8 เรื่องเด่นกีฬาไทยปี 2567

8 เรื่องเด่นกีฬาไทยปี 2567
ในรอบปี พ.ศ.2567 หรือ ค.ศ.2024 ถือเป็นอีกหนึ่งขวบปีที่วงการกีฬาไทยมีทั้งเรื่องดีและร้าย ในโอกาสที่ปีปฎิทินเปลี่ยนผ่านจากปี 2567 สู่ปี 2568 ทีมข่าวกีฬาสยามและสยามสปอร์ต ขอรวบรวมเหตุการณ์เด่นๆของวงการกีฬาไทยที่เกิดขึ้นในรอบปี 2567 ให้แฟนกีฬาผู้อ่านได้ร่วมทบทวนและนึกถึงอีกสักรอบ

1. "เทนนิส"  สร้างประวัติศาสตร์ทองอลป. 2 สมัย

เหตุกาณ์ที่เป็นเรื่องเด่นของวงการกีฬาไทยที่แฟนๆกีฬานึกถึงเป็นลำดับต้นๆคือการที่ "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนากิจ คว้าเหรียญทองเทควันโด โอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสได้สำเร็จ ในรุ่น 49 กก.หญิง ซึ่งนี่ถือเป็นฉากจบอย่างสมบูรณ์ที่สุดของชีวิตนักกีฬาที่เธอเองและแฟนกีฬาอยากให้เกิดขึ้น  เหรียญทองในศึก "ปารีส 2024" ยังถือเป็นการสร้างตำนาน ให้ "พาณิภัค" กลายเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่ได้เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2 สมัย ซึ่งหลังเดินทางกลับถึงไทย เจ้าตัวประกาศเลิกเล่นเทควันโดอย่างที่เคยเปรยเอาไว้ พร้อมเบนเข็มทำธุรกิจโรงเรียนสอนเทคควันโดอย่างเต็มตัว และข่าวดีล่าสุดเมื่อวันคริสต์มาส วันที่ 25 ธ.ค.2024 หนุ่มคนรู้ใจอย่าง "จูเนียร์" รามณรงค์ เสวกวิหารี ก็ได้ทำเซอร์ไพรส์ขอเจ้าตัวแต่งงาน หลังคบหาดูใจกันมาอย่างยาวนานนับ 10 ปี

2. "สายสุนีย์" จารึกตำนานทองฟันดาบ 3 ประเภทพาราลิมปิก

หากให้หยิบยกเรื่องเด่นของวงการกีฬาคนพิการไทยมาสักหนึ่งเรื่อง ก็คงหนีไม่พ้นการระเบิดฟอร์มสุดฮอตของ "แวว" สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักวีลแชร์ฟันดาบทีมชาติไทยในวัย 50 ปี ที่คว้าคนเดียว 3 เหรียญทอง จากทั้งหมด 6 เหรียญทอง ที่ทัพนักกีฬาคนพิการไทยทำได้ในพาราลิมปิกเกมส์ 2024 เจ้าตัวเขียนหน้าประวัติศาสตร์ขึ้นใหม่ ด้วยการคว้าเหรียญทองถึง 3 ประเภทเป็นคนแรกของโลกในวีลแชร์ฟันดาบพาราลิมปิก จากประเภทบุคคลหญิงดาบฟอยล์, ดาบเซเบอร์ และดาบเอเป้ นอกจากนี้ยังได้อีก 1 เหรียญทองแดง ทำให้ในโอลิมปิก 6 สมัย ที่เจ้าตัวเข้าร่วม สายสุนีย์  คว้าได้ถึง 5 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง

3. โอซีเอยกเลิกเอเชียนอินเดอร์เกมส์ที่ไทย

ถือเป็นการจบมหากาพย์ที่ไม่สวยนัก สำหรับการรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพกีฬาระดับทวีปเอเชียของประเทศไทย เมื่อสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ)  สั่งยกเลิกการเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ของประเทศไทย ซึ่งตามกำหนดจะจัดแข่งขันระหว่างวันที่ 21-30 พ.ย. 2567 ที่กรุงเทพมหานคร และชลบุรี ด้วยเหตุผลเรื่องงบประมาณ โดยโอซีเอให้เหตุผลในเรื่องที่ว่าไทยไม่สามารถปลดล็อคในเรื่องของบประมาณได้ในกรอบและเวลาของการดำเนินงาน และหวั่นจะเกิดปัญหาหากให้จัดแข่งขันตามเดิม ซึ่งเรื่องนี้ต้องบอกส่งผลกระทบกับวงการกีฬาไทยพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องของภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือของประเทศ

4. "มาดามแป้ง" นั่งประมุขบอลไทย

เรื่องเด่นเรื่องดังในวงการฟุตบอลไทยรอบปี 2567 นี้ ต้องยกให้กับการได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่ของ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ด้วยคะแนนโหวตสูงถึง 68 จากทั้งหมดผู้มีสิทธิ์ 73 เสียง คิดเป็นสัดส่วน 93 เปอร์เซ็นต์ สูงสุดตั้งแต่เคยมีมา "มาดามแป้ง" กลายเป็นประมุขลูกหนังไทยคนที่ 18 เป็นผู้หญิงคนที่ 7 ของโลกที่ได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งนี้ ซึ่งนโยบายของ "มาดามแป้ง"  มุ่งเน้นไปที่การทำงานเพื่อผลประโยชน์ของบอลไทยที่ต้องเกิดขึ้นหลังจากนี้ ทั้งในแง่ของสโมสรและทีมชาติ ซึ่งเจ้าตัวต้องการบูมวงการและเรียกศรัทธาของแฟนๆให้กลับมาเหมือนในยุคหนึ่งที่เคยรุ่งเรื่องอีกครั้ง

5. "กุลวุฒิ" นักแบดมินตันคนแรกซิวเหรียญอลป.

ความพยายามของทีมแบดมินตันไทยในการที่จะคว้าเหรียญรางวัลในมหกรรมโอลิมปิกเกมส์ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม หลัง "วิว" กุลวุฒิ วิทิติศาสนต์ เจ้าของแชมป์เยาวชนโลก 3 สมัยซ้อน และแชมป์โลก 2023 คว้าเหรียญเงินชายเดี่ยว "ปารีส 2024" ได้สำเร็จ แม้รอบชิงฯเจ้าตัวจะเป็นฝ่ายพ่ายให้กับตัวเทพของวงการอย่าง วิคเตอร์ อเซลเซ่น ของเดนมาร์ก ไป 0-2 เกม แต่นี่ก็นับว่าเป็นผลงานที่น่าภาคภูมิใจและน่าจดจำของวงการแบดมินตันไทยและแฟนกีฬาชาวไทยแล้ว เพราะเป็นเหรียญรางวัลแรกของทีมแบดมินตันไทยในรอบ 32 ปี  นับตั้งแต่แบดมินตันถูกบรรจุชิงชัยในโอลิมปิกปี 1992 ที่สเปน ซึ่งก็แน่นอนว่าแฟนกีฬาหลายๆคนหวังว่านี่จะเป็นการปูทางให้แบดมินตันไทยประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องบนเวทีโอลิมปิกเกมส์ด้วย

6. "ก้อง-สมเกียรติ" นักบิดไทยคนแรกในโมโตจีพี

ฝีมือ บวกความมุ่งมั่นและความพยายามที่ไม่เคยหมดไปในตัวของ "ก้อง"สมเกียรติ จันทรา นักบิดชาวไทยวัย 25 ปี จากชลบุรี ทำให้เจ้าตัวได้ก้าวหน้าในเส้นทางการเป็นนักกีฬามอเตอร์สปอร์ต หลังถูกเลือกให้เซ็นสัญญาเป็นนักแข่งในสังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ทีมแข่งในพรีเมียร์คลาส ด้วยสัญญา 2 ปี (ปี 2025-2026) หลังตลอด 6-7 ปีที่ผ่านมา สร้างผลงานในการลงแข่งขันระดับโมโตทูมาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ซึ่งการเซ็นสัญญาเป็นนักบิดในรุ่นโมโตจีพี ยังทำให้ สมเกียรติ กลายเป็นนักแข่งไทยคนแรกในการแข่งขันพรีเมียร์คลาส ของศึกมอเตอร์ไซต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกด้วย โดย "ก้อง" เองมีโปรแกรมจะลงประเดิมสนามในศึกโมโตจีพี 2025 สนามแรกที่ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 28 ก.พ. - 2  มี.ค. 2568 ด้วย

7. "อาฒยา"  ซิว 2 โทรฟี่โกยเงิน 210 ล.บาท

แม้การมีชื่อรับใช้ชาติจากการเข้าร่วมโอลิมปิกครั้งแรกในชีวิตของ "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล จะพลาดคว้าเหรียญรางวัลไป หลังจบอันดับ 18 ร่วม แพ้แชมป์  ลีเดีย โค ของนิวซีเแลนด์ ที่ตีรวม 10 อันเดอร์พาร์ อยู่ 8 สโตรค แต่ผลงานการเล่นระดับอาชีพ บนแอลพีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาลที่ 3 จัดว่ายอดเยี่ยม "โปรจีน" คว้า 2 แชมป์ คือ ดาว เแชมเปี้ยนชิพ 2024 และแชมป์รายการใหญ่ ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ แชมป์รายการนี้รายการเดียว ทำเธอฟาดเงินรางวัลก้อนโตเน้นๆถึง 138 ล้าน แถมในปีนี้ยังได้รางวัล "เอออน ริสก์ รีวอร์ด ชาลเลนจ์" ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับนักกอล์ฟที่มีค่าเฉลี่ยดีที่สุดในการเล่นหลุมยากของแต่ละสนาม ตลอดทั้งฤดูกาลอีกกว่า 38 ล้านบาท ทำเงินรางวัล 6.1 ล้านเหรียญ หรือ ประมาณ 210 ล้านบาท  รวมตลอด 3 ฤดูกาล "โปรจีน" ลงเล่น 64 รายการ จบท็อปเท็น ( ติด 1 ใน 10) รวม 41 รายการ และคว้าแชมป์ 4 รายการ ทำเงินรวมกว่า 9.8 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 338 ล้านบาท เลยทีเดียว

8. "บิ๊กป้อม" หลุดนายกกีฬาทางน้ำ ส่งผลตกเก้าอี้ปธ.อลป.

การพ่ายแพ้การเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยของ "บิ๊กป้อม" พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้กับ พลโท บุญชัย เกษตรตระการ ด้วยคะแนนเสียง 22-231 เสียง ทำให้ พลเอก ประวิตร ชวดเป็นนายกสมาคมกีฬาทางน้ำสมัย 3 ไป ซึ่งการพลาดตำแหน่งดังกล่าว ส่งผลให้ พลเอก ประวิตร ขาดคุณสมบัติในการทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยด้วย ซึ่งเงื่อนไขในการทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยระบุไว้ว่า บุคคลนั้นต้องมีตำแหน่งเป็นนายกสมาคมกีฬาใดกีฬาหนึ่งด้วย ทำให้ท้ายที่สุดแล้ว พลเอก ประวิตร ต้องลงจากตำแหน่งประธานโอลิมปิคแห่งประเทศไทยก่อนวาระจะหมดลงในเดือนมี.ค.2025 หลังครองตำแหน่งนี้มาเป็นเวลา 2 สมับ เกือบ 8 ปี โดยมีนายธรรมนูญ หวั่งลี รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคฯทำหน้าที่รักษาการแทน

อย่างไรก็ตาม หาก "บิ๊กป้อม" สามารถเข้าไปเป็นนายกสมาคมกีฬา "แห่งประเทศไทย" กีฬาใดกีฬาหนึ่งและผ่านการรับรองการจดทะเบียนก่อนเดือน มี.ค. 2568 ก็ยังคงมีสิทธิ์ลงชิงตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยอีกสมัย ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้วาระใหม่ที่จะถึงก็มีแคนดิเดตหลายคนที่ถูกคาดหมายว่าจะลงชิงตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดฯ, คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ หรือกระทั่ง นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยฯ


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport