กกท.ขานรับนโยบายรัฐบาล สนับสนุนการแข่งขันกีฬาทุกประเภทปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมเรียกร้องให้นักกีฬาไทยทุกระดับไม่สูบบุหรี่ทุกชนิด รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อให้ร่างกายมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดในการออกกำลังและแข่งขันกีฬา
การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ขานรับนโยบายรัฐบาล ร่วมกับ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ขับเคลื่อนสนับสนุนให้การแข่งขันกีฬาทุกประเภทในประเทศไทย เป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมสุขภาพของนักกีฬาและผู้เข้าร่วมชมการแข่งขัน เนื่องจากฝุ่นควันที่เกิดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า นอกจากยังมีนิโคตินที่เป็นสารเสพติดอย่างรุนแรงเลิกยากแล้ว ยังมีสารที่เป็นอันตรายทั้งโลหะหนักและสารก่อมะเร็งต่าง ๆ รวมถึงมีสารที่มีขนาดเล็ก PM 2.5 อยู่ในควันบุหรี่ไฟฟ้า ที่จะส่งผลต่อสุขภาพ ทั้งในระยะสั้น ระยะยาว และส่งผลต่อพัฒนาการด้านสติปัญญาของเยาวชน
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เผยว่า กกท. ตระหนักถึงอันตรายของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าที่มีต่อสุขภาพ และเล็งเห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อนักกีฬาและเยาวชน จึงขอสนับสนุนให้การจัดการแข่งขันกีฬาทุกประเภทปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมที่ใส่ใจสุขภาพ ทุกคนจะได้ร่วมกิจกรรมที่ดีต่อร่างกายโดยไม่มีสิ่งเสพติดที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยจะมีการรณรงค์ให้สนามกีฬาทุกแห่งเป็นสนามกีฬาปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นมาตรการสำคัญในการสนับสนุนให้ทุกคนสามารถร่วมกิจกรรมได้ในสภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัย รวมทั้งขอให้นักกีฬาไทยทุกคนไม่สูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากการสูบบุหรี่ทุกชนิดเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทำให้ความสามารถในการแข่งขันกีฬาลดลง ซึ่งขัดกับค่านิยมของการเล่นกีฬาที่ต้องการให้ทุกคนมีสุขภาพดีขึ้น รวมถึงเพื่อเป็นต้นแบบที่ดีของเด็กและเยาวชนอีกด้วย
ผู้ว่าการ กกท. เผยเพิ่มเติมอีกว่า โอลิมปิคสากลได้ประกาศให้กีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ที่เมืองคาลการี ประเทศแคนาดา เป็นการแข่งขันกีฬาที่ปลอดบุหรี่เป็นครั้งแรก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 ต่อเนื่องมาจนถึงกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ที่สถานที่จัดการแข่งขันต้องปลอดบุหรี่ และห้ามนักกีฬารวมถึงทีมงานทุกคนสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่ทุกชนิดเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทำให้ความสามารถในการแข่งขันกีฬาลดลง ขัดกับค่านิยมของการเล่นกีฬาที่ต้องการให้ทุกคนมีสุขภาพดีขึ้น ซึ่งการระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า มีความเสี่ยงที่จะระบาดเข้าสู่วงการกีฬาและนักกีฬา ซึ่งจะส่งผลเสียต่อความสามารถในการแข่งขันของนักกีฬา
"การกีฬาแห่งประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้นักกีฬาไทยทุกระดับไม่สูบบุหรี่ทุกชนิดรวมถึงบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อให้ร่างกายมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดในการออกกำลังกายและการแข่งขันกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย จะร่วมกับมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และสํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในการขับเคลื่อนเรื่องนี้ ต่อไป ตามนโยบายของรัฐบาล ที่เร่งดำเนินการจับกุมและเร่งสร้างภูมิคุ้มกันในการป้องกันการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชน โดยจะไม่สนับสนุนในสิ่งที่ทำลายสุขภาพ ซึ่งได้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดสำหรับผู้ฝ่าฝืน โดยผู้ที่จำหน่ายหรือให้บริการมีความผิดตามกฎหมายจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ที่นำเข้าจะมีความผิดระวังโทษจำคุกไม่เกิน 10 หรือปรับเป็นเงินห้าเท่าของราคาสินค้าหรือทั้งจำทั้งปรับ"