ตะกร้อทีมชาติไทยยังคงยอดเยี่ยม สยบมาเลเซีย คู่ปรับตลอดกาล 2-0 ทีม ผงาดแชมป์เซปักตะกร้อทีมชุดชาย ศึกคิงส์คัพครั้งที่ 37 ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยครองแชมป์เป็นสมัยที่ 35
การแข่งขันตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพครั้งที่ 37 ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 8 ก.ย.67 เป็นการแข่งขันวันสุดท้าย ไฮไลต์ประจำวันในช่วงบ่าย เป็นการดวลเพลงเตะในประเภทเซปักตะกร้อทีมชุดชายรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง ทัพนักหวดลูกพลาสติกไทย ดีกรีแชมป์ 34 สมัย กับมาเลเซีย คู่ปรับตลอดกาล
ทีม เอ ไทยส่ง "ยาวปืนใหญ่" สิทธิพงศ์ คำจันทร์ ลงมาเสิร์ฟ, สุพศิน บุญเรือง ยืนหน้าซ้ายชง และ วรายุทธ์ จันทรเสนา ประจำการหน้าขวาฟาด พบกับมาเลเซียที่มี มูฮัมหมัด ฮาฟิค ไฮรูล(เสิร์ฟ), ฟาร์ฮาน อาดัม(ชง) และ โมฮาหมัด อัซลาน อาเลียส(ฟาด)
เซตแรก มาเลเซีย เริ่มต้นได้ดี โดยเฉพาะการเสิร์ฟของ มูฮัมหมัด ฮาฟิค ไฮรูล ที่เล่นงานทีมไทยจนตั้งหลักไม่ได้ ก่อนที่มาเลเซียจะเอาชนะไปก่อนถึง 15-4 คะแนน ให้ไทยตามหลังก่อน 0-1 เซต เข้าเซตสอง ไทย แก้เกมด้วยการเปลี่ยนตัวส่ง "ไข่นุ้ย" กฤษณพงศ์ นนทะโคตร ลงมาเสิร์ฟแทน สิทธิพงศ์ ที่เล่นไม่ออก ก่อนที่เกมจะดีขึ้น จนเอาชนะไปได้บ้าง 15-3 คะแนน ตีเสมอ 1-1 เซต และในเซตที่ 3 ทีมไทยยังเล่นได้เหนือกว่า ก่อนจะเอาชนะไปได้ 15-11 คะแนน พลิกกลับมาคว้าชัยไปได้ 2-1 เซต พร้อมกับขึ้นนำไปก่อน 1-0 ทีม
จากนั้นในทีม บี ทีมไทยส่ง "ซ้ายสั่งตาย" ศิริวัฒน์ สาขา ลงมาเสิร์ฟ, ราชัน วิพันธุ์ เล่นหน้าซ้ายชง และ ทวีศักดิ์ ทองสาย ประจำการหน้าขวาฟาด พบกับ มาเลเซียที่มี มูฮัมหมัด ซารีฟ มาริกัน(เสิร์ฟ), ไอดีล ไอมาน อัซวาวี(ชง) และ มูฮัมหมัด ชาฮัลรีล ไอมาน(ฟาด) ผลปรากฏว่าทีม บี ไทยเป็นฝ่ายเล่นได้ดีกว่า อาศัยการทำแต้มจากลูกเสิร์ฟของ ศิริวัฒน์ และการขึ้นฟาดหน้าตาข่ายของ ทวีศักดิ์ จนชนะไป 2-0 เซต 15-13 และ 15-9 พร้อมกับส่งผลให้ทีมหวายหนุ่มจากแดนสยาม เอาชนะมาเลเซียไปในที่สุด 2-0 ทีม ผงาดครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นสมัยที่ 35
ส่งผลให้ตะกร้อคิงส์คัพหนนี้ ทัพนักหวดลูกพลาสติกไทย สามารถกวาดแชมป์ทั้ง 7 ประเภทที่ส่งนักกีฬาลงแข่งขัน ประกอบด้วย ตะกร้อลอดห่วงชาย, ตะกร้อลอดห่วงหญิง, ตะกร้อ 4 คนผสม, ตะกร้อ 4 คนชาย, เซปักตะกร้อทีมชุดหญิง, ตะกร้อ 4 คนหญิง และเซปักตะกร้อทีมชุดชาย