44ชาติตอบรับประชันกล้ามศึกเพาะกายโลกที่จ.ภูเก็ต 6-12 ธ.ค.นี้

นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยว่า จากการที่สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ได้รับความไว้วางใจจากสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก (WBPF) ให้ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก ประจำปี 2022 ซึ่งนับเป็นอีกครั้งที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ หลังจากเมื่อ 4 ปีก่อนที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ที่ จังหวัดเชียงใหม่ในปี 2561

นายศุกรีย์ เผยต่อไปอีกว่า การรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ ทางสมาคมได้กำหนดจัดขึ้น ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต เป็นเวทีประชันกล้ามสวยจากทั่วโลกในระหว่างวันที่ 6-12 ธ.ค.นี้ และล่าสุดจากการปิดรับการส่งข้อมูลเข้าร่วมการแข่งขันจากประเทศสมาชิกของทางสหพันธ์ มีชาติสมาชิกตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 44 ประเทศ ประกอบด้วย 1. กัมพูชา, 2. ฮังการี, 3. อัฟกานิสถาน, 4. เมียนมาร์, 5. มัลดีฟส์, 6. อุซเบกิสถาน,7. อินโดนีเซีย, 8. นิว คาลิโดเนีย, 9. ศรีลังกา, 10. เวียดนาม, 11. คาซัคสถาน, 12. สหรัฐอเมริกา, 13. อินเดีย, 14. บูรไน, 15. มาเลเซีย, 16. ฮ่องกง, 17. โรมาเนีย, 18. มาดากัสกา, 19. ภูฏาน, 20. อิตาลี, 21. เกาหลีใต้, 22. เคนยา, 23.ไต้หวัน, 24. อิรัก, 25. มองโกเลีย, 26. มอริเชียส, 27. เนปาล, 28. ทาจิกิสถาน, 29. ปากีสถาน, 30. คูเวต, 31. มาเก๊า, 32. ออสเตรีย, 33. เยอรมัน, 34. สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์, 35. สปป.ลาว, 36. ออสเตรเลีย, 37. ยูเครน, 38. อียิปต์, 39. สิงคโปร์, 40. ไทย, 41. อิหร่าน, 42. บาห์เรน, 43. ปาเลสไตน์ และ 44. สาธารณะรัฐประชาชนจีน

"ส่วนจำนวนนักกีฬาและเจ้าหน้าที่กว่า 1 พันคนที่จะเข้าการแข่งใน 43 รุ่นการแข่งขัน ที่ทางสหพันธ์กำหนด ซึ่งเชื่อว่าการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมกีฬาในช่วงปลายปีให้กับประเทศไทยได้นับ 100 ล้านบาท  ส่วนของทัพนักกีฬาเพาะกายและฟิตเนสทีมชาติไทย ทางสมาคมได้มีการคัดเลือกตัวนักกีฬาที่มีผลงานในการแข่งขันระดับต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศเพื่อส่งเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้จำนวน 45 คน และจะมีการเรียกนักกีฬาทั้งหมดมารายงานตัวเพื่อทดสอบสมรรถภาพร่างกายก่อนการแข่งขันในช่วงปลายเดือน พ.ย.นี้"