กรมพลศึกษาเดินแผนสร้างที่ทำการ-สปอร์ตคอมเพล็กซ์ใหม่ 2 หมื่นล้าน
จรูญ แก้วมุกดากุล รองอธิบดีกรมพลศึกษา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพลศึกษา ยืนยันกรมพลศึกษา พร้อมเดินแผนสร้างสปอร์ตคอมเพล็กซ์ใหม่ ในพื้นที่ 454 ไร่ แถมบางปู จ.สมุทรปราการ เป็นที่ทำการของกรมฯ สนามกีฬา และพื้นที่ออกกำลังกาย และใช้ประโยชน์แห่งใหม่ แทนที่บริเวณสนามศุภชลาศัย หลังประเด็นพิพาทในเรื่องพื้นที่กับจุฬาฯ คาดใช้งบ 2-3 หมื่นล้าน แบ่งการก่อสร้างเป็นเฟส อาจมี 4-5 เฟส ชี้หาดรัฐบาลอนุมัติแผนจะแล้วเสร็จปี 2575
นายจรูญ แก้วมุกดากุล รองอธิบดีกรมพลศึกษา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพลศึกษา ออกมาเปิดเผยถึงประเด็นที่กรมพลศึกษาเตรียมจัดสร้างอาคารที่ทำการและสนามกีฬาของกรมพลศึกษาแห่งใหม่ หลังปัจจุบันยังคงใช้พื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีประเด็นข้อพิพาทและมีปมยืนฟ้องร้องกัน โดยกรมพลศึกษา เตรียมสร้างที่ทำการและสนามกีฬาแห่งใหม่บนพื้นที่ 454 ไร่ ของกรมธนารักษ์ บริเวณท้ายซอยเทศบาลบางปู 59 หรือซอยวิทยุการบิน ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งตอนนี้มีแผนที่ร่างเอาไว้แล้ว และได้รายงานให้กับรัฐบาลทราบในเบื้องต้นไปแล้ว
นายจรูญ เผยต่อไปว่า สำหรับแผนการก่อสร้างสปอร์ตคอมเพล็กซ์แห่งใหม่นั้น อยู่ระหว่างนำเข้ามติคณะรัฐมนตรี เพื่อจะพัฒนาร่วมกัน ซึ่งช่วงที่ผ่านมาอาจะติดขัดในเรื่องของการดำเนินงานตามแผนอยู่บ้าง เพราะมีการเปลี่ยนผ่านผู้บริหารในระดับสูงของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอยู่เรื่อยๆ ทำให้ยังไม่สามารถเดินหน้าแผนไปได้อย่างที่วางเอาไว้ได้ สำหรับพื้นที่ดังกล่าวจะเน้นไปที่กีฬาทางน้ำ จะมีการสร้างสระน้ำขนาดใหญ่ ขนาดมาตรฐาน สนามกีฬาชายหาด โรงยิมเนเซียมอเนกประสงค์ สนามกีฬากลางแจ้ง รวมถึงที่ทำการของกรมพลศึกษา เน้นในเรื่องสิ่งแวดล้อม พื้นที่สีเขียว เช่น สวนสาธารณะ ซึ่งจะพัฒนาเป็นรูปแบบมิกซ์ยูส ใช้พื้นที่ผสมผสาน รวมถึงในอนาคตหากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา มีความจำเป็นต้องย้ายมาตั้งที่ดังกล่าวในอนาคตก็สามารถทำได้ด้วย
"งบที่ใช้คาดกว่าจะใช้ประมาณ 2-3 หมื่นล้าน โดยจะสร้างเป็นเฟสๆ ซึ่งตามแผนที่วางไว้จะมี 4-5 เฟส ก็ขึ้นอยู่กับการอนุมัติของรัฐบาล และถ้าเป็นไปตามแผนน่าจะเสร็จภายในปี พ.ศ.2575 ซึ่งเรื่องการเดินทางก็มองว่าไม่ได้ลำบากนัก เพราะตรงนั้นใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ สามารถไปชลบุรี พัทยาก็สะดวก เพราะมีโครงข่ายคมนาคมเชื่อมต่อการเดินทางได้เป็นอย่างดี และก็ไม่ได้กังวลว่าจะมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมหรือน้ำทะเลหนุน เพราะมองว่าหากออกแบบก่อสร้างดีๆ สามารถจัดการปัญหาเหล่านี้ได้"
"ถ้าเรามีสนามกีฬาขนาดใหญ่ใน 4 มุมเมืองรอบกรุงเทพฯก็น่าจะเป็นเรื่องดีกับวงการกีฬาไทยไม่น้อยเลยครับ หากเทียบกับเพื่อนบ้านในอาเซียนตอนนี้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ ก็พัฒนาสนามกีฬา และระบบโครงสร้างต่างๆนำหน้าเราไปแล้ว ซึ่งของไทยในกทม.หลักๆตอนนี้มีแค่ 2 สนาม อาจจะตอบโจทย์ไม่ได้มากนัก เพราะจะเห็นหลายครั้งที่วงการกีฬาไทยต้องไปเช่าใช้พื้นที่สนามกีฬาของเอกชนทั้งที่บีจี หรือ เมืองทอง"
ก่อนหน้านี้มีข่าวยืนยันว่า กรมพลศึกษา พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งของอัยการสูงสุด ในการชำระค่าเสียหายให้กับ จุฬาฯ และจะคืนพื้นที่ทั้งหมดตามสัญญา หากแผนการสร้างสปอร์ตคอมเพล็กซ์ใหม่ ที่จ.สมุทรปราการลุล่วงและสำเร็จเสร็จสิ้นในปี พ.ศ.2575 โดยก่อนหน้านี้อัยการสูงสุดพิจารณาข้อเท็จจริงทั้งหมดและมีคำสั่งให้ กรมพลศึกษา ส่งคืนพื้นที่ให้ จุฬาฯ พร้อมชำระค่าเสียหายย้อนหลังปีละ 15,530,000 บาท หลังสัญญาสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.2563
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
