"แวว" สายสุนีย์ จ๊ะนะ เจ้าของฉายา "ราชินีดาบไทย" รับอัดฉีดแล้ว14,400,000 ล้านบาท ขณะที่ "นายกอุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร ร่วมยินดีกับความสำเร็จพาราลิมปิก2024
"แวว" สายสุนีย์ จ๊ะนะ เจ้าของฉายา "ราชินีดาบไทย" ที่คว้ามาแล้ว 2 เหรียญทอง พาราลิมปิก2024 จะได้รับเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ที่ให้เหรียญทองเหรียญละ 7,200,000 บาท เหรียญเงิน 4,800,000 บาท และ เหรียญทองแดง 3,000,000 บาท
โดย "แวว สายสุนีย์" ที่คว้ามาแล้ว 2 เหรียญทองจะได้รับเงินรางวัลรวมทั้งหมด 14,400,000 ล้านบาท โดยทางกองทุนจะให้จ่ายทันที 50 เปอร์เซ็นต์ และอีก 50 เปอร์จะจ่ายเป็นเดือนภายในระยะเวลา 4 ปีกรณีที่นักกีฬาเลือกรับครั้งเดียว เหรียญทองจะได้ 6,000,000 บาท เหรียญเงิน 4,000,000 บาท และเหรียญทองแดง 2,500,000 บาท
'อุ๊งอิ๊ง' โพสต์ยินดี 'สายสุนีย์'
นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร โพสเฟสบุ๊คแสดงความยินดีกับนักฟันดาบสาวไทย "แวว" สายสุนีย์ จ๊ะนะ หลังจากที่เอาชนะจีน คว้าเหรียญทองมาครอง โดยมีใจว่า
"เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อของคุณแววมานาน เพราะเป็นทีมชาติไทยที่ไปแข่งพาราลิมปิกมาหลายปี ทำผลงานมาแล้ว 7 เหรียญ โดยเป็นเหรียญทอง 3 เหรียญ เหรียญเงิน 1 เหรียญ และเหรียญทองแดง 3 เหรียญ รวมถึงสมัยที่คุณทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย คุณแวว นับเป็นต้นแบบของสุดยอดนักกีฬาที่มีวินัย มีความมุ่งมั่น สามารถยืนระยะและทำผลงานได้ดีมาหลายสิบปี ความสำเร็จของคุณแววจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นหลังได้มากมาย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของวงการกีฬา"
"คุณแวว นับเป็นต้นแบบของสุดยอดนักกีฬาที่มีวินัย มีความมุ่งมั่น สามารถยืนระยะและทำผลงานได้ดีมาหลายสิบปี ความสำเร็จของคุณแววจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นหลังได้มากมาย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของวงการกีฬา"
พร้อมกันนี้ นางสาวแพทองธาร ได้โพสต์รูปสมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ เข็นวีลแชร์ให้ แวว สายสุนีย์ ขณะไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับนักกีฬาทีมชาติไทย หลังการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 12 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ
ยอดอัดฉีดทัพพาราไทย 82.8 ล้าน
สำหรับยอดเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ หลังจากที่ทัพนักกีฬาไทยคว้ามาได้ 5 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน และ 6 เหรียญทองแดง เป็นเงินทั้งหมด 82,800,000 ล้านบาท
5 เหรียญทองของทัพไทยมาจาก วีลแชร์เรซซิ่ง 400 เมตรชาย คลาส T53 พงศกร แปยอ, บอคเซีย บุคคล BC2 “เจมส์” วรวุฒิ แสงอำภา, วีลแชร์เรซซิ่งชาย 100 เมตร คลาส T34 “บีม” ชัยวัฒน์ รัตนะ, ฟันดาบ เซเบอร์ คลาส B หญิง สายสุนีย์ จ๊ะนะ และ ฟันดาบเอเป้ คลาสบี
6 เหรียญเงิน จาก เทเบิลเทนนิส คู่ผสม คลาส XD7 ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น-วิจิตรา ใจอ่อน, เทเบิลเทนนิส ชายคู่ คลาส MD14 รุ่งโรจน์ ไทยนิยม-พิสิษฐ์ หวังผลพัฒนศิริ, วีลแชร์เรซซิ่ง 400 เมตรชาย คลาส T54 อธิวัฒน์ แพงเหนือ, แบดมินตันหญิงเดี่ยว คลาส WH1 “ปุ๊” สุจิรัตน์ ปุกคำ , วีลลแชร์เรซซิ่ง 100 ม. T54 อธิวัฒน์ แพงเหนือ และ วีลแชร์ 100 ม. คลาส T53 จาก พงศกร แปยอ
ส่วน 6 เหรียญทองแดง จาก เทควันโด 47 กก.หญิง คลาส K44 ขวัญสุดา พวงกิจจา, เทเบิลเทนนิส หญิงคู่ คลาส WD5 ดารารัตน์ อาสายุทธ์-ชิลชิตพยัค บุตรวรรณสิริณา, เทเบิลเทนนิส ชายคู่ คลาส MD8 วันชัย ชัยวุฒิ-ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น, แบดมินตัน หญิงคู่ WH1-WH2 สุจิรัตน์ ปุกคำ-อำนวย เวชวิฐาน, บอคเซีย บุคคล BC2 วัชรพล วงษา, แบดมินตัน ชายเดี่ยว SL3 "วี" มงคล บุญสุน