"พิมล" นั่งประธานโอลิมปิคไทยคนที่ 8 คนแรกรอบ 60 ปีที่ไม่มีตำแหน่งทางทหาร

"พิมล" นั่งประธานโอลิมปิคไทยคนที่ 8 คนแรกรอบ 60 ปีที่ไม่มีตำแหน่งทางทหาร
ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ได้รับความไว้วางใจ นั่งประธานโอลิมปิคแห่งประเทศไทยคนที่ 8 โดยนับเป็นพลเรือนคนแรกในรอบ 60 ปี ที่ไม่ได้มีตำแหน่งทางทหารที่ได้เป็นประธานโอลิมปิคไทย นับตั้งแต่ พระยาจินดารักษ์ หมดวาระเมื่อปี พ.ศ.2508

คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย พระบรมราชูปถัมภ์ จัดการประชุมสมัชชาใหญ่สามัญประจำปี 2567 ที่ห้องประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เมื่อ 25 มี.ค.2568 โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ เจริญ วรรธนะสิน รองประธานกรรมการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย รับหน้าที่แทนประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในการประชุม โดยมีคณะกรรมการบริหาร พรัอมด้วย สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย 37 สมาคม, ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนนักกีฬา เข้าร่วม

สำหรับวาระสำคัญของการประชุมในครั้งนี้ คือการเลือกตั้งคณะกรรมการและประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยชุดใหม่ ซึ่งในการเลือกตั้งนั้น มีแคนดิเดต 2 คน คือ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย และ นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย อาสาทำหน้าที่ประธานโอลิมปิค

บรรยากาศของงานประชุมในครั้งนี้เป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ในช่วงสายๆ โดยได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนสำนักต่างๆร่วมทำข่าวเป็นจำนวนมาก เพราะถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาไทย โดยถือเป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี ที่มีการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ซึ่งการเลือกตั้งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยครั้งล่าสุด เกิดขึ้นในสมัย พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร เมื่อปี 2540 ซึ่งในช่วงของการเลือกตั้งนั้น ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมบันทึกภาพและเข้าร่วมการประชุม ทำให้ผู้สื่อข่าวทำได้เพียงสังเกตการณ์อยู่ภายนอกห้องประชุมเท่านั้น

ศ.(พิเศษ) เจริญ วรรธนะสิน รองประธานกรรมการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย เผยหลังการประชุมว่า สำหรับตนเองได้รับเลือกจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่ให้ทำหน้าที่ประธานในการประชุม ซึ่งก็ถือเป็นครั้งที่ 8 แล้ว ที่ได้รับเลือกให้ทำหน้าที่ดังกล่าว ซึ่งตนก็ปฎิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว โดยปฏิบัติตามธรรมูญของคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย และทำตามธรรมนูญของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี อย่างครบถ้วน ซึ่งในวันนี้ในที่ประชุมมีทั้งไอโอซีเมมเบอร์ และโอลิมเปี้ยน หรือนักกีฬาโอลิมปิก เข้าร่วมด้วย

"สำหรับการประชุมและการเลือกตั้งวันนี้ ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะการเลือกคณะกรรมการบริหารทั้ง 23 คน ซึ่งไม่ได้มีการลงคะแนนลับแต่อย่างใด ทุกอย่างทำอย่างเปิดเผย ซึ่งหลังจบการประชุม เราก็ได้คณะกรรมการบริหารชุดใหม่แล้ว ซึ่งที่ประชุมก็ได้เลือกคุณพิมล ศรีวิกรม์ เป็นประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยคนใหม่ ส่วนประเด็นการวอล์คเอาท์ระหว่างการประชุมนั้น ผมไม่รับทราบเลยว่ามีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการประชุม ซึ่งก็ขอยืนยันว่าในที่ประชุมไม่มีการขัดแย้งอะไรกันเลย"

ด้านนายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย เผยว่า สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ที่เป็นสมาชิกของคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย มีทั้งสิ้น 37 สมาคมกีฬา อยู่ในที่ประชุมและลงคะแนนเลือกตั้งทั้งสิ้น 31 สมาคม มี 6 สมาคมที่ไม่ได้เลือก ซึ่งไม่ทราบด้วยเหตุผลใด ส่วนตัวแทนนักกีฬาโอลิมปิกใหม่ 2 ท่าน ก็คือ เทวินทร์ หาญปราบ และ ธันยกร พฤกษากร ผ่านการเลือกตั้งที่ประชุมรับรอง แต่ก็ไม่ได้สิทธิ์ในการโหวต จึงเป็นการเข้ามาร่วมสังเกตุการณ์เท่านั้น ที่มีสิทธิ์ก็คือ ร้อยโทหญิง ชนาธิป ซ้อนขำ คือคนเดิม ตามคำแนะนำของผู้แทนไอโอซี อย่าง คุณหญิง ปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ซึ่งท่านแจ้งว่า ให้ใช้คนเดิมเป็นคนลงคะแนนไปก่อนตามธรรมนูญ ก่อนที่ที่ประชุมจะขอมติทำการรับรอง เพื่อให้ ร้อยโทหญิง ชนาธิป มีสิทธิ์ลงคะแนน

ขณะที่ คุณหญิง ปัทมา ลีสวัสตระกูล ไอโอซีเมมเบอร์ชาวไทย เผยว่า ขอแสดงความยินดีกับคุณพิมล ศรีวิกรม์ ที่ได้รับเลือกให้ทำหน้าที่ประธานโอลิมปิคแห่งประเทศไทยคนใหม่ ซึ่งก็ได้รับทราบว่า ท่านก็มีแผนงานมากมายที่อยากจะดำเนินการ หนึ่งในนั้นที่คุณพิมลรับปากกับตนเองก็คือเรื่องของการปรับแก้ธรรมนูญการเลือกตั้งคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยให้สอดคล้องและเป็นไปตามธรรมนูญของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี

"สิ่งที่อยากให้ปรับแก้ ก็มีทั้งในเรื่องของกระบวนการเลือกตั้ง ซึ่งต้องระบุให้ละเอียดกว่านี้ และสอดคล้องกับไอโอซี และมาตรฐานสากล อาทิ การกำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะสมัครรับเลือก ผู้มีสิทธิโหวต การกำหนดระยะเวลาในการสมัครรับเลือก เมื่อได้รายชื่อ ต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร ก็จะมีการประกาศรายชื่อ และเปิดให้มีการแสดงวิสัยทัศน์เพื่อให้ทุกท่านที่มีสิทธิออกเสียงได้มีสิทธิพิจารณาไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนก่อนถึงวันเลือกตั้ง เป็นต้น"

ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยคนที่ 8 ซึ่งก็นับเป็นพลเรือนคนแรกในรอบ 60 ปี ที่ไม่ได้มีตำแหน่งทางทหาร ที่ได้รับตำแหน่งดังกล่าว เผยว่า ตนต้องขอขอบคุณสมาคมต่างๆที่ให้ความไว้วางใจเลือกให้เป็นประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยคนใหม่ ที่ผ่านมา 6-7 เดือนทีมงานพรรคพวกของตน ช่วยกันหาเสียงทั้งกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่ซึ่งมีความคิดคล้ายๆกัน ว่าจะต้องขับเคลื่อนองค์กรนี้อย่างไรเพื่อให้เกิดประโยชน์กับวงการกีฬาสูงที่สุด โดยมีคุณชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ที่เป็นกำลังสำคัญที่นัดมาพูดคุยของหลายๆสมาคม ส่วนคุณธนา ไชยประสิทธิ์ ก็จะมาเป็นเลขาธิการคนใหม่

"จากนี้ไปการทำงานของคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยจะเป็นเชิงรุก ซึ่งจะไม่เป็นแบบนายทะเบียนเหมือนสมัยก่อน และจะต้องช่วยเหลือสมาคมต่างๆ ส่วนเรื่องเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาที่ได้เป็นนโยบายนั้น ก็จะต้องเสนอการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยจะต้องคุยกับท่านสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงเงินรางวัลซีเกมส์ที่ผมเสนออยากจะปรับขึ้น แต่ที่ขาดไม่ได้คือการช่วยสมาคมแก้ปัญหาเงินฝืด ในกรณีที่อนุมัติแล้วแต่ยังไม่ได้สักที เช่น อนุมัติวันนี้ แต่รอเงินอีก 4 เดือน ซึ่งสิ่งพวกนี้เป็นสิ่งทีาจะต้องแก้ไข"

ทั้งนี้ ผศ.พิมล ยังยืนยันว่า จะไม่เป็นรอยร้าวอย่างแน่นอนเพราะเราก็เป็นคนกีฬาทั้งสิ้น มีรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย แล้วเราก็จะต้องดูแลขับเคลื่อนช่วยเหลือทุกๆสมาคมอยู่แล้ว ซึ่งสุดท้ายความสำเร็จไม่ว่าจะเหรียญต่างๆ ของซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ และ โอลิมปิก มันก็คือหน้าตาของประเทศไทย

สำหรับคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยชุดใหม่ ซึ่งมีวาระการบริหารงานปีพ.ศ. 2568-2572 มีดังนี้ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ได้แก่ พิมล ศรีวิกรม์, รองประธาน 9 คน ได้แก่ นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์, ศ.(พิเศษ) เจริญ วรรธนสิน, รศ.ดร.สุพิตร สมาหิโต, ธนา ไชยประสิทธิ์, พิชัย ชุนหวชิร, พลเอก เดชา เหมกระศรี, พลเรือเอก ชัยณรงค์ เจริญรักษ์, นวลพรรณ ล่ำซำ ส่วนเลขาธิการฯ ได้แก่ ธนา ไชยประสิทธิ์ ด้าน รองเลขาฯ 4 คน ประกอบด้วย ณัฐวุฒิ เรืองเวส, ดร.ชื่นชนก ศิริวัฒน์, พันโทหญิง ดร.อภิญญา ดัชถุยาวัตร, ชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา, ส่วนเหรัญญิก ได้แก่ พล.ร.อ.อภิวัฒน์ ศรีธรรธนะ และผู้ช่วยเหรัญญิก ได้แก่ นิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport