ทัพเทนนิสไทยถึงมาเลเซีย ตั้งเป้าทำผลงานเลื่อนชั้นสู่กลุ่ม 1

นายภุชงค์ เลาหศิริวงศ์ กรรมการอำนวยการสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และฝ่ายจัดการแข่งขัน ในฐานะผู้จัดการทีม นำทีมเทนนิสไทยชุดสู้ศึกเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมหญิง รายการ "2024 บิลลี จีน คิง คัพ บาย เกนบริดจ์" โซนเอเชีย/โอเชียเนีย กลุ่ม 2 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 15-20 ก.ค.67 โดยเมื่อ 13 ก.ค.67 ทีมได้เดินทางถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยสวัสดิภาพ ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG415

สำหรับทัพเทนนิสไทยที่เดินทางไปครั้งนี้ นำโดย นายภุชงค์ ผู้จัดการทีม รวมทั้ง "แต้ว" ทรรศพร นาคหล่อ, "ลักส์" ลักษิกา คำขำ สองนักหวดมือดี, "โค้ชเอ็กซ์" นายพชรพล คำสมาน กัปตันทีมและผู้ฝึกสอน, นายนนทพัทธ์ เฟื่องเดช นักวิทยาศาสตร์การกีฬา และ น.ส.นวลพรรณ จั่นทิม นักกายภาพบำบัด 

ผู้จัดการทีม บิลลี จีน คิง คัพ ของไทย กล่าวว่า นักกีฬาชุดนี้มีความพร้อมสูง เพราะออกแข่งขันทั้งในและต่างประเทศกันอยู่ตลอด ทุกคนมีประสบการณ์ในรายการนี้กันมาไม่น้อย เชื่อมั่นว่าจะทำผลงานได้ดี โดยเฉพาะ "อีฟ" พัชรินทร์ ชีพชาญเดช ที่คว้าแชมป์ในประเทศติดต่อกันมาหลายรายการ กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม น่าจะช่วยทีมได้มาก ส่วนเป้าหมายในการไปครั้งนี้ ต้องเลื่อนชั้นกลับสู่กลุ่ม 1 ให้ได้เท่านั้น สำหรับครั้งนี้จะมีทีมเลื่อนชั้น 2 ทีม แต่ลึกๆ ก็หวังว่าจะได้แชมป์กลับมา 

นายภุชงค์ กล่าวอีกว่า สำหรับนักเทนนิสอีก 3 คน ที่ไม่ได้เดินทางไปกับทีม คือ "ไหม" มนัญชญา สว่างแก้ว, "เอิร์ธ" เพียงธาร ผลิพืช จะเดินทางจากประเทศสวีเดนมาสมทบทีมในวันที่ 14 ก.ค.67 หลังเสร็จสิ้นการแข่งขันอาชีพแล้ว ส่วน พัชรินทร์ ที่แข่งขันรายการ ITF WORLD TOUR (W5) ที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช จะเดินทางมาสมทบกับทีม ในวันที่ 15 ก.ค.67 

ด้าน โค้ชเอ็กซ์ กล่าวว่า ไทยเป็นทีมวาง 1 ของการแข่งขันครั้งนี้ ด้วยแรงกิ้งเหนือกว่าทุกทีม แต่คู่แข่งทั้งมาเก๊า ฮ่องกง ก็มีนักหวดฝีมือดีที่เล่นในทัวร์อาชีพร่วมทีมมาหลายคน อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าไทยมีขุมกำลังที่ดีที่จะเอาชนะทุกทีมได้ สำหรับรูปแบบการแข่งขันจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ไทยได้เป็นทีมวาง 1 ที่จะได้อยู่ในกลุ่มที่มี 3 ทีม ทำให้น่าจะได้พักแข่งขันในวันแรก ซึ่งถือว่านักกีฬาจะได้มีร่างกายซ้อมและปรับตัวให้เข้ากับคอร์ทมากกว่าทีมอื่น 

สำหรับทีมที่เข้าร่วมแข่งขันครั้งนี้ ได้แก่ ไทย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฮ่องกง, ปากีสถาน, สิงคโปร์, ศรีลังกา, มองโกเลีย, อุซเบกิสถาน, อิหร่าน และคีร์กิซสถาน