"ชัชชัย เช" เบื้องหลังความสำเร็จเทควันโดไทย

"ชัชชัย เช" เบื้องหลังความสำเร็จเทควันโดไทย
"จริงๆผมรู้สึกดีมากครับ ที่ได้เหรียญทองโอลิมปิกอีกครั้ง เมื่อก่อนผมเองเป็นเหมือนคนต่างชาติ แต่รอบนี้มาได้เหรียญทองในฐานะคนไทย ก็เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆครับ ที่เราได้แสดงให้ทุกๆคนเห็นว่าคนไทยทำได้ครับ"​

นี่เป็นบทสัมภาษณ์บางส่วนของ "โค้ชเช" ชัชชัย เช ที่เปิดใจกับผู้สื่อข่าว หลัง "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ คว้าเหรียญทอง เทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง ในศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024

ถือเป็นอีกหนึ่งครั้ง ที่ทีมเทควันโดไทย สร้างผลงานและความสุขให้กับการกีฬาชาวไทย จากผลงานการคว้าเหรียญทองของ "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ การแข่งขันเทควันโด โอลิมปิกเกมส์ 2024 สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่ได้เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2 สมัย ตอกย้ำความเป็นจอมเตะที่ยอดเยี่ยมและไร้เทียมทานอีกคนหนึ่งของวงการเทควันโดโลก

เบื้องหลังความสำเร็จของ พาณิภัค และทีมเทควันโดไทย ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าชายที่ชื่อว่า "โค้ชเช" ชัชชัย เช หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย ซึ่งเข้ามาวางรากฐาน ปั้นจอมเตะไทย จนก้าวขึ้นมาคว้าความสำเร็จในระดับเวทีโลกมาแล้วนักต่อนัก มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งยวด

หากนับผลงานที่เป็นที่ประจักษ์ ก็คือการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ซึ่ง "โค้ชเช" เริ่มสร้างชื่อจากการพา "วิว" เยาวภา บุรพลชัย คว้าเหรียญทองแดง เทควันโด โอลิมปิกเกมส์ ในปี 2004 ต่อเนื่องด้วย เหรียญเงิน ของ "สอง" บุตรี เผือดผ่อง ในโอลิมปิก 2008

จากนั้นในโอลิมปิก 2012 เป็นเหรียญทองแดงของ "เล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ ตามด้วยปี 2016 เป็นเหรียญเงินของ "เทม" เทวินทร์ หาญปราบ และเหรียญทองแดง ของ "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ก่อนที่ปี 2021 จะมาปลดล็อคเหรียญทองแรกในโอลิมปิก กับ "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ และ เหรียญทองสมัยที่สอง กับ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ในปารีส 2024

นอกจากความสำเร็จสูงสุดบนเวทีโอลิมปิกแล้ว "โค้ชเช" ยังอยู่เบื้องหลังในการสร้างความสำเร็จแบบมากมายนับไม่ถ้วนให้กับทีมเทควันโดไทย ไม่ว่าจะเป็นเหรียญทองชิงแชมป์โลก, เหรียญทองเอเชียนเกมส์, เหรียญทองชิงแชมป์เอเชีย, เหรียญทองกีฬา ม.โลก, แชมป์เวิลด์กรังด์ปรีซ์ หรือกระทั่งเหรียญทองซีเกมส์

จากสัญญาฉบับแรก 8 เดือน พร้อมโจทย์ที่ท้าทายในการคุมทีมเทควันโดไทยลงแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2002 ที่เกาหลีใต้ ก่อนจะใช้เวลาช่วงสั้นๆดังกล่าว เค้นศักยภาพของจอมเตะไทยออกมา จนคว้า 2 เหรียญเงิน ในศึกเอเชียนเกมส์รอบนั้นได้ กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของ "โค้ชเช" ที่มีความสัมพันธ์กับทีมเทควันโดไทยมาจนถึงวันนี้

"หลังหมดสัญญา ผมบินกลับมาไทยเพื่อเก็บข้าวของเตรียมกลับไปทำงานโค้ชที่อื่น เพราะช่วงนั้นก็มีหลายๆ ชาติติดต่อผมมาเหมือนกัน แต่วันสุดท้ายก่อนผมกลับ นักกีฬาเข้ามาขอร้องและพูดกับผมว่าให้ช่วยอยู่ต่อได้ไหม มันเป็นความรู้สึกที่ผมตื้นตันใจนะ เหมือนกับสิ่งที่ผมทุ่มเทไป พวกเขารู้ว่าผมทำเพื่อใคร ผมจึงตัดสินใจอยู่ไทยต่อ แม้เงินเดือนจะน้อยกว่าที่อื่น คำขอร้องของนักกีฬาในวันนั้น คือเหตุผลหลักที่ผมตัดสินใจทำทีมชาติไทยต่อ"

"โค้ชเช" เคยเปิดใจว่า หลักการและแนวทางในการฝึกซ้อมนักกีฬาของตนคือ ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งตนมักจะบอกกับนักกีฬาทุกคนเสมอว่า สิ่งแรกที่ทุกคนต้องมีก็คือวินัย และต้องซ้อมให้หนักมากว่าคนอื่น 2-3 เท่า

"นักกีฬาที่จะประสบความสำเร็จในเวทีระดับโลก ต้องหิวก่อน ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาอิ่ม จะไม่อยากวิ่ง ไม่อยากซ้อม ไม่อยากเหนื่อย ไม่อยากลำบาก ผมยกตัวอย่าง นักสู้เกาหลีใต้ หลายคนมาจากความยากลำบาก มาจากครอบครัวที่ยากจน ผมก็เคยเป็นคนจนมาก่อน พ่อผมเสียชีวิตตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ผมต้องการให้นักกีฬาเรากระหายอยู่ตลอดเวลา"

หากนับถึงตอนนี้ "โค้ชเช" อยู่เมืองไทยมาแล้ว 22 ปี ซึ่งเจ้าตัวยกให้เมืองไทยเป็นดั่งบ้านที่พร้อมลงหลักปักฐานใช้ชีวิตกับครอบครัว ภรรยาและลูก โดยตัวเองยอมสละสัญชาติเกาหลี ทิ้งเงินสนับสนุนและสวัสดิการจากการเป็นข้าราชการที่นั่น เพื่อมารับสัญชาติไทย

ทั้งนี้ "โค้ชเช" ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทย ตามประกาศของเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ที่เผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทย เมื่อ 19 ต.ค.2565 ก่อนที่ในเดือนต.ค. ปีเดียวกัน "โค้ชเช" หรือ ชัชชัย เช จะเดินทางไปยังสำนักงานเขตบางกะปิ เพื่อขอทำบัตรประชาชน และกลายเป็นคนไทยโดยสมบูรณ์ตั้งแต่เวลานั้นเป็นต้นมา

ความสำเร็จจากศึกปารีส 2024 นอกจากเติมเต็มความสุขให้คนไทยแล้ว ยังเติมเต็มความสุขให้กับ "โค้ชเช" ด้วย เพราะครั้งหนึ่ง เจ้าตัวเคยหล่นวาจาเอาไว้ว่า "อยากจะนำเหรียญทองโอลิมปิกกลับมาให้คนไทย ในฐานะโค้ชที่เป็นคนไทย ไม่ใช่โค้ชชาวเกาหลีอย่างที่เคยทำได้" ซึ่งวันนี้ทำสำเร็จแล้ว

ความท้าทายต่อไป คือ การสร้างจอมเตะระดับความหวังขึ้นมาใหม่ แทนการขาดหายไปของ "เทนนิส" พาณิภัค ที่ได้ประกาศอำลาทีมชาติอย่างเป็นทางการไปแล้ว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ "โค้ชเช" ก็ได้ให้สัมภาษณ์ด้วยเช่นกันว่า "แม้เทนนิสจะเลิกเล่นแล้วก็ตาม แต่เราก็ยังมีนักกีฬาเยาวชนที่เรากำลังปั้นอยู่หลายคน ซึ่งทุกคนก็พร้อมจะขึ้นมาทำหน้าที่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องให้เวลาแต่ละคนในการเก็บและสั่งสมประสบการณ์ ส่วนตนก็พร้อมจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ต่อไป เพื่อพัฒนานักกีฬาไทยให้ประสบความสำเร็จในเวทีแข่งขันระดับนานาชาติ"


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport