ซีเกมส์ครั้งที่ 33 ลงตัว คณะกรรมการจัดการแข่งขันเคาะสังเวียนชิงชัยลงล็อคเกือบหมดแล้ว โดยกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองหลักจะเป็นเจ้าภาพจัดชิงชัย 31 กีฬา ส่วน ชลบุรี จัด 15 กีฬา จ.สงขลา จัด 10 กีฬา ขณะที่ฟุตบอลชายรอบแรก จะเตะกันที่เชียงใหม่และสงขลา ก่อนที่ในรอบตัดเชือกและชิงชนะเลิศ จะโยกกลับมาจัดที่สนามราชมังฯ
นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคกีฬา สาขาจัดการแข่งขัน สนามแข่งขันและฝึกซ้อมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 พ.ศ. 2568 ที่ชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมี นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ รวมถึงตัวแทนสมาคมกีฬาต่างๆที่ส่งนักกีฬาชิงชัยในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 33 เข้าร่วมประชุม
สาระสำคัญของการประชุมในครั้งนี้ ได้มีการรายงานความคืบหน้าในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์และอาเซียนพาราเกมส์ โดยมีการเร่งให้แต่ละสมาคมกีฬาทำระเบียบจัดการแข่งขัน (Technical Handbook) รวมถึงการพูดคุยสรุปเรื่องของสนามแข่งขันต่างๆ โดยในที่ประชุมได้มีการพูดคุยกันถึงสนามของการแข่งขันกีฬาตะกร้อและเทควันโด ที่เลือกสถานที่เดียวกัน คือ แฟชั่นไอส์แลนด์ ก่อนที่จะได้ข้อสรุปว่าทางสมาคมกีฬาตะกร้อฯ จะย้ายไปแข่งขันที่ยิมเนเซียมเทศบาลนครนครปฐม ซึ่งยังถือว่าอยู่ในเขตปริมณฑล ส่วนเทควันโดจะแข่งขันที่แฟชั่นไอส์แลนด์ ตามเดิม
ด้านของกีฬาฟุตบอลนั้นฟุตบอลชาย รอบแรกจะใช้สนามที่ จ.สงขลาและเชียงใหม่ จากนั้นรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ จะใช้ราชมังคลากีฬาสถาน ส่วนฟุตบอลหญิงใช้ที่จังหวัดชลบุรีทั้งหมด อย่างไรก็ตามยังติดปัญหาที่การแข่งขันฟุตซอล เดิมทีจะแข่งขันที่สงขลาแต่สนามไม่พร้อม ส่วนสนามสำรองอย่างศูนย์กีฬาในร่ม จ.ชลบุรี ใช้แข่งขันแฮนด์บอลแล้ว จึงต้องประสานเพื่อหาสนามแห่งใหม่ต่อไปโดยต้องอยู่ใน 3 จังหวัดเจ้าภาพ
ขณะที่สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย ยังไม่สามารถสรุปสนามแข่งขันที่ได้ ในเบื้องต้นสมาคมวางแผนใช้สนามรอยัลฮิลล์ รีสอร์ท จ. นครนายก เพราะเป็นสนามที่นักกีฬาฝึกซ้อมเป็นหลักและทำให้ประเทศไทยได้เปรียบ แต่ทางคณะกรรมการฯ ยืนยันว่าจะต้องเลือกสนามที่อยู่ใน 3 จังหวัดเจ้าภาพเป็นหลักเท่านั้น จึงยังต้องกลับไปเลือกและพูดคุยอีกครั้งหนึ่ง
นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการกกท. เผยว่า สำหรับกีฬากอล์ฟนั้น ถ้าไม่มีเหตุจำเป็น ฝ่ายจัดฯอยากจัดแข่งขันใน 3 จังหวัดเจ้าภาพ ซึ่งได้มีการประสานกับทางสมาคมแล้ว ที่ผ่านมาสมาคมฯ เคยใช้สนามในกทม.หรือชลบุรีจัดการแข่งขันอยู่บ้าง ดังนั้นก็มีแผนรองรับอยู่ คาดว่าจะสรุปให้ได้ภายในสัปดาห์หน้า เพื่อที่นักกีฬาจะได้ปรับเปลี่ยนที่ฝึกซ้อมต่อไป
นายปรีชา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ จะมีการประชุมกับนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาถึงความคืบหน้าต่างๆ จากนั้นวันที่ 27 ก.พ.68 มนตรีซีเกมส์จะเดินทางมาตรวจความพร้อมของประเทศไทย และตรวจสนามที่กทม.และชลบุรี ส่วนเรื่องเบี้ยเลี้ยงเก็บตัวนั้น ล่าสุดบอร์ดกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติได้ทำการอนุมัติเงินเก็บตัวแล้ว ทั้งในส่วนของเดือนธ.ค.-ก.พ. และล่วงหน้าเดือนมี.ค.- เม.ย. จากนี้ทางกกท.จะประสานงานกับกองทุนฯ และสมาคมกีฬา เพื่อจัดเตรียมเอกสารทำการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จในต้นเดือนมีนาคมนี้ เพื่อให้เงินถึงมือนักกีฬาเร็วที่สุด
สรุปสนามแข่งขันกีฬาซีเกมส์ แยกตามจังหวัด มีดังนี้ กรุงเทพและปริมณฑล 31 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กีฬาทางน้ำ (ว่ายน้ำ, กระโดดน้ำ, โปโลน้ำ, ระบำใต้น้ำ), ยิงธนู, กรีฑา, แบดมินตัน, เบสบอล, ซอฟท์บอล, บาสเกตบอล, โบว์ลิ่ง, มวยสากล, คริกเก็ต, จักรยาน (ถนน, ลู่, บีเอ็มเอ็กซ์), ขี่ม้าโปโล, อีสปอร์ตส์, เอ็กซ์ตรีม (ปีนหน้าผา, สกีน้ำ-เวคบอร์ด, สเก็ตบอร์ด), ฟันดาบ, ฟลอร์บอล, ฟุตบอล, ยิมนาสติก, ฮอกกี้น้ำแข็ง, สเก็ตน้ำแข็ง, ยูยิตสู, คิกบ็อกซิ่ง, เน็ตบอล, เปตอง, รักบี้, เซปักตะกร้อ, ยิงปืน, สควอช, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด และวอลเลย์บอล
จ.ชลบุรี จัดแข่งขัน 15 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กีฬาทางน้ำ (ว่ายน้ำมาราธอน), บิลเลียดและสนุกเกอร์, เรือพาย (แคนู, คยัค, เรือยาวมังกร), จักรยาน (เสือภูเขา), ขี่ม้า, เอ็กซ์ตรีม (เจ็ตสกี), ฟุตบอล, แฮนด์บอล, ฮอกกี้, ปัญจกีฬาสมัยใหม่, ยิงปืนรณยุทธ, เทคบอล, ไตรกีฬา, ยกน้ำหนักและ วู้ดบอล
จ.สงขลา จัดแข่งขัน 10 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย หมากรุกสากล, ฟุตบอล, ยูโด, กาบัดดี้, คาราเต้, มวย, ปันจักสีลัต, เรือใบ-วินด์เซิร์ฟ, มวยปล้ำ และวูซู ส่วนอาเซียนพาราเกมส์ ยืนยันสนามทุกชนิดกีฬาอยู่ในจังหวัดนครราชสีมาทั้งหมด
อนึ่งการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จะมีขึ้นระหว่าง วันที่ 9-20 ธ.ค. 2568 ที่จ.กรุงเทพฯ, ชลบุรีและสงขลา โดยกำหนดชิงชัย 574 เหรียญทอง ใน 50 ชนิดกีฬา ส่วนกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 จะจัดแข่งขันระหว่างวันที่ 20-26 ม.ค. 2569 ที่จ.นครราชสีมา มีชิงชัยทั้งสิ้น 536 เหรียญทอง ใน 19 ชนิดกีฬา