ในวงการเทนนิสไทย หากเอ่ยชื่อ “อีฟ” พัชรินทร์ ชีพชาญเดช คงไม่มีใครไม่รู้จัก ด้วยดีกรีแชมป์เทนนิสอาชีพหลายรายการในประเทศ และบทบาทหัวใจสำคัญของทีมชาติไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ล่าสุดเธอกลับมาสวมบทนักสู้ในนามทีมชาติอีกครั้ง ในศึก เทนนิสทีมหญิงชิงแชมป์โลก 2025 โซนเอเชีย/โอเชียเนีย กรุ๊ป 1 ที่อินเดีย ด้วยบทบาทหลักในประเภทหญิงคู่ ซึ่งผนึกกำลังกับ “เอิร์ธ” เพียงธาร ผลิพืช พาทีมคว้าชัย 3 จาก 4 นัดที่ลงสนาม
แต่น้อยคนจะรู้ว่า จุดเริ่มต้นของเธอไม่ได้เกิดจากความฝันลึกซึ้ง หากแต่เริ่มต้นจากความบังเอิญ ที่คุณพ่อเพียงอยากให้ลูกสาวออกกำลังกาย
"จริงๆ คุณพ่อไม่ได้บังคับด้วยค่ะ ว่าจะต้องเล่นเทนนิส มีหลายกีฬาที่เขาเล่นกันตอนนั้น มีทั้งตะกร้อ เปตอง แบดมินตัน เทนนิส แต่อีฟเลือกเล่นเทนนิส ไม่รู้ว่าเพราะทำไมถึงเลือกเทนนิสค่ะ"
จากการตีกับคุณพ่อในสนามกีฬาอำเภอพล จังหวัดขอนแก่น "อีฟ" ไม่ได้มีความทะเยอทะยานจะเป็นนักกีฬาอาชีพตั้งแต่ต้น เธอยอมรับว่าไม่ได้เก่ง ไม่ได้โดดเด่นกว่าคนอื่น และไม่ได้แข่งขันบ่อยเหมือนเพื่อนร่วมรุ่น เพราะมองว่าเทนนิสเป็นแค่กิจกรรมในยามว่าง
“มาเริ่มจริงจังตอนอายุ 16 หรือ 17 ประมาณนี้ค่ะ ตอนนั้นอยากลองเล่นอาชีพ ก็อยากรู้ว่าการแข่งขันระดับอาชีพเป็นอย่างไร ก็เลยเริ่มจริงจังกับฝึกซ้อมเพื่อลงแข่งขันค่ะ"
เมื่อเธอเริ่มจริงจัง ความเปลี่ยนแปลงก็เริ่มเกิดขึ้น และยิ่งใหญ่กว่านั้นคือการตัดสินใจกลับจากนอร์เวย์ เพื่อทุ่มเทให้กับเส้นทางที่เธอเลือกเดิน
“ตอนนั้นเป็นช่วงที่ตัดสินใจเลือกที่จะกลับจากการไปเรียนที่นอร์เวย์ เพื่อต่อยอดในสิ่งที่อยากทำ นั่นก็คือเทิร์นโปรเล่นเทนนิสอาชีพที่ไทย”
ประสบการณ์ที่เงินซื้อไม่ได้
แม้จะไม่ได้เป็นดาวรุ่งที่ฉายแสงตั้งแต่เด็ก แต่พัชรินทร์กลายเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ได้รับโอกาสลงเล่นในนามทีมชาติไทย และนั่นกลายเป็นสิ่งที่เธอภาคภูมิใจที่สุด
“เทนนิสเป็นกีฬาที่ให้ประสบการณ์มากมายหลายอย่างกับชีวิตอีฟ ซึ่งมันหาไม่ได้ง่ายๆ โดยเฉพาะกับการได้ลงเล่นในนามตัวแทนทีมชาติ เป็นอะไรที่พิเศษเสมอ”
เธอเล่าย้อนถึงการติดทีมชาติครั้งแรกในศึกเฟดคัพที่นิวเดลี อินเดีย พร้อมเพื่อนร่วมทีมรุ่นพี่อย่าง เพียงธาร ผลิพืช, ณิชาต์ เลิศพิทักษ์สินชัย และลักษิกา คำขำ
“ผลการแข่งขันตอนนั้นก็อาจจะไม่ดีเท่าไหร่ เพราะเกร็งและกดดัน”
ความประทับใจสูงสุดในชีวิตนักกีฬา
หากถามว่าแมตช์ใดประทับใจที่สุด เธอยกให้ ซีเกมส์ 2022 ที่เวียดนาม เป็นที่สุด ทั้งจากผลงานส่วนตัวและบรรยากาศทีม
“คว้าเหรียญทองหญิงคู่ กับ ทีมหญิง และเหรียญเงินคู่ผสม ซึ่งก็เป็นปีที่ตนเองได้เหรียญซีเกมส์เยอะที่สุดแล้ว ตั้งแต่เล่นทีมชาติมา”
อนาคตที่ยังเปิดกว้าง
แม้อายุจะย่าง 30 แต่ไฟในตัว "อีฟ" ยังลุกโชน เธอยังมุ่งมั่นกับการแข่งระดับอาชีพ และยังไม่คิดถึงการแขวนแร็กเกต
“ถ้าเป็นไปได้อยากจะพาตัวเองขึ้นไปอยู่ใน 100 อันดับแรกของโลกให้ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่ายากไม่น้อย เพราะมีหลายองค์ประกอบ”
“หนูเองอาจจะไม่ได้มีสปอนเซอร์หลัก ก็จะวางแผนเลือกแข่งขันในไทยเพื่อเก็บแต้มเป็นหลัก... ปีนี้ก็จะพยายามเก็บแต้มให้มากขึ้น และขยับอันดับโลกให้สูงขึ้น เพื่อโอกาสติดทีมชาติชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ปลายปีนี้”
เธอทิ้งท้ายอย่างจริงใจว่า เทนนิสยังเป็นความสุข และตราบใดที่ยังสนุก เธอก็ยังพร้อมเดินหน้าต่อในเส้นทางนี้
“แต่วันใดวันหนึ่งรู้สึกว่าร่างกายไม่ไหว หรือเล่นแล้วไม่สนุกแล้ว ก็อาจจะต้องกลับมาคิดเรื่องอนาคตอีกทีค่ะ”
หากคุณเคยรู้สึกว่าชีวิตไม่ต้องเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่การเลือกเดินต่อให้สุดทาง — เรื่องราวของ “อีฟ” พัชรินทร์ ชีพชาญเดช อาจคือแรงบันดาลใจที่คุณกำลังตามหา