หลังจากที่ทีมหญิงชุดทำศึกเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว 2025 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 7-14 ก.พ.68 ที่เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ลงฝึกซ้อมไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ก.พ.2568 เป็นคราวของทีมหนุ่มไอซ์ฮอกกี้ไทยได้ลงซ้อมเป็นครั้งแรกที่สนาม ฮาร์บิน ไอซ์ ฮอกกี้ อารีน่า เพื่อเตรียมความพร้อมในการลงแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว 2025 ที่นัดแรกจะพบกับ คาซัคสถาน ทีมอันดับ 15 โลก ในวันที่ 4 ก.พ.2568
ม.ล.กฤษฎา เกษมสันต์ นายกสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ทีมชายลงทำการฝึกซ้อมที่สนามจริง ซึ่งเป็นสนามที่ใหญ่มีความจุ 5,500 ที่นั่ง และยังเป็นสนามหลักของกีฬาไอซ์ฮอกกี้ในเมืองฮาร์บิน เคยใช้จัดเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว 1996 และ ศึกเวิลด์แชมเปี้ยนชิพ 2008 ซึ่งสภาพสนามดีมากสวยงามพื้นน้ำแข็งดี ส่วนนักกีฬาทีมชายนั้นก็จะต้องปรับตัวบ้างเล็กหน่อยในการฝึกซ้อมครั้งแรก ให้เกิดความคุ้นเคยกับสภาพสนาม ซึ่งจากการพูดคุยกับนักกีฬาชาย ก็มีความพร้อม และความกระหาย อย่างเต็มที่ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาวในครั้งนี้ โดยตนได้มอบหมายหน้าที่ให้ พงศยา หงษ์สวัสดิ์ เป็นผู้ดูแลทีมชาย และ กฤษณา พรมดิราช ที่เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอน เป็นผู้ดูแลทีมหญิง
ม.ล.กฤษฎา ยังเผยต่อว่า สภาพอากาศตอนนี้ติดลบ 20 องศา นักกีฬาไทยก็มีอาการแพ้อากาศบ้างเล็กน้อย ซึ่งทางทีมแพทย์จากการกีฬาแห่งประเทศไทยก็ให้การดูแลนักกีฬาดีมากๆ ใครป่วย ใครแพ้อากาศ ก็เข้ามาดูแลอย่างทั่วถึง และที่สำคัญต้องขอขอบคุณ รศ.ดร.สุพิตร สมาหิโต กรรมการบริหารของสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย และ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยทุกคน ที่ให้การดูแลและต้อนรับทีมฮอกกี้น้ำแข็งกว่า 50 ชีวิต
นอกจากนี้ ม.ล.กฤษฎา ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ต้องขอชื่นชมระบบรักษาความปลอดภัยของฝ่ายจัดการแข่งขันเป็นอย่างมากที่เข้มงวดในทุกด้าน ทำให้นักกีฬาเรารู้สึกปลอดภัยในการมาแข่งขันต่างแดน และขอขอบคุณบรรดากองเชียร์จากไทยที่เดินทางมาให้กำลังใจถึงขอบสนาม ทำให้นักกีฬาไทยมีกำลังใจเป็นอย่างมาก
สำหรับ ทีมชายไทย อันดับ 43 โลก อยู่ระดับท็อปดิวิชั่น มี จีน อันดับ 26 โลก, ญี่ปุ่น อันดับ 24 โลก, คาซัคสถาน อันดับ 15 โลก, เกาหลีใต้ อันดับ 22 โลก และ ไต้หวัน อันดับ 40 โลก โดยรอบแรกจะแข่งแบบพบกันหมด เพื่อจัดอันดับและจะมีอีก 2 ทีมจากดิวิชั่นล่างขึ้นมาสู้กันต่อในรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยรอบแรกทีมชายประเดิมสนามพบกับ คาซัคสถาน ในวันที่ 4 ก.พ. เวลา 16:00 น., ญี่ปุ่น 5 ก.พ.เวลา 12:00 น., จีน 7 ก.พ.เวลา 12:30 น.,เกาหลีใต้ 8 ก.พ.เวลา 16:00 น. และ ไต้หวัน 10 ก.พ.เวลา 16:00 น. ส่วนรอบ 8 ทีมสุดท้าย วันที่ 11 ก.พ. , รอบรองชนะเลิศ วันที่ 13 ก.พ. และ รอบชิงชนะเลิศ 14 ก.พ.