สกู๊ปพิเศษ: "บิว ภูริพล บุญสอน" ลมกรดประวัติศาสตร์แดนสยาม

สกู๊ปพิเศษ: "บิว ภูริพล บุญสอน" ลมกรดประวัติศาสตร์แดนสยาม
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 สิงหาคม 67 แฟนกีฬาชาวไทยต่างดีใจกันทั้งประเทศ เมื่อ "เทพบิว" ภูริพล บุญสอน ลมกรดวัย 18 ปี สามารถทำได้สำเร็จ กับการคว้าเหรียญเงิน วิ่ง 100 เมตรชาย ในกรีฑาเยาวชนชิงอายุไม่เกิน 20 ปีแชมป์โลก 2024 ณ สังเวียนเอสตาดิโอ แอตเลติโก เดลาวิเดนา กรุงลิมา ประเทศเปรู

"บิว" ภูริพล บุญสอน วิ่งเข้าเส้นชัยด้วยสถิติ 10.22 วินาที โดยเหรียญทองได้แก่ บายันดา วาลาซา จากแอฟริกาใต้ 10.19 วินาที และ เหรียญทองแดง เป็นของ แบรดลีย์ โคอานา ลมกรดแอฟริกาใต้อีกคน 10.26 วินาที

แม้จะไม่ใช่เหรียญทอง ทว่าจากผลงานดังกล่าว ได้ส่งผลให้ ภูริพล บุญสอน จารึกประวัติศาสตร์ ด้วยการเป็นนักกรีฑาไทยคนแรก ที่สามารถคว้าเหรียญรางวัล จากการแข่งขันกรีฑาเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปีชิงแชมป์โลก(World Athletics U20 Championships) มาครองได้สำเร็จ

กว่าจะมาถึงวันนี้ "บิว ภูริพล" และคณะผู้ฝึกสอนกรีฑาทีมชาติ ได้นำบทเรียนจากหลายทัวร์นาเมนต์ที่ผ่านมา มาปรับแก้ไข โดยเฉพาะความผิดหวังจากกรีฑาเยาวชนโลกหนก่อน ที่เมืองกาลี ประเทศโคลอมเบีย เมื่อปี 2022

ครั้งนั้น "บิว ภูริพล" ในวัยเพียง 16 สามารถผ่านเข้าชิงในอีเวนต์วิ่ง 100 เมตรชายได้เช่นกัน แต่คว้าอันดับ 4 มาครองอย่างน่าเสียดาย โดยพ่ายเหรียญทองแดงอย่าง เบนจามิน ริชาร์ดสัน จากแอฟริกาใต้ไปเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น หลังเข้าเส้นชัยด้วยสถิติ 10.12 วินาทีเท่ากัน

ภาพจาก : Bew Puripol

นอกจากนี้ ในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ภูริพล ยังมีอาการกล้ามเนื้อตึงด้วย หลังต้องกรำศึกหนักจากการวิ่ง 100 เมตรชายถึง 3 รอบ (รอบแรก, รอบรองฯ และรอบชิง) ส่งผลให้เจ้าตัวทำผลงานในการวิ่ง 200 เมตรไม่ดี จอดป้ายเพียงรอบรองชนะเลิศเท่านั้น จนชวดเข้าชิงอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆที่เป็นตัวเต็ง

อีกทั้ง อาการกล้ามเนื้อตึงดังกล่าว ยังตามมาเล่นงานเจ้าตัวอีก ในอีเวนต์วิ่งผลัด 4X100 เมตรชาย จนต้องเข้าเส้นชัยแบบวิ่งไปกะเผลกไป สถิติที่ออกมาไม่ดีพอต่อการผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ

จากบทเรียนในกรีฑาเยาวชนโลกหนก่อน ทำให้ทีมงานผู้ฝึกสอน ตัดสินใจส่ง ภูริพล บุญสอน ลงแข่งขันเฉพาะอีเวนต์วิ่ง 100 เมตรชาย และผลัด 4X100 เมตรชายเท่านั้น ในกรีฑาเยาวชนโลก 2024

หากลงวิ่ง 200 เมตรชายด้วย ก็เท่ากับว่า เขาจะต้องลงสับฝีเท้าถึง 5 วันติดต่อกันแบบไม่ได้พัก และต้องลงแข่งขันถึง 8 รอบด้วยกัน มีโอกาสไม่น้อยที่อาการบาดเจ็บจะเกิดขึ้นอีก

เป็นที่ทราบกันดีว่า ศึกกรีฑาเยาวชนโลก ที่อุดมไปด้วยยอดนักกรีฑาวัยกระเตาะจากทั่วทุกมุมโลกมาชิงชัยกัน ดังนั้นต่อให้ลงแข่งขันในรอบแรกหรือรอบรองชนะเลิศ ก็ต้องเร่งสับฝีเท้าอย่างเต็มที่ แทบไม่มีโอกาสให้ผ่อนแรงก่อนเช้าเส้นชัยเลย

ภาพจาก : Bew Puripol

จึงกล่าวได้ว่า การให้ "เทพบิว" โฟกัสกับการวิ่ง 100 เมตร นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของทีมงานผู้ฝึกสอน ก่อนจะประสบความสำเร็จกับการคว้าเหรียญเงินประวัติศาสตร์ ในกรีฑาเยาวชนโลกหนนี้


อนาคตข้างหน้าอีก 1-2 ปี เมื่อกล้ามเนื้อแข็งแกร่งขึ้น ทนทานกับการแข่งขันระดับสูงมากขึ้น ค่อยกลับมาลงแข่งขันในอีเวนต์วิ่ง 200 เมตรด้วย

ส่วนอีกประเด็นที่ถูกพูดถึงกันกว้างขวางก็คือ การออกสตาร์ทที่สะดุดของ "เทพบิว" ซึ่งเรื่องนี้ ยังคงเป็นปัญหาที่แก้ไขไม่ตก

ในกรีฑาเยาวชนโลกหนก่อนที่โคลอมเบียเมื่อปี 2022 ภูริพล เข้าอันดับ 4 วิ่ง 100 เมตร ชวดเหรียญทองแดงอย่างน่าเสียดาย

สิ่งสำคัญที่ทำให้พลาดเหรียญในครั้งนั้น คือการออกจากบล็อกสตาร์ทที่ช้ากว่าใครเพื่อน กว่าจะตั้งลำได้ คู่แข่งวิ่งนำไปไกลแล้ว จึงเร่งไล่แซงไม่ทัน

ส่วนในครั้งนี้ ปัญหาเดิมยังเกิด เพียงแต่ว่ายังไล่แซงจนขึ้นมาจบอันดับ 2 ของการแข่งขันได้ ทว่าหากออกสตาร์ทได้เนียนกว่าที่เป็น ลมกรดไทยอาจคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ไปแล้ว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ "ยูเซ็นมิ้ว" จิระพงศ์ มีนาพระ อดีตลมกรดทีมชาติไทย ดีกรี 3 เหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 26 ณ กรุงเนปยีดอ ประเทศเมียนมา เมื่อปี 2013 ได้ให้ความเห็นว่า ที่ผ่านมา สต๊าฟโค้ชทีมชาติไทย ได้แก้ไขมาตลอด แต่บริบทนักกีฬาบ้านเรามันไม่เอื้อ

กล่าวคือ ที่ผ่านมา ภูริพล ต้องเรียนชั้นมัธยมตอนปลายที่โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ พอเรียนเสร็จก็ต้องเดินทางไกล เพื่อมาซ้อมที่ศูนย์ฝึกกรีฑาแห่งชาติ ณ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี หรือไม่ก็สนามภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต การเดินทางไกลทุกวัน ระหว่างสถาบันศึกษากับสถานที่ฝึกซ้อม นับเป็นอุปสรรคสำคัญยิ่งต่อการซ้อม

อย่างไรก็ตาม "ยูเซ็นมิ้ว" มั่นใจว่า ภูริพล จะกลับมาออกสตาร์ทได้ดีขึ้นแน่นอน เพราะเจ้าตัวกำลังจะเดินทางไปศึกษาต่อไป ณ ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ โอเรกอน มหาวิทยาลัยชื่อดังในการผลิตนักกรีฑา ในรัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา

เชื่อว่าสถาบันดังกล่าว ที่ปั้นยอดนักกรีฑาระดับโลก ขึ้นมาประดับวงการมากมาย จะช่วยยกระดับให้ "บิว" ออกสตาร์ทได้ดีขึ้น และวิ่งได้ดีขึ้นแน่นอน จึงเชื่อว่าภายใน 1-2 ปีนี้ ลมกรดรุ่นน้อง จะสามารถวิ่ง 100 เมตรด้วยเวลาที่ต่ำกว่า 10 วินาทีได้แน่ จิระพงศ์ มีนาพระ กล่าวทิ้งท้าย


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport
X