ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่ากกท.ยันกกท.มีจุดมุ่งหมายยกระดับสวัสดิการ โดยเฉพาะในด้านที่พักนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมกีฬาแห่งชาติให้ดีขึ้น ด้วยการให้พักในโรงแรม อย่างไรก็ตามติดปัญหาที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลมาก แนะจังหวัดที่เป็นเจ้าภาพอาจต้องหาทางออกในจุดนี้ด้วยการของบอุดหนุนจากท้องถิ่นเพิ่มตเติม หรือหากไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือไม่ได้ ก็อาจต้องขอความร่วมมือกับเอกชนในการใช้อพาร์ทเมนต์เป็นทางเลือก ซึ่งก็ถือว่าน่าจะสะดวกสบายกับนักกีฬาในระดับนึง
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ออกมาเผยถึงประเด็นเรื่องของการส่งเสริมและสนับสนุนในเรื่องของสวัสดิการนักกีฬาในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ โดยเฉพาะเรื่องของที่พักนักกีฬา ซึ่งมีหลายเสียงสะท้อนออกมาถึงการที่อยากให้นักกีฬาแต่ละจังหวัดได้นอนพักในโรงแรมเพื่อความสะดวกสบายว่า จริงๆเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ กกท. หรือเจ้าภาพในแต่ละจังหวัดมุ่งหวังจะทำให้เกิดขึ้น และทำให้ได้มากที่สุด แต่อย่างไรตามยังไม่สามารถทำได้ หรือทำได้แบบครอบคลุมทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากต้องหากประเมินเป็นค่าใช้จ่ายรายหัวทั้งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่มีมากกว่า 1 หมื่นคน ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากหลายล้านบาทเหมือนกัน
"สำหรับเรื่องสวัสดิการเรื่องที่พักของนักกีฬานั้น จริงๆเรามีแนวทางอยู่ 2-3 แนวทาง ทางแรก คือ งบประมาณเดิมที่ กกท.ให้แต่ละจังหวัดเจ้าภาพซึ่งเป็นงบประมาณอุดหนุนในการจัดแข่งขันนั้น สามารถที่จะกันส่วนนั้นเอาไปใช้ได้ แล้วไปเอาเงินจากท้องถิ่นมาเพิ่มเติม ซึ่งเข้าใจว่าเงินของท้องถิ่นนั้นไม่ใช่ว่าไม่มี ความพร้อมของท้องถิ่นนั้นค่อนข้างมาเยอะ มีงบประมาณพอสมควร แต่ติดในเรื่องของข้อจำกัดทางกฎหมาย ซึ่งกฎหมายไม่ได้เปิดช่องให้ใช้ได้ทุกอย่าง อย่างเรื่องของค่าที่พักแบบนี้ เงินของท้องถิ่นใช้ไม่ได้ พอเป็นแบบนี้ ก็มีการหารือกันว่า จังหวัดอาจจะต้องกันงบจากที่กกท.ให้ไว้เพื่อใช้ในส่วนของสวัสดิการที่พัก แต่ให้ไปของบอย่างอื่นกับท้องถิ่นเพื่อไปใช้ในส่วนอื่นๆที่วางแผนเอาไว้"
"ทางเลือกทางที่สอง ก็คือการปลดล็อค ซึ่งก็ต้องขอความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงมหาดไทยต้องร่วมมือในการปลดล็อคให้สามารถงบท้องถิ่นสามารถใช้ได้กว้างขึ้นตามวัตถุประสงค์ ซึ่งหากว่ากันตามเงื่อนไขเดิมท้องถิ่นเองก็ไม่กล้า เพราะกลัวสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบ ส่วนแนวทางที่สาม ก็คือเพิ่มเงินเข้าไป อาจจะเป็นเงินจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งแนวทางที่ 3 ดูเหมือนจะทำได้ง่าย แต่เอาเข้าจริง ใน 1 ปี งบประมาณไม่พอ เพราะงบขอกองทุนฯ ต้องถูกแบ่งไปจัดสรรให้กับสมาคมกีฬาต่างๆที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมหกรรมกีฬาต่างๆที่มีเข้ามาตลอด ซึ่งก็สวนทางกับเงินกองทุนฯ ที่ลดลงเรื่อยๆ คนดื่มสุรา และสูบบุหรี่ลดลง เพราะคนรักษาสุขภาพมากขึ้น"
ผู้ว่าการกกท. เผยอีกว่า ฉะนั้นในเรื่องของพรบ.นี้ เราก็มีการหารือว่าในอนาคตเราจะทำอย่างไรได้บ้างให้กองทุนฯมีช่องทางในการเงินเพิ่มเข้ามา ไม่ใช่รองบสนับสนุนที่มาค่าภาษีสุราหรือยาสูบ เพียงอย่างเดียว ซึ่งก็ต้องไปดูที่กฎหมายและก็ต้องมีการแก้ไข เพื่อเปิดช่องให้มีการเพิ่งแหล่งเงินทุนเข้ามาสู่กองทุนฯมากขึ้นกว่านี้ ซึ่งนี่ก็อาจเป็นข้อจำกัดในทางเลือกที่สาม ซึ่งก็เป็นได้ด้วยว่า ถ้าเราอัดงบตรงนี้เพิ่มไปให้ การแข่งขันมหกรรมอื่นๆที่เรารับผิดชอบ นอกจากกีฬาแห่งชาติ แล้ว ก็ยังมีกีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬาคนพิการ และกีฬาอาวุโส ซึ่งถ้าสนับสนุนก็อาจจะต้องสนับสนุนหมดทุกมหกรรม ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าสัดส่วนทั้งหมดจะไม่น้อยเลย
"ความไปได้ว่านักกีฬาที่มาแข่งขันจะนอนโรงแรมทั้งหมดนั้นในทางทฤษฏีอาจจะมองว่าเป็นไปได้ แต่ทางปฏิบัติจริงๆนั้นไม่ง่าย เพราะติดปัญหาที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งเราก็มีการคุยกันว่า หากไม่สามารถสนับสนุนสวัสดิการที่เป็นโรงแรมที่พักให้กับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ได้ทั้งหมด ก็อาจจะปรับมาเป็นอพาร์ทเมนต์ ซึ่งค่าใช้จ่ายน่าจะถูกลงและก็มีความเป็นไปได้ ก็ต้องขอความร่วมมือกับภาคเอกชนในการเข้ามาสนับสนุนด้วย อย่างเช่นที่ชลบุรี ซึ่งมีเอกชนเยอะ ก็สามารถขอภาคเอกชนเข้ามาช่วยในเรื่องที่พัก เปิดให้นักกีฬาใช้เป็นที่พักในช่วงระหว่างแข่งขันได้ และน่าจะช่วยให้นักกีฬาสามารถพักผ่อนได้อย่างสะดวกสบายในระดับนึง" ผู้ว่าการกกท. ทิ้งท้าย