คิงเพาเวอร์พ่ายหวิว 6-7 ชวดชิงม้าโปโลแอมบาสเดอร์คัพ

การแข่งขันขี่ม้าโปโล รายการ "แอมบาสเดอร์คัพ 2025" ระหว่างวันที่ 1-8 ก.พ. 68 ที่สนามวีเอส สปอร์ต คลับ ซึ่งเป็นแมตช์ที่ 2 ของฤดูกาลนี้ เพื่อเป็นการเตรียมทีมนักกีฬาสำหรับการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 9-20 ธ.ค. 68 และเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 68 เป็นการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ ระหว่างทีมรองแชมป์ครั้งที่แล้ว คิงเพาเวอร์ ที่ใช้นักกีฬาชุดเหรียญเงินซีเกมส์ครั้งที่ 29 ลงสนามทั้งชุดนำโดย สองพี่น้อง"ศรีวัฒนประภา"  อภิเชษฐ์-อัยยวัฒน์ , ณัฐพงษ์ ประทุมลี และ ธนาศิลป์ เชื้อวังคำ พบกับ อะมีบา บรูไน ทีมอันดับ 1 ของสายเอ นำทีมโดย จ้าชายบาฮาร์ เจฟฟรี่ โบลเกียห์ 

สำหรับเกมในคู่นี้ทั้งสองทีมมีแฮนดี้แค๊ปเท่ากัน 4 โกลจึงไม่มีแต้มต่อ ทุกแต้มต้องมาเริ่มกันในเกม เกมผ่านไป 2 นาทียังไม่มีใครทำแต้มได้ เพราะยังหยั่งเชิงซึ่งกันและกัน แต่เป็นฝั่ง คิงเพาเวอร์ ที่รุกได้มากกว่ามีโอกาสทำประตูได้ถึง 2 ครั้งแต่ยิงไม่เข้า ผ่านไปครึ่งทางของชักก้าแรก ยังไม่มีสกอร์เกิดขึ้น แต่ คิงเพาเวอร์ ยังเปิดเกมรุกหวังจะไปทำแต้ม และถูกสกัดจาก อะมีบา บรูไน ที่เปลี่ยนเกมกลับไป แต่ก็พาลูกไปไม่ถึง โดนสกัดคืนเช่นกัน คิงเพาเวอร์ ต้องเปลี่ยนเกมส่งให้ "ต๊อบ" อัยยวัฒน์ ขึ้นมาสกัดและเปลี่ยนเกมพาบอลขึ้นมา และยังโดนสกัดจาก บรูไน หมดเวลาชักก้าแรกยังเสมอกัน 0-0 คะแนน

ชักก้าที่ 2 คิงเพาเวอร์เปิดเกมโดย อัยยวัฒน์ ที่ยิงยาวจะส่งให้ ณัฐพงษ์ แต่โดน ผู้เล่นจากบรูไน "จูเนียร์" บอทิสตา ริเวรา สกัดบอลเปลี่ยนเกม แต่ยิงไปไม่ถึงประตู ติดผู้เล่น คิงเพาเวอร์ ณัฐพงษ์ ที่เลี้ยงบอลขึ้นไป โดยมี 3 ผู้เล่นของ คิงเพาเวอร์ สกัดผู้เล่นบรูไน ปล่อยให้ เจ้าชายบาฮาร์ ไล่ประกบณัฐพง์ เพียงคนเดียว แต่เกมยังเป็นของ ณัฐพงษ์ ที่ครองบอลไว้ได้ ขึ้นเลี้ยงบอลขึ้นไปยิงประตูให้ คิงเพาเวอร์ นำ 1-0 คะแนน เกมยังคงเป็นของ คิงเพาเวอร์ ที่ส่ง ณัฐพงษ์ขึ้นไปเล่นเกมรุกเพียงคนเดียว ส่วนอีก 3 คนประกบผู้เล่นบรูไน จนขึ้นไปเปลี่ยนเกมไม่ได้ ส่งผลให้ ณัฐพงษ์  พาบอลขึ้นไปยิงประตูที่ 2 นำ 2-0  คะแนน และ 1 นาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลาในชักก้าที่ 2 คิงเพาเวอร์ บรูไนทำฟาวล์ ส่งผลให้ คิงเพาเวอร์ ได้ยิงลูกโทษโดยการยิงของ อัยยวัฒน์ นำ 3-0 คะแนน 

ชักก้าที่ 3 อะมีบา เปิดเกมได้ครองบอล โดย จูเนียร์ และอาศัยจังหวะที่ คิงเพาเวอร์ ยังขึ้นเกมไม่ทันเลี้ยงบอลเข้าไปยิงประตูไล่มา 1-3 คะแนน และคะแนนที่ 2 ของอะมีบา ก็ตามมาจากการตัดสินใจยิงไกลของ เจ้าชายบาฮาร์ เข้าประตูไปอย่างสวยงามไล่มาเป็น 2-3 คะแนน เกมของทั้งสองทีมเริ่มสูสี และจังหวะที่คิงเพาเวอร์ ได้ครองบอล แต่โดนเบียดจากบรูไน ส่งผลให้ คิงเพาเวอร์ ได้ยิงจุดโทษโดย อัยยวัฒน์ อีกครั้งและยิงทำประตูที่ 4 ให้คิงเพาเวอร์นำ 4-2 คะแนน แต่ บรูไนก็ได้ฟาวล์คืนยิงลูกโทษโดย จูเนียร์ แต่เปิดเบาไปลูกจึงออกข้าง แต่บรูไน ยังไม่ลดละความพยายาม เปิดเกมรุกอย่างต่อเนื่อง และเป็นเจอรี่ที่ตีเข้าประตูไล่มา 3-4 คะแนน และ อะมีบา ยิงลูกโทษตีเสมอ 4-4  คะแนน จากการยิงจุดของ จูเนียร์ 

ชักก้าที่ 4  เป็นการแข่งขันในชักก้าสุดท้าย และอะมีบา ได้ยิงลูกโทษตั้งแต่นาทีแรก โดยจูเนียร์ ที่ยิงเข้าไปอย่างสวยงามพลิกกลับขึ้นมานำ 5-4 คะแนนน ความกดดันกลับมาอยู่ที่คิงเพาเวอร์ ที่ต้องเปิดเกมเร็วและต้องเสียฟาวล์ให้น้อยที่สุด และ คิงเพาเวอร์ เกือบได้ลูกตีเสมอ หลังจากที่ ณัฐพงษ์ เข้าเก็บบอลจากกลางสนามและเลี้ยงขึ้นไปแต่โดนผู้เล่นบรูไนไล่ขึ้นมา ณัฐพงษ์ ต้องจ่ายบอลให้ ธนาศิลป์ แต่ยิงพลาดออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย 

คิงเพาเวอร์ ยังไม่ลดความพยายามรุกอย่างต่อเนื่อง บอลตกมาอยู่กับ อัยยวัฒน์ ฉายเดี่ยวเลี้ยงขึ้นไปยิงทำประตูตีเสมอ 5-5 ได้สำเร็จ เกมครึ่งหลังในชักก้าสุดท้าย เกมรุกยังดุเดือดจนทำให้เกิดลูกโทษ และเป็นอะมีบาที่ได้ลูกโทษยิงเข้าประตูขึ้นนำอีกครั้งที่สกอร์ 6-5 คะแนน คิงเพาเวอร์ ต้องกลับมาเล่นเร็วกับเวลาที่เหลือเพียงแค่ 2 นาที และเกมกลับมาเป็นของ คิงเพาเวอร์ หลังจากที่ได้เปิดบอล โดยณัฐพงษ์ ที่เปิดกินพื้นที่ส่งให้ อัยยวัฒน์ แต่โดนสกัดก่อน ที่อภิเชษฐ์ จะเอาบอลกลับมา ส่งให้ อัยยวัฒน์ เลี้ยงเข้าไปยิงตีเสมอได้สำเร็จที่ 6-6 คะแนน แต่ก่อนหมดเวลาเพียงแค่ 30 วินาที อะมีบา ได้ฟาวล์ยิงจุดลูกโทษ 50 หลา และเข้าไปพลิกกลับมานำ 7-6 คะแนน ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ได้สำเร็จ ส่วน คิงเพาเวอร์ จะเข้าไปชิงอันดับ 3