"ชัญญาภัสร์"คว้าชัยปิดท้าย ทัพเบ่งกล้ามไทยจบ10ทองเพาะกายโลก

เข้าสู่วันสุดท้ายแล้ว สำหรับการแข่งขันเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก 2022 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่าง 9-11 ธ.ค.65 ที่เซ็นทรัล ภูเก็ต จ.ภูเก็ต โดยเมื่อ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ชิงชัยกันเป็นวันสุดท้าย และทัพไทยคว้าเพิ่มมาได้อีก 1 เหรียญทอง 1 เงิน 1 ทองแดง จากทั้งหมด 9 ทองที่ชิงชัย

โดยในวันสุดท้าย ยังได้รับเกียรติจาก ดาโต๊ะพอล ชัวร์ ประธานสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก เป็นประธานปิดการแข่งขัน ร่วมด้วย นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ในฐานะเลขาธิการร่วมของสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก พร้อมด้วย นายธรรมวรรธ วงศ์เจริญยศ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดภูเก็ต ที่ร่วมมอบรางวัลให้กับนักกีฬา ซึ่งในพิธีปิดการแข่งขันยังมีการส่งมอบธงในการเป็นเจ้าภาพครั้งต่อไปให้กับ เกาหลีใต้ ที่จะจัดการแข่งขันในปีหน้า ในครั้งที่ 14 ระหว่าง วันที่ 31 ต.ค.- 5 พ.ย.ปี 2566

สำหรับเหรียญทองปิดท้าย ของทัพนักกีฬาเบ่งกล้ามไทยได้มาจาก "กวาง" ชัญญาภัสร์ ก่อพาราภิรมย์ ที่ได้แชมป์โลกประเภทซีเนียร์ โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นความสูงเกิน 170 ซม. ซึ่งก็นับเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 2 ของเจ้าตัวด้วย โดย ฟิร์มา ไดอานา อาซิซาห์ (อินโดนีเซีย) ได้เหรียญเงิน และทองแดง วีนา โชวฮาน (อินเดีย)

หลังเกม "กวาง" ชัญญาภัสร์  ก่อพาราภิรมย์ เปิดใจว่า "ดีใจมากๆ ที่สามารถป้องกันแชมป์ได้เป็นสมัยที่ 2 ซึ่งตั้งเป้าหมายไว้ว่า ในปีหน้า จะกลับไปป้องกันแชมป์โลกให้ได้อีกสมัย"

นอกจากนี้ไทยยังได้อีก 1 เงิน 1 ทองแดง จากประเภทซีเนียร์ แอธเลติกฟิสิคหญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 165 ซม. ศิรินทิพย์ อินทรีย์ เจ้าของเหรียญทองเอเชีย 2022 ช่วยคว้าเหรียญเงินมาครอง โดยแชมป์ตกเป็นของ กัลแซน กัลซารูอุล (มองโกเลีย) และที่ 3 ไดอาเน มูเนียปิน เดลาเทียเอลา (นิวแคลินโดเนีย) และประเภทแอธเลติกฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 182 ซม.กองพล ทองสุข ได้ที่ 3 โดยแชมป์เป็นของ โคบีลอฟ ชามส์ฮอด (อุซเบกิสถาน) ที่ 2 วาฮิด อาลิซาเดห์ (อิหร่าน)

ส่วนผลประเภทอื่นๆ มีดังนี้ ประเภทแอธเลติกฟิสิคชาย รุ่นความสูงเกิน 182 ซม. เรือโทดำรงค์ศักดิ์ สร้อยศรี ได้ที่ 4, ประเภทซีเนียร์ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 100 กก.พันธวัช นิมิตภาคภูมิ ได้ที่ 4, ประเภทซีเนียร์ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักเกิน 100 กก. กิตติศักดิ์ วุฒิการณ์ ได้ที่ 4, ประเภทซีเนียร์ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 90 กก. อิทธิภัฒฐ์  ประทีป ตกรอบคัดเลือก และประเภทซีเนียร์ แอธเลติกฟิสิค หญิง รุ่นความสูงเกิน 165 ซม. ปุริมปรัชญ์ วรรณอภิลักษณ์ ได้ที่ 4

ทั้งนี้ในการแข่งขันวันสุดท้าย ยังมีการชิงชัยแชมป์ออฟแชมป์ ที่คัดแชมป์เพาะกายทุกรุ่นมาประชันกล้ามด้วย โดยไทยมี "ยนต์" จีรพันธ์ โป่งคำ แชมป์ประเภทซีเนียร์ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 60 กก.ขึ้นแข่งขัน ซึ่งผลปรากฏว่า แชมป์ออฟแชมป์ ตกเป็นของ คาทิเกวาร์ (อินเดีย) แชมป์ประเภทซีเนียร์ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 90 กก.

ทำให้ในวันที่ 3 ไทยคว้ารวม 1 ทอง 1 เงิน 1 ทองแดง รวม 3 วันที่ทำการแข่งขัน กวาดได้ทั้งสิ้น 10 ทอง 13 เงิน 5 ทองแดง โดยถือว่าต่ำกว่าเป้า 13 ทอง ที่ตั้งเอาไว้  และน้อยกว่าในการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก ประจำปี 2019 ที่เกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งทำได้ 13 ทอง

ส่วนรางวัลถ้วยคะแนนรวม ทีมหญิงของไทย สามารถคว้ามาครองได้ หลังทำแต้มรวม 375 คะแนน, ที่ 2 มองโกเลีย 325 คะแนน, ที่ 3 ฮังการี 200 คะแนน ส่วนทีมชาย ที่ 1 อินเดีย 715 คะแนน, ที่ 2 ไทย 600 คะแนน, ที่ 3 มาเลเซีย 180 คะแนน