รองผู้ว่าการ กกท. เผยว่า การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ และกีฬาอาวุโสแห่งชาติฯ ในครั้งนี้ กกท. ต้องการยกระดับการจัดการแข่งขันกีฬาระดับชาติให้มีมาตรฐานในระดับสากล ซึ่งเมื่อมีการปรับปรุงสนามแข่งขันกีฬาต่างๆ ก็ต้องการให้สนามนั้นๆ สามารถใช้จัดการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติได้ด้วยและในครั้งนี้ กกท. จะจัดการแข่งขันกีฬาในรูปแบบ BCG เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนากีฬาควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อมให้มีความสมดุลทั้งกับความมั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมกันอีกด้วย

ส่วน นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า จังหวัดนครสวรรค์มีความพร้อมในการจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ และกีฬาอาวุโสแห่งชาติทั้งสองเกมส์ และขอยืนยันว่าทุกสนามที่จัดแข่งขันจะทำการปรับปรุงแล้วเสร็จทันการแข่งขันอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันก็ได้มีการประชาสัมพันธ์ภายในจังหวัดนครสวรรค์ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อจะได้ต้อนรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จาก 76 จังหวัด ซึ่งได้รับกระแสความตื่นตัวเป็นอย่างดี

ทั้งนี้หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร กกท. และผู้บริหารจังหวัดเจ้าภาพ ได้ลงพื้นที่สำรวจสนามกีฬาจังหวัดนครสวรรค์แห่งใหม่ ที่จะใช้ในการแข่งขันฟุตบอล และใช้เป็นสนามฝึกซ้อมของกรีฑา พร้อมทั้งสำรวจสนามกีฬากลางจังหวัดนครสวรรค์ ที่จะใช้สำหรับพิธีเปิด และพิธีปิดการแข่งขันฯ 

โดย รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา กล่าวว่า ตนมั่นใจในความพร้อมของจังหวัดนครสวรรค์ในการจัดการแข่งขันกีฬาในครั้งนี้ เนื่องจากมีประสบการณ์จากการเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาแห่งชาติมาแล้วหลายครั้ง และครั้งนี้จะเป็นมิติใหม่ของการจัดการแข่งขันฯ ที่จะใช้ระบบเชิญธงในโรงยิมด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) และต้องการให้ผู้เข้าชมการแข่งขันมีส่วนร่วม โดยมีการเชิดสิงโตนำนักกีฬาลงสนามแข่งขัน หรืออาจจะใช้วัฒนธรรมของจังหวัดนครสวรรค์มาช่วยเพื่อให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในการชมกีฬาอย่างมีความสุขอีกด้วย 

สำหรับการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 38 "นครสวรรค์เกมส์" มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 มี.ค.-3 เม.ย. 2566 จัดแข่งขันทั้งหมด 46 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กีฬาบังคับ จำนวน 2 ชนิดกีฬา ได้แก่ 1.กรีฑา, 2.ว่ายน้ำ และกีฬาสากล จำนวน 40 ชนิดกีฬา ได้แก่ 1.กอล์ฟ, 2.กาบัดดี้, 3.คริกเก็ต, 4.คาราเต้-โด, 5.จักรยาน (ถนน, ดาวฮิลล์, ครอสคันทรี, BMX , ลู่), 6.เจ็ตสกี, 7.ชักกะเย่อ, 8.ตะกร้อ (เซปักตะกร้อ , ชายหาด , ลอดห่วง), 9.เทควันโด, 10.เทนนิส, 11.เทเบิลเทนนิส, 12.บาสเกตบอล/บาส 3x3, 13.แบดมินตัน, 14.ปันจักสีลัต, 15.เปตอง, 16.เพาะกาย, 17.ฟันดาบสากล, 18.ฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้ง, 19.ฟุตบอล / ฟุตซอล, 20.มวยไทยสมัครเล่น, 21.มวยปล้ำ (ในร่ม , ชายหาด) 

22.มวยสากลสมัครเล่น, 23.ยกน้ำหนัก, 24.ยิงปืน, 25.ยูโด, 26.รักบี้ฟุตบอล, 27.เรือพาย, 28.ลีลาศ, 29.วอลเลย์บอล (ในร่ม , ชายหาด), 30. วูซู, 31.วู้ดบอล, 32. สนุกเกอร์, 33.หมากล้อม, 34.เอ็กซ์ตรีม, 35.ฮอกกี้ (ในร่ม , กลางแจ้ง), 36.แฮนด์บอล (ในร่ม , ชายหาด), 37.บริดจ์, 38.ยูยิตสู, 39.โรลเลอร์สกี, 40.ซอฟท์เทนนิส โดยมี กีฬาอนุรักษ์ จำนวน 1 ชนิดกีฬา ได้แก่ กระบี่กระบอง และกีฬาสาธิต จำนวน 3 ชนิดกีฬา ได้แก่ โมโตครอส, อีสปอร์ต และ ดาบไทย

ขณะที่การแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 5 "ชอนตะวันเกมส์" มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-28 เม.ย. 2566 จัดการแข่งขันทั้งหมด 15 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย  1. กรีฑา 2.กอล์ฟ 3.เกทบอล 4.ตะกร้อ 5.เทนนิส 6.เทเบิลเทนนิส 7.บาสเกตบอส 8.แบดมินตัน 9.เปตอง 10.เพาะกาย 11.ฟุตบอล 12.ยิงขึ้น 13.ลีลาศ 14.ว่ายน้ำ และ 15.วู้ดบอล