงระหว่างปรับตัว และฟื้นฟูสภาพร่างกาย
ผอ.ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ ยังเผยอีกว่า สำหรับการทดสอบครั้งที่ 2 ช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา เกณฑ์ของนักกีฬาที่เข้ารับการทดสอบนั้นจะต้องมีพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่าครั้งแรกที่สำคัญต้องผ่านเกณฑ์การทดสอบอยู่ในขั้นดีเท่านั้นถึงจะได้รับอนุมัติให้อยู่ลิสต์รายชื่อส่งเข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งภาพรวมของการทดสอบนั้นถือว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
นายปรีชา เผยอีกว่า ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่ากกท.ได้กำชับว่า ทุกสมาคมที่ส่งนักกีฬาร่วมแข่งขันจะต้องให้นักกีฬาเข้ามาทำการทดสอบในครั้งที่ 3 ในช่วงเดือนมี.ค.- เม.ย.นี้ อีกครั้ง ซึ่งหากพบว่าใครไม่ยอมมาทดสอบสมรรถภาพก็จะไม่อนุมัติส่งชื่อเข้าร่วมแข่งขัน และที่สำคัญนักกีฬาก็จะต้องมีผลการทดสอบทางกายอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ซึ่งก็จะเป็นการยืนยันว่านักกีฬาคนนั้นๆไปแข่งขันด้วยสมรรถร่างกายที่ฟิตพร้อม เพื่อที่จะได้โชว์ฝีมือและทำหน้าที่ได้อย่างเต็มศักยภาพจริงๆ