นายกเทนนิสไทย กล่าวต่อว่า สมาคมฯ ยังได้ร่วมกับ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จัดการแข่งขันเทนนิสอาชีพนานาชาติ เก็บคะแนนโลก ไอทีเอฟ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์ ประจำปี ค.ศ. 2024 โดยได้จัดไปแล้ว 6 รายการ และกำลังจะจัดอีก 6 รายการ เป็นการจัดการแข่งขันเทนนิสหญิงและชายควบคู่กันไปในแต่ละสัปดาห์ รายละเอียดดังนี้

เทนนิสหญิง รายการ "ไอทีเอฟ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์ พรีเซนเต็ด บาย เอสเอที (4)" ชิงเงินรางวัลรวม 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 912,500 บาท และเทนนิสชาย "ไอทีเอฟ เวิลด์ ทัวร์ (เอ็ม4)" ชิงเงินรางวัลรวม 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 540,000 บาท ระหว่างวันที่ 1-7 ก.ค., เทนนิสหญิง "ไอทีเอฟ เวิลด์ ทัวร์ (ดับเบิลยู3) ชิงเงินรางวัลรวม 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ และเทนนิสชาย "ไอทีเอฟ เวิลด์ ทัวร์ (เอ็ม5)" ชิงเงินรางวัลรวม 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างวันที่ 8-14 ก.ค., เทนนิสหญิง "ไอทีเอฟ เวิลด์ ทัวร์ (ดับเบิลยู4)" ชิงเงินรางวัลรวม 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ และเทนนิสชาย "ไอทีเอฟ เวิลด์ ทัวร์ (เอ็ม6)" ชิงเงินรางวัลรวม 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างวันที่ 15-21 ก.ค. โดยทุกรายการแข่งขันที่ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช

"ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เอทีพีได้มอบหมายให้สมาคมฯ จัดไปแล้ว 3 รายการ และเอทีพีได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของเรา จึงได้ขอให้เราจัดอีก ซึ่งเป็นชาลเลนเจอร์ระดับที่สูงขึ้น ส่วนรายการของไอทีเอฟก็ได้รับคำชมเช่นกัน จึงได้จัดต่อเนื่อง โดยหลังจบการแข่งขันช่วงเดือน ก.ค.แล้ว ไอทีเอฟให้เราจัดอีก 6 รายการ ช่วงเดือน ส.ค.- ก.ย. ถือเป็นเวทีที่ช่วยให้นักเทนนิสไทยได้แข่งขัน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากเหมือนตอนไปแข่งต่างประเทศ นอกจากนี้ นักเทนนิสจากประเทศเพื่อนบ้านก็ยังมาร่วมแข่งขันด้วย ในเหตุผลเดียวกันที่ว่าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก" นายสุชัย กล่าว

นายกกีฬาลูกสักหลาดไทย กล่าวในช่วงท้ายว่า สำหรับเทนนิสอาชีพภายในประเทศคือ รายการ "ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพ" ได้จัดไปแล้ว 2 สนาม เหลืออีก 5 สนาม แต่ละสนาม ชิงเงินรางวัลรวม 600,000 บาท แข่งขันที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี สำหรับสนาม 3 แข่งขันระหว่างวันที่ 22-28 เม.ย., สนาม 4 ระหว่างวันที่ 29 เม.ย.- 5 พ.ค., สนาม 5 ระหว่างวันที่ 13-19 พ.ค., สนาม 6 ระหว่างวันที่ 20-26 พ.ค. และสนาม 7 ระหว่างวันที่ 27 พ.ค. - 2 มิ.ย.