รมว.กีฬาเปิดงาน KICK OFF นับ 1 ถึง ซีเกมส์ ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพ

 เมื่อวันเสาร์ที่ 7 ธ.ค.2567 เวลา 18.00 น. ที่ ลานพลาซ่า การกีฬาแห่งประเทศไทย นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานคิกออฟ กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 "KICK OFF นับ 1 ถึง SEA Games ครั้งที่ 33 THAILAND 2025" และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 " Green SEA Games & Asian Para Games Sustainable future in sports" ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยงานนี้ได้รับเกียรติจาก เอกอัครราชทูตประเทศอาเซียนประจำประเทศไทยม, ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม ด้านกีฬาแห่งชาติ, ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้าร่วม 

งานนี้ยังมีผู้แทนคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, เลขาธิการคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยและผู้บริหารการกีฬาแห่งประเทศไทย ผู้แทนจังหวัดเจ้าภาพทุกจังหวัด ผู้บริหารสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยและนักกีฬา และเหล่าดารา-อินฟลูฯ รักกีฬารักษ์โลก อาทิ เขมนิจ จามิกรณ์, รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น ดารานักวอลเลย์บอลอาชีพ, เปิ้ล นาคร ศิลาชัย และลูกชาย นครา ศิลาชัย  นักกีฬาเจ็ตสกีทีมชาติ และทัพนักกีฬาไทย ที่จะมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการเปิดประตูสู่การเป็นเจ้าภาพที่ยิ่งใหญ่พร้อมกับชาวไทย เข้าร่วมด้วย 

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้รับเกียรติสำคัญ ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9-20 ธ.ค. 2568 ที่ กรุงเทพฯ, ชลบุรีและสงขลา และจัดกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 20-26 ม.ค. 2569 ที่นครราชสีมา และการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ถือเป็นนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬาที่จะมุ่งเน้นความยั่งยืน ภายใต้แนวคิด "Green SEA Games" และ "Sustainable Paralympics" ซึ่งเป็นแนวคิดรักษาสิ่งแวดล้อมในฐานะการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ นำไปสู่การส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ทั้งในด้านการใช้พลังงานสะอาด การลดขยะพลาสติก และการสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องสิ่งแวดล้อมแก่ผู้เข้าร่วมทุกภาคส่วน นำไปสู่การส่งเสริมและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเมือง รวมถึงสนามกีฬา ระบบการขนส่ง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว และช่วยเสริมสร้างเมืองที่ยั่งยืน ทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้แสดงศักยภาพของประเทศในด้านกีฬา การท่องเที่ยว และความพร้อมในระดับนานาชาติ  ควบคู่กับการสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมสุขภาพผ่านการเล่นกีฬาในทุกระดับของสังคม

"เป้าหมายสำคัญอีกประการในการจัดการแข่งขันกีฬาในครั้งนี้ เรามุ่งเน้นให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ทั้งจากการขนส่งหรือ การใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเลือกสถานที่จัดการแข่งขันที่ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การใช้พลังงานแสงอาทิตย์พลังงานลม หรือพลังงานที่ยั่งยืนในการขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ ของงานซีเกมส์ ส่งเสริมให้ผู้ชมและนักกีฬาสามารถใช้ระบบขนส่งสาธารณะ การเดินทางร่วม (carpooling) หรือใช้รถไฟฟ้าเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการเดินทาง ใช้วัสดุที่สามารถย่อยสลายได้หรือวัสดุที่รีไซเคิลได้ในงานทั้งหมด การใช้เทคโนโลยีและแอปพลิเคชันเพื่อช่วยในการจัดการทรัพยากรและลดการใช้พลังงาน ไปพร้อม ๆ กับการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับปัญหาภาวะโลกร้อนและความสำคัญของการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้กับผู้เข้าร่วมงาน SEA Games ทุกคน” นายสรวงศ์ กล่าว

นายสรวงศ์ กล่าวต่ออีกว่า การแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแข่งขันกีฬาเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 11 ประเทศ การเป็นเจ้าภาพครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทย และเผยแพร่ซอฟท์เพาวเวอร์ของไทย โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้วางแผนกิจกรรม และการประชาสัมพันธ์ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและความงดงามของสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อดึงดูดนักกีฬา นักท่องเที่ยว และผู้ติดตามการแข่งขันจากทั่วโลก

"ผมขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยทุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีในการต้อนรับนักกีฬาจากทั่วภูมิภาค และร่วมส่งกำลังใจให้กับนักกีฬาทีมชาติไทยที่จะแข่งขันในเวทีแห่งเกียรติยศนี้ความร่วมมือและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนจะเป็นพลังสำคัญ  ที่ช่วยผลักดันให้ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ในนามรัฐบาลไทย ผมมั่นใจว่าการจัดการแข่งขันครั้งนี้จะไม่เพียงแต่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่คนไทย แต่ยังเป็นต้นแบบของการจัดการแข่งขันที่ยั่งยืนสำหรับภูมิภาคอาเซียน" นายสรวงศ์ กล่าว

สำหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ครั้งนี้ ภายใต้คำขวัญ "Ever Forward" (ก้าวไปข้างหน้าไม่หยุดยั้ง) จะมีการจัดแข่งขันทั้งสิ้น 50 ชนิดกีฬา รวม 569 รายการแข่งขัน และกีฬาสาธิต 3 ชนิด และการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ภายใต้คำขวัญ "Create Pride Together" (สร้างความภูมิใจไปด้วยกัน) จะมีการแข่งขันทั้งหมด 20 ชนิดกีฬา

1.ฟุตบอลชาย : ฟุตบอลชายทีมชาติไทย คว้าแชมป์มาครองได้ 16 สมัย จากการจัดแข่งขัน 32 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดที่ทำได้ คือ ซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ปี 2017 ที่ประเทศมาเลเซีย

2.ฟุตบอลหญิง : สำหรับ ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย คว้าแชมป์ได้ 5 สมัย จากการจัดแข่งขัน 13 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดทำได้ คือ ซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ปี 2013 ที่ประเทศเมียนมา

3.ฟุตซอลชาย : ฟุตซอลชายทีมชาติไทย สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ 7 สมัย จากการจัดแข่งขัน 7 ครั้ง 

4.ฟุตซอลหญิง : ฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ 7 สมัย จากการจัดแข่งขัน 7 ครั้ง เช่นกัน

สำหรับ ประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ณ กรุงเทพมหานคร, จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 และการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 20-26 มกราคม 2569 ณ จังหวัด นครราชสีมา