กกท.ยันปีหน้าพร้อมขับเคลื่อนกีฬาสู่ความเป็นเลิศแบบครบวงจร

กกท.ยันปีหน้าพร้อมขับเคลื่อนกีฬาสู่ความเป็นเลิศแบบครบวงจร
กกท.พอใจผลงานวงการกีฬาไทยในรอบปี 2567 แผนปี 2568 เตรียมเดินหน้าส่งเสริมกีฬา เพื่อความเป็นเลิศอย่างเป็นระบบครบวงจร หนุนวิทยาศาสตร์การกีฬาเพิ่มศักยภาพนักกีฬาเต็มสูบ

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ออกมาเปิดเผยถึงวงการกีฬาไทยในภาพรวมของปี 2567 ว่า โดยภาพรวมปี 2567 วงการกีฬาไทยขยับอันดับขึ้นสู่การแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ สามารถคว้าชัยชนะและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย โดยเฉพาะการพัฒนานักกีฬาทีมชาติหน้าใหม่และประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับโลก อย่างในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ไทยส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน 51 คน มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งด้านชนิดกีฬาและนักกีฬา โดยจำนวน 37 คนเป็นนักกีฬาหน้าใหม่ ซึ่งประเทศไทยได้ 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง รวม 6 เหรียญรางวัล เป็นอันดับที่ 12 ของเอเชีย เช่นเดียวกับพาราลิมปิกเกมส์ 2024  ประเทศไทยส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน 79 คน มากที่สุดในประวัติศาสตร์เช่นกัน ซึ่งประเทศไทย ได้ 6 เหรียญทอง 11 เหรียญเงิน 13 เหรียญทองแดง รวม 30 เหรียญรางวัล เป็นอันดันดับที่ 6 ของเอเชีย 

ดร.ก้องศักด กล่าวว่า สำหรับในปี 2568 กกท. จะดำเนินการต่างๆ ตามแผนวิสาหกิจการกีฬาแห่งประเทศไทย 2568-2572 ที่ได้กำหนดวิสัยทัศน์ "พัฒนาการกีฬาให้ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติและบริหารจัดการองค์กรอย่างมีมาตรฐาน เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมให้กับประเทศอย่างยั่งยืน" ซึ่งมีกิจกรรมสำคัญ อาทิ สนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาระดับชาติ ได้แก่ การจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬาคนพิการแห่งชาติ และกีฬาอาวุโสแห่งชาติ การเตรียมและส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ เช่น เอเชียนเกมส์ ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เวิลด์เกมส์ ครั้งที่ 12 ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน เอเชียนยูธเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่สาธาณรัฐอุซเบกิสถาน และเอเชียนอินดอร์และมาร์เชีย

ลอาตส์เกมส์ 2025 ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เป็นต้น 

"นอกจากนี้ กกท. จะเดินหน้าสนับสนุนการจัดกิจกรรมและการแข่งขันกีฬาทุกระดับเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ทั้งการจัดการแข่งขันกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ กีฬาอาชีพและกีฬามวย กีฬาเพื่อการท่องเที่ยวและนันทนาการ (Sports Tourism) ส่งเสริมการนำแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG Model) มาใช้ในการจัดกิจกรรมกีฬา โดยรายการสำคัญระดับโลก เช่น การแข่งขันรถจักรยานยนต์ โมโตจีพี, การแข่งขันวิ่งเทรล Amazean Jungle Thailand by UTMB, พัฒนานักกีฬา บุคลากรกีฬาอาชีพและกีฬามวย รวมทั้ง พัฒนาการบริการทางการกีฬา สนับสนุนกิจกรรมการเล่นกีฬาและออกกำลังกายของประชาชนทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และอีกหนึ่งแผนงานสำคัญคือ การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ ได้แก่ ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ซึ่งจะสร้างชื่อเสียง เผยแพร่เอกลักษณ์ และสร้างรายได้ให้ประเทศไทย"

"ในปี 2568 กกท. ยังคงให้ความสำคัญในการส่งเสริมกีฬาเพื่อความเป็นเลิศอย่างเป็นระบบครบวงจร มุ่งเน้นการนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้ในการพัฒนานักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬาให้มีศักยภาพในระดับนานาชาติและต่อยอดสู่กีฬาอาชีพ การพัฒนาระบบบริหารจัดการองค์กรในรูปแบบสมาร์ทออฟฟิศ และที่สำคัญคือ การที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13  ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่จะได้แสดงศักยภาพความพร้อมด้านการจัดแข่งขัน และเป็นการประชาสัมพันธ์ให้นานาประเทศรู้จักประเทศไทยมากขึ้นอีกด้วย" ผู้ว่าการ กกท.ทิ้งท้าย



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport