สำหรับแมตช์ชิงชนะเลิศ ลักษิกา กับ เพียงธาร ต้องเจอคู่แข่งที่แข็งแกร่ง ดีกรีคู่มือวาง 2 ของรายการ มารี บุซโคว่า มือคู่อันดับ 27 ของโลกจากสาธารณรัฐเชก กับ เบธานี่ แมทเทค-แซนด์ส มือคู่อันดับ 64 ของโลกจากสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะ เบธานี่ ถือเป็นนักเทนนิสมือคู่ที่มีความเก๋าและประสบการณ์ที่โชกโชน เคยขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกในปี 2017 และเจ้าของแชมป์หญิงคู่รายการแกรนด์สแลม 5 ครั้ง (ออสเตรเลียน โอเพ่น 2 ครั้ง ปี 2015, ปี 2017, เฟร้นช์ โอเพ่น 2 ครั้ง ปี 2015, ปี 2017 และ ยูเอส โอเพ่น 1 ครั้ง ปี 2016), แชมป์คู่ผสม แกรนด์สแลมอีก 4 ครั้ง (ออสเตรเลียน โอเพ่น ปี 2012, เฟร้นช์ โอเพ่น ปี 2015 และ ยูเอส โอเพ่น ปี 2018, ปี 2019) นอกจากนี้ยังคว้าเหรียญทองคู่ผสมโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่บราซิล 

อย่างไรก็ตาม คู่นักหวดไทย ลักษิกา กับ เพียงธาร แม้จะเป็นรองฯ แต่ก็พยายามสู้กันเต็มที่ และด้วยการคุมเกมที่ดีของ เบธานี่ และ การชิงดักตัดบอลได้อย่างเฉียบขาดของ มารี บุซโคว่า ทำให้คู่ไทยต้านไม่ไหวพ่าย 0-2 เซต ด้วยสกอร์ 2-6 และ 1-6 ใช้เวลาแข่งรวมทั้งสิ้น 1.09 ชม. โดย ลักษิกา กับ เพียงธาร คว้ารองแชมป์หญิงคู่ พร้อมรับเงินรางวัลร่วมกัน 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 254,100 บาท พร้อมคะแนนสะสมเพิ่มอีกคนละ 180 คะแนน

ส่วนการแข่งขันรายการต่อไป ลักษิกา กับ เพียงธาร จะเข้าร่วมแข่งในศึกดับเบิ้ลยูทีเอ ทัวร์ รายการ "เจียงซี โอเพ่น 2023" ชิงเงินรางวัลรวม 259,303 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9,412,698 บาท ที่หนานชาง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 16-22 ต.ค.นี้