"ณัฐวุฒิ รายศิริ" จอมอึดหน้าใหม่แห่งวงการอัลตร้าเทรล

"ณัฐวุฒิ รายศิริ" จอมอึดหน้าใหม่แห่งวงการอัลตร้าเทรล
เมื่อสุปสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการแข่งขันวิ่งผจญภัยรายการใหญ่ เดอะ นอท เฟซ วันฮันเดรท อัลตร้า เทรล ชาเลนจ์ ประเทศไทย 2025 (THE NORTH FACE 100 ULTRA TRAIL CHALLENGES THAILAND 2025)​ อีกหนึ่งรายการแข่งขันแรกๆในเมืองไทย ที่เดอะ ซีเครท ทาวน์ เขาใหญ่ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

รายการดังกล่าวจัดขึ้นเป็นปีที่ 11 และปีนี้ยังคงมีการชิงชัยกันใน 4 ระยะ คือ ระยะ 15 กม., 25 กม., 50 กม., และ 100 กม. มีนักวิ่งจากไทยและเทศกว่า 1,500 ชีวิตร่วมประลองความอึด ซึ่งหลังการแข่งขันเสร็จสิ้นลงไป ไฮไลต์ที่สำคัญอยู่ที่การคว้าแชมป์โอเวอร์ออลในระยะ 100 กม. ซึ่ง "โน๊ต" ณัฐวุฒิ รายศิริ นักวิ่ลเทรลวัย 32 จากจังหวัดระยอง ที่สร้างเซอร์ไพรส์คว้ารางวัลชนะเลิศไปครอง

ณัฐวุฒิ รายศิริ หรือ "โน๊ต" วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยเวลา ด้วยเวลา 11.29.57 ชั่วโมง นับเป็นนักวิ่งเทรลชาวไทยคนแรกในรอบ 6 ปี และเป็นนักกีฬาไทยคนที่ 5 ที่สามารถคว้าแชมป์โอเวอร์ออล 100 กม.ได้สำเร็จ ส่วนอันดับ 2 ในรายการดังกล่าว เป็นของ สัญญา คานชัย จากไทย เวลา 11.45:57 ชั่วโมง และอันดับ 3 คริสเตียน มอร์แกน จากสหราชอาณาจักร เวลา 12.29:30 ชั่วโมง

"โน๊ต" ณัฐวุฒิ รายศิริ เปิดใจกับทีมข่าวกีฬาสยามและสยามสปอร์ต ว่า ภูมิใจที่สามารถคว้าแชมป์รายการแข่งขันระดับตำนานสนามนี้ได้สำเร็จ และอาจจะเรียกได้ว่าเป็นเกียรติยศและความสำเร็จครั้งสำคัญที่สุดของตนในการลงแข่งขันวิ่งอัลตร้าเทรลนับตั้งแต่เริ่มลงแข่งขันมาเลย

"ก่อนมาแข่งขันรายการนี้ ผมซ้อมอยู่ราวๆ 1-2 เดือนครับ ความตั้งใจของผมที่อยากจะมาแข่งขันรายการนี้ เพราะมองว่าเป็นสนามอัลตร้าเทรลแรกๆของไทย ซึ่งมันท้าทายมากครับ และผมเองก็อยากจะพิสูจน์ด้วยตัวเองสักครั้งว่าจะยากและโหดระดับไหน"

"เป้าหมายของผมก่อนลงสนาม คิดแค่เพียงว่าขอแค่แข่ง 100 กม.จบได้ในเวลา 12 ชั่วโมง ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วครับ แต่พอวันแข่งจริง สามารถวิ่งจบได้ในเวลา 11 ชั่วโมงได้ ถือว่าเป็นอะไรที่น่าพอใจมากๆครับ และผมเองดีใจมากๆที่สามารถคว้าแชมป์ 100 กม.ได้สำเร็จ"

จอมอึดวัย 32 ปี จากระยอง ยังเผยถึงการแข่งขัน เดอะ นอท เฟซ วันฮันเดรท อัลตร้า เทรล ชาเลนจ์ ประเทศไทย 2025 ด้วยว่า ในการแข่งขัน ตนเจอปัญหาหนักเหมือนกัน ตอนสตาร์ทช่วงตี 4 อากาศหนาวมาก ประมาณ 12 องศา ซึ่งต้องพยายามทำให้ร่างกายให้ตัวเองอบอุ่นที่สุด ส่วนช่วงบ่ายก็ร้อนมากๆ ซึ่งด้วยสนามและอากาศถือเป็นอีกหนึ่งสนามปราบเซียน

"ในการแข่งขันผมตามพี่ป้อม สัญญา คานชัย ตั้งแต่แรก มาแซงได้ช่วงกม.ที่ 10 หลังจากนั้นก็พยายามรักษาจังหวะเพื่อไปให้ถึงเส้นชัย แล้วก็ทำได้จริงๆ ถือเป็นแชมป์เทรลรายการใหญ่ที่สุดของผมตั้งแต่ลงแข่งขันแบบจริงๆจังๆมา 3 ปี ซึ่งรายการนี้ก็ถือเป็นอัลตร้าเทรลรายการที่ 5 ที่ผมลงแข่งขันด้วยครับ ซึ่งปีหน้าถ้ามีโอกาสก็อยากจะกลับมาป้องกันแชมป์อีกครั้ง"

"จริงๆก่อนมาวิ่งอัลตร้าเทรลเนี่ย ผมเป็นนักกีฬาโมโตครอสครับ ก็แข่งขันในระดับจังหวัดอยู่ที่ระยอง แต่ด้วยอะไรๆหลายอย่างที่ไม่เอื้ออำนวยนัก ก็ทำให้ไม่ได้แข่งต่อแบบจริงๆจังๆ เวลาต่อมาผมมีโอกาสได้มาลองวิ่งครับ วิ่งอยู่ 6-7 ปี เป้าหมายจริงๆก็คือเพื่อลดน้ำหนัก แล้วก็ทำให้สุขภาพแข็งแรงครับ ซึ่งก็ช่วยได้เยอะครับ เพราะผมเองกลายเป็นคนที่แข็งแรงและไม่ป่วยง่ายๆเลย ส่วนวิ่งอัลตร้าเทรลเพิ่งจะเริ่มมาแข่งขันอย่างจริงๆจังๆก็ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาครับ ซึ่งไอดอลผมที่ติดตามและดูอยู่ก็คือ พี่เจ จันทรบูรณ์ เกรียงชัยไพรพนา สุดยอดนักกีฬาอัลตร้าเทรลแถวหน้าของเมืองไทยครับ"

จอมอึดจากระยอง เผยทิ้งท้ายว่า การคว้าแชมป์ เดอะ นอท เฟซ วันฮันเดรท อัลตร้า เทรล ชาเลนจ์ ประเทศไทย 2025 ถือเป็นความสำเร็จที่จะช่วยให้ตนมีกำลังใจในการมุ่งมั่นฝึกซ้อมและยิ่งอยากจะพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นอีก ซึ่งหลังจากนี้ตนเองมีโปรแกรมที่จะแข่งขันอัลตร้าเทรลฟูจิ 100 ไมล์ ในเดือนเม.ย.นี้ ซึ่งก่อนจะเดินทางไปญี่ปุ่น ก็อาจจะลงอุ่นเครื่องอีกสัก 2 รายการที่ไทย ซึ่งตามแพลนวางไว้ว่าจะลงแข่งขันเทรล มาสเตอร์ ที่ระยอง ในเดือนก.พ.นี้ และก็วางแข่งขันศึก เกาะช้าง 100 ด้วย






ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport