"รวงข้าว" ลัลนา ธาราฤดี นักเทนนิสดาวรุ่งไทย วัย 18 ปี มือ 527 ของโลก หวดชนะ "ออมสิน" อัญชิสา ฉันทะ วัย 20 ปีจากไทยเช่นกัน มือ 679 ของโลก 2-0 เซต ทะยานเข้าชิงชนะเลิศ ประเภทหญิงเดี่ยว ศึกเทนนิสอาชีพหญิง "ไอทีเอฟ โปร เซอร์กิต พรีเซนเต็ด บาย เอสเอที"
การแข่งขันเทนนิสอาชีพหญิงนานาชาติ เก็บคะแนนโลก ไอทีเอฟ วีเมนส์ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์ W40 รายการ "ไอทีเอฟ โปร เซอร์กิต พรีเซนเต็ด บาย เอสเอที" ชิงเงินรางวัลรวม 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,400,000 บาท ณ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2566 ไฮไลท์ของกองเชียร์ไทยอยู่ที่ประเภทหญิงเดี่ยว เนื่องจากมีนักเทนนิสไทยผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศได้ถึง 3 คน
คู่แรกระหว่างนักเทนนิสไทยด้วยกัน "รวงข้าว" ลัลนา ธาราฤดี วัย 18 ปี มือ 527 ของโลก พบกับ "ออมสิน" อัญชิสา ฉันทะ วัย 20 ปี มือ 679 ของโลก โดยทั้งคู่ได้ไวลด์การ์ดหรือสิทธิพิเศษเข้าร่วมการแข่งขันและฝ่าด่านคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าจนผ่านเข้ามาพบกันในรอบสำคัญนี้ และหลังจากใช้เวลาแข่งขันกันไป 1 ชั่วโมง 14 นาที เป็น ลัลนา ที่ใช้การเล่นที่หลากหลาย พาตัวเองคว้าชัยชนะเหนือรุ่นพี่ ได้ 2 เซตรวด 6-3 และ 6-3 ทะยานสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
ด้าน "ไหม" มนัญชญา สว่างแก้ว นักหวดไทยวัย 20 ปี มือ 568 ของโลก ที่มีโปรแกรมลงดวลนัดตัดเชือกกับ อนาสตาเซีย คูลิโคว่า จากฟินแลนด์ วัย 22 ปี มือ 310 ของโลก แต่ปรากฏว่า อนาสตาเซีย คูลิโคว่า ได้แจ้งขอถอนตัวออกจากการแข่งขัน เนื่องจากมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อที่บริเวณหลัง ส่งผลให้ มนัญชญา ฉลุยเข้าไปชิงชนะเลิศกับ ลัลนา ทันที โดยนับการเป็นการเข้าชิงศึกเทนนิสอาชีพหญิง ไอทีเอฟ วีเมนส์ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์ ครั้งแรกของ ลัลนา และเป็นการเข้าชิงฯ ครั้งที่ 3 ของ มนัญชญา ทั้งนี้ยังเป็นการการันตีด้วยว่าแชมป์ใหญ่รายการนี้เป็นของนักเทนนิสไทยแน่นอน
ประเภทหญิงคู่ รอบชิงชนะเลิศ ได้รับเกียรติจาก ดร.ทวีศักดิ์ ศิลกุล อุปนายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานมอบรางวัล โดยผลการแข่งขัน ปรากฏว่า เหลียง เอ็น ซัว จากไต้หวัน กับ หม่า เย่อซิน จากจีน คู่มืออันดับ 192 และ 245 ของโลกตามลำดับ ดีกรีแชมป์หญิงคู่สัปดาห์ที่แล้ว เฉือนชนะ เจสซี่ รอมพีส์ จากอินโดนีเซีย กับ หลี่ เพ่ย ฉี จากไต้หวัน คู่มืออันดับ 162 และ 231 ของโลกตามลำดับ 2-1 เซต 6-3, 2-6 และซูเปอร์ไทเบรก 10-6 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมรับเงินรางวัลไปแบ่งกัน 2,229.51 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 73,573.83 บาท ส่วนคู่รองแชมป์ได้รับเงินรางวัลไปแบ่งกัน 1,114.82 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 36,789.06 บาท
ขณะที่การแข่งขันเทนนิสอาชีพชายนานาชาติ เก็บคะแนนโลก เอทีพี ชาเลนเจอร์ ทัวร์ (ชาเลนเจอร์ 75) รายการ "บางกอก โอเพ่น 2023 (2)" ชิงเงินรางวัลรวม 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,800,000 บาท ณ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี วันที่ 14 ม.ค. 2566 เป็นวันสุดท้าย โดย ดร.ทวีศักดิ์ ศิลกุล อุปนายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ เป็นประธานมอบรางวัลอีกรายการ
ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ อาเธอร์ คาโซซ์ นักหวดหนุ่มฝรั่งเศส อายุ 20 ปี มือ 382 ของโลก ที่แสดงความแข็งแกร่ง สู้มาตั้งแต่รอบคัดเลือก ยังโชว์ฟอร์มฮอตได้อย่างต่อเนื่อง เอาชนะ "เต็ง 2" ลอยด์ แฮร์ริส จากแอฟริกาใต้ อายุ 25 ปี มือ 212 ของโลก ได้ 2 เซตรวด 7-6(5) และ 6-2 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมรับเงินรางวัล 10,840 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 357,720 บาท และคะแนน 75 แต้ม ส่วน ลอยด์ แฮร์ริส ในฐานะรองแชมป์ ได้รับ 6,355 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 209,715 บาท และ 50 คะแนน
นับเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของ อาเธอร์ คาโซซ์ ในการเดินทางมาแข่งขันที่ประเทศไทย หลังจากปีที่แล้ว อาเธอร์ คาโซซ์ ได้แชมป์ชายเดี่ยว เอทีพี ชาเลนเจอร์ 50 "บางกอก โอเพ่น ชาเลนเจอร์" สนาม 2 และรองแชมป์ชายเดี่ยว เอทีพี ชาเลนเจอร์ 50 รายการ "ไทยแลนด์ เทนนิส ทัวร์" โดยแข่งขันในเดือน ก.ย. 2565 ทั้ง 2 รายการ และยังได้แชมป์ที่ไทยอีกครั้งตั้งแต่ต้นปีของปีนี้
ประเภทชายคู่ รอบชิงชนะเลิศ คู่มือวาง 1 ซาเกธ มีนีนี และ ยูกิ ภัมพรี จากอินเดีย คู่มือ 83 และ 95 ของโลกตามลำดับ ผงาดคว้าแชมป์ด้วยการเฉือนชนะซูเปอร์ไทเบรก คริสโตเฟอร์ รุงกัท จากอินโดนีเซีย และ อาคิระ ซานติลลัน จากออสเตรเลีย
คู่มือ 218 และ 249 ของโลกตามลำดับ 2-1 เซต 2-6,7-6(7) และซูเปอร์ไทเบรก 14-12 ได้แชมป์ประเภทชายคู่ไปครอง พร้อมรับเงินรางวัลไปแบ่งกัน 4,645 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 153,285 บาท และคะแนน คนละ 75 แต้ม ส่วนคู่รองแชมป์ได้รับ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 89,100 บาท และคะแนน คนละ 50 แต้ม